ณ ปี 2551 "มาลัยๆ พวกเราไปช่วยกันจับปลาที่ใต้สะพานน้ำยวมเร็วๆ ปลาเยอะแยะเลย" เสียงฉันชักชวนเด็กนักเรียนบ้านพักคนหนึ่งด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกลงมาอย่างหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยไหลลงมาสมทบกับแม่ย้ำยวมที่เอ่อล้นใต้สะพาน พอเช้าวันรุ่งขึ้นจากปริมาณน้ำที่ขึ้นและลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปลาน้อยใหญ่ที่ขึ้นมากับน้ำ เมื่อคืนว่ายกลับลงไปไม่ทัน ทำให้ติดค้างที่แอ่งน้ำยวมใต้สะพานคอนกรีต เช้าวันนั้นพวกเราจับปลากันอย่างสนุกสนาน "ปลาอะไรค่ะพี่ ปลากดครับ ฉันตอบ" เช้าวันนั้นพวกเราช่วยกันจับปลาด้วยมือเปล่าได้ทั้งหมด 12 กิโลกรัมกว่า ๆ ส่วนหนึ่งเราเอามาทำกับข้าว อีกส่วนหนึ่งเรานำไปขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน เช้านั้นเรากินปลากันอิ่มมาก แถมมีเงินค่าขนมให้เด็กได้ติดมือไปโรงเรียนด้วย "นี่คือปลาในลำน้ำยวมที่ฉันได้พบเมื่อตอนมาอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อตอนปี 2551" :สภาพที่แห้งขอดของน้ำยวมในปัจจุบัน แม่น้ำยวม เป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงผู้คนใน 4 อำเภอสายใต้ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน คือ อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียงและอำเภอสบเมย เป็นแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดจากลำธารเล็ก ๆ ในเขตอำเภอขุนยวมไหลมารวมตัวกันกับน้ำจากลำธารน้อยใหญ่ในเขตอำเภอลาน้อย อำเภอแม่สะเรียงและอำเภอสบเมย เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แม่น้ำยวม ถือเป็นแม่น้ำที่มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์มากสายหนึ่ง โดยเฉพาะสัตว์น้ำจำพวกปลา เช่น ปลากด ปลาหางแดง ปลาตะเพียน ปลาไหล เป็นต้น มื้อไหนที่อยากจะแกงปลา ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมาก มีเพยงแหลมยิงปลากับหน้ากากดำน้ำ เราก็มีปลาให้แกงกินอย่างสบายในมื้อนั้นแล้ว :พืชเชิงเดี่ยวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดินเสียและการใช้สารเคมีมากในพืชส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัตว์น้ำทุกชนิด ปัจจุบันปลาในน้ำยวมลดลงอย่างรวดเร็วอย่างน่าใจหาย จะหาปลากินแต่ละมื้อนั้นยากเต็มที ปลาตัวใหญ่ไม่ต้องพูดถึง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ทั้งจากสารเคมีจากพืชเกษตรเชิงเดี่ยว จากเครื่องมือช๊อตปลา การระเบิดปลาหรือสารพัดวิธีที่นำมาสู่ความหายนะให้ลำน้ำยวม ธรรมชาติสร้างความสมดุลและพอดีให้กับมนุษย์ แต่มนุษย์ผู้เห็นแก่ตัว ทำลายความสมดุลและความพอดีเหล่านั้น :ปัจจุบันปริมาณน้ำในลำน้ำยวมลดลงอย่างรวดเร็ว คงถึงเวลาแล้วที่คนในลุ่มน้ำยวมจะต้องตระหนักและสำนึกในบุญคุณของลำน้ำยวม โดยต้องเริ่มจากการฟื้นฟูและช่วยกันสร้างลำน้ำยวมปัจจุบันให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับอดีตให้เร็วที่สุด เริ่มจากคนป่าต้นน้ำที่จะต้องอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ที่เป็นตัวช่วยในการดูดซึมและชะลอการไหลของน้ำไม่ให้น้ำไหลลงไปอย่างรวดเร็ว ต้องมีมาตราการที่เด็ดขาดกับคนที่ทำลายป่าต้นน้ำ รวมถึงการจำกัดเขตพื้นที่เพาะปลูกไม่ให้รุกลามป่าต้นน้ำมากขึ้น ส่วนคนปลายน้ำก็จะต้องใช้น้ำทุกหยดให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ลดการปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำมาก จำกัดและลดจำนวนรอบในการเพาะปลูก และที่สำคัญที่สุดทั้งคนต้นน้ำและปลายน้ำที่เป็นเกษตรกรจะต้องลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ใช้สารเคมีมาก จนส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำน้อยใหญ่ในลำน้ำยวม ส่วนทุกคนนั้นจะต้องเริ่มจากการไม่ทิ้งขยะลงลำน้ำยวม เพื่อไม่ให้มีสารพิษหรือสิ่งสกปรกไปทำลายสัตว์และพืชที่กินได้ หากทุกคนตระหนักและช่วยกันดูแลลำน้ำยวม หวังว่าอีกไม่นานความสมบูรณ์ทางธรรมชาติในลำน้ำยวมก็จะค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมาให้ได้เก็บผักหาปลาเหมือนดั่งลำน้ำยวมในอดีตอย่างแน่นอน ภาพ โดยผู้เขียน