จุดเริ่มต้นของการเดินทาง พวกเราได้นัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ข้างตลาดนัดวันเสาร์ จากนั้นก็เดินทางด้วยยานพาหนะสองล้อคู่ใจ ในขณะเดินทางนั้นมีแสงแดดจ้าที่กำลังสาดส่องกระทบกับใบหน้า แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อนจนเหงื่อออกและมีแสงแยงตาจนรู้สึกรำคาญใจ แต่กลับทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ผนวกกับอีกต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าหลากสีสัน ทั้งใบไม้สีเขียวที่ผลิอยู่บนต้น ใบไม้สีแดงที่กำลังจะร่วงโรย และใบไม้ที่แห้งเฉาบ้างตกใกล้ต้น บ้างปลิวไหวไปตามสายลม พวกเราขับสองล้อคู่ใจไปตามเส้นทางถนนหลวงที่ดูสะอาดและใหม่เอี่ยม เส้นทางเลี้ยวคด ภูเขาลูกใหญ่สลับซับซ้อน เจอผู้ใช้บริการถนนเส้นนี้อยู่มากหน้าหลายตา ช่างดูตื่นเต้นไม่น้อย ถึงที่หมายแรก ณ จุดตรวจสัตว์ จะมีทางแยกติดกับร้านกาแฟสดแม่เหาะ บรรยากาศดูร่มรื่น เย็นสงบ พวกเราเร่งเจ้าสองล้อขึ้นเนินสูงที่แทบจะเป็นภูเขา เปลี่ยนจากถนนหลวงเป็นถนนซีเมนต์ ถนนแห่งนี้แคบเหมือนเป็นเส้นทางสำหรับรถเหล็กคันใหญ่เพียงคันเดียว แต่สองข้างทางก็ยังประกอบด้วยหมู่มวลพนาไพร และแสงแดดจาง และสุดเส้นทางทางซีเมนต์ ได้สัมผัสถึงเส้นทางแห่งธรรมชาติ ที่เป็นทางดินแดงบวกกับก้อนหินเล็กใหญ่และหลุมบ่อต่าง ๆ ต้องพากันหลบเป็นระวิง และยังพบกับเนินสูง สูงจนเพื่อนร่วมทางต้องลงจากเจ้าสองล้อ ต้องมีคนเสียสละลงเดินด้วยสองเท้าก่อน เส้นทางนี้นำพวกเราเข้าไปสู่หมู่บ้านกิ่วลม และอากาศที่หนาวเหน็บ มีต้นกาแฟต้นเตี้ยอยู่ขนาบเส้นทาง สลับกับต้นยาสูบสีเขียว แทงค์น้ำขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านหน้าหมู่บ้าน บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ไผ่ผ่าฟากและยกสูงจากพื้นดิน ใต้ถุนบ้านทุกหลังจะมีฟืนอยู่เต็มไปหมด แต่ละบ้านก็อยู่ติดกันเป็นหลังและปลูกต้นกาแฟแทบทุกบ้านเหมือนเป็นสัญลักษณ์ประจำหมู่บ้าน ไม่มีกำแพงที่ปิดกั้น ไปมาหาสู่กันสะดวก เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ใจกลางป่าใหญ่ การประกอบอาชีพของคนในหมู่บ้านคือการปลูกกาแฟและการเก็บเมล็ดกาแฟขายเป็นอาชีพหลักของคนในหมู่บ้าน รอบเส้นทางการเดินเท้าในหมู่บ้านจะปลูกต้นยาสูบไว้ใช้และขายเป็นอาชีพรอง หมู่บ้านกิ่วลม มีประชากรอยู่ 60 คน แม้จะมีประชากรอยู่ไม่มากแต่ภายในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นความรักความห่วงใยที่มีต่อกัน ผู้คนในหมู่บ้านเดินไปมาสนทนาปราศรัยกัน บ้างผ่าฝืนเพื่อนำมาใช้เป็นเพลิงสำหรับทำอาหารและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งทุกหลังคาเรือนจะมีฟืนหรือที่คนภาคเหนือเรียกกันว่า "หลัว" วางเรียงต่อกัน ลูกเล็กเด็กเเดงบ้างวิ่งเล่นกัน บ้างทยอยกันอาบน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการเจออากาศอันหนาวเหน็บยามค่ำคืน หมู่บ้านกิ่วลมชาวบ้านมีความอัธยาศัยดีต่อคนในหมูบ้านและคนต่างถิ่นที่มาเยือน มีความอบอุ่น รอยยิ้มที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ มอบให้เสมอ และคนที่นี่ยังมีความเชื่ออีกว่าถ้าไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยหลังจากการไปหาของป่า หรือล่าสัตว์จะใช้เปลือกไข่ไก่ที่ร้อยเป็นพวงนำไปขอขมาเจ้าที่เจ้าทางซึ่งจะมีห้อยไว้ทุกบ้าน อีกทั้งยังมีแทงค์น้ำขนาดใหญ่กักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์แก่ชาวบ้าน มานานหลายชั่วอายุคนและผู้คนต่างมีความสุขอย่างเรียบง่าย โดยไม่ได้หวังพึ่งสิ่งเร้าจากเทคโนโลยีมากมาย ; ถาพถ่ายโดยนักเขียน