เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาแอดได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดน่าน โดยมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าแค่ไม่กี่วัน เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆว่ามีที่เที่ยวที่ไหนน่าไปบ้าง ทริปนี้จะใช้เวลา 3วัน2คืน โดยได้มีการจองที่พักในเมืองน่านไว้แค่ 1 คืนเท่านั้น!!! ส่วนในคืนที่เหลือก็ตามยถากรรมของแอดแล้วล่ะ มาดูที่การเดินทางกันก่อนดีกว่า ในตอนเริ่มเดินทางจากกรุงเทพ-น่านแอดมักจะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง เส้นทางส่วนใหญ่ที่ใช้แอดจะใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองเพื่อเลี่ยงการเจอจราจรที่ติดขัดในช่วงเทศกาล เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ-น่านก็ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง โดยช่วงถนนหมายเลข 21 ในตอนนี้ได้มีการสร้างขยายถนนทำให้เหลือช่องทางเดินรถเพียงแค่ฝั่งละ 1 เลน ถ้าเพื่อนๆไปก็อย่าลืมสังเกตุและระมัดระวังกันด้วยนะครับ เอาล่ะเดี๋ยวมาดูกันเลยดีกว่าว่าที่แรกที่ได้ไปเที่ยวในจังหวัดน่านคือที่ไหนกัน Cr.ssinave สถานที่แรกเลยคือ ดอยเสมอดาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับมาพักแรมแบบกางเต็นท์นอนดูดาวกันแบบชิว ๆ ภาพอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ รีบมากจนไม่ได้เตรียมขาตั้งกล้องไป แต่ถ้าเพื่อน ๆไปก็อย่าลืมเตรียมขากล้องไปถ่ายดาวกันด้วยหล่ะ เพราะตอนกลางคืนดาวที่นี่จะสวยมากถ้าถือกล้องถ่ายละก็ คงต้องถ่ายจนเมื่อยมือกันไปข้างหนึ่งเลย มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า ดอยเสมอดาวตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีจุดชมวิวในการให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมดาว ชมพระอาทิตย์ และหมอกในยามเช้า ค่าเข้าอันนี้แอดจำไม่ได้จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ส่วนการเข้าไปกางเต็นท์ต้องเสียค่าเข้าพักข้างบนเป็นรายคนราคานี่ก็จำไม่ได้เช่นเคย แต่รับรองไม่แพงแน่นอน แอดมีทางเลือกมาให้เพื่อน 3 ทางเลือกในการไปพักแรมกางเต็นท์คือ 1.ทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่า 2.เพื่อนๆนำเต็นท์ไปเอง 3.เช่าเต็นท์จากผู้ประกอบการเอกชน ส่วนแอดใช้ทางเลือกที่ 3 โดยเลือกเต็นท์ที่พักได้ 3 คน ราคาอยู่ที่ 700 บาท ส่วนที่จอดรถทางอุทยานไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นไปจอดด้านบนเนื่องจากมีพื้นที่ที่เล็กแต่สามารถนำรถขึ้นไปถ่ายของลงได้แล้ววนกลับลงมาจอดด้านล่างที่อุทยานได้มีการเตรียมไว้ให้Cr.ssinave แน่นอนว่าไปช่วงเทศกาลก็ยิ่งมีนักท่องเที่ยวเยอะแยะเป็นธรรมดา เลยได้ลงมาจอดรถข้างล่างสุดของทางเข้าเลย ส่วนดอยเสมอดาวอยู่ตรงมุมซ้ายบนของรูปเดินกันเหนื่อยเลยทีเดียว แต่แลกกับบรรยากาศดี ๆ ได้นอนดูดาวสวย ๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถแลกกันได้ และบนดอยเสมอดาวยังมีสถานที่มหัศจรรย์อีกที่อยู่ด้วยไม่ว่าใครไปเที่ยวก็ต้องได้รูปถ่ายกลับมาทุกคน Cr.ssinave นั่นก็คือ ผาหัวสิงห์ นั่นเองเป็นหน้าผาที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโตที่นอนหมอบหันหน้าไปทางแม่นำ้และผืนป่าที่สวยงาม เป็นบรรยากาศที่งดงามมากจริงๆ จบไปแล้ว 1 วันนะครับสำหรับการเดินทางแบบไม่ได้เตรียมตัว มาต่อกันวันที่ 2 กันเลยดีกว่า ตื่นเช้ามาก็ได้เวลาเดินทางลงจากดอยกันแล้ว เนื่องจากลงมาเร็วไปหน่อยเลยยังไม่สามารถเข้าที่พักได้ แอดเลยได้ขับรถเล่นกันไป อำเภอบ่อเกลือ เพื่อฆ่าเวลากันเลย ฮ่า ๆๆ Cr.ssinave ระหว่างการเดินทางไปอำเภอบ่อเกลือก็จะได้ผ่านโค้งเลข 3 ที่ทุกคนมักจอดรถเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก โค้งนี้ตั้งอยู่ที่ถนนหมายเลข 1081 จากอำเภอสันติสุขไปอำเภอบ่อเกลือ หลักจากได้เดินซื้อของฝากจากบ่อเกลือเสร็จแล้วก็ได้เดินทางกลับเข้าที่พักในเมือง เพื่อรอเวลาออกไปเดินถนนคนเดิน จังหวัดน่าน Cr.บุนระพีเฮาล์ แอดได้พักที่ บุนระพีเฮาล์ ซึ่งมีจำนวน 4 ห้องพัก ราคาย่อมเยาว์ มีของว่างให้ทานได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย หิวเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องขับรถออกไปหาอะไรทานเลยก็ว่าได้ ส่วนพี่เจ้าของที่นี่ก็น่ารัก ใจดี คอยให้คำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวมามากมายแต่น่าเสียดายเพราะวันรุ่งขึ้นแอดก็ต้องเดินทางกลับกรุงเทพแล้ว พอ 4 โมงเย็น แอดก็ได้ออกเดินทางไปที่วัดภูมินทร์ เป็นสถานที่ตั้งของถนนคนเดิน อันนี้แอดขอแนะนำให้รีบไปเนื่องจากที่จอดรถส่วนใหญ่จะจอดรถกันข้างทาง ยิ่งไปช้าก็ยิ่งต้องเดินไกล ในส่วนซิกเนเจอร์ของถนนคนเดินที่นี่ก็คือขันโตกนั่นเองครับ ขันโตกของที่นี่เป็นที่ที่ทุกคนต้องรีบไปจับจองที่นั่งให้ไว เรียกได้ว่าใครไวคนนั้นได้เพราะที่จะเต็มเร็วมากกกกก ตอนแอดไปก็เกือบไม่ได้ที่นั่งซะละ Cr.ssinave นี่ก็คือภาพบรรยากาศของขันโตกที่ได้ไปถ่ายมา ขนาดแอดไปถึงเร็วคนยังเยอะขนาดนี้ ถ้ามาช้าคนจะล้นหลามขนาดไหนก็ไม่รู้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่เดินทางมาเที่ยวถนนคนเดินก็มักจะมาหาอะไรทานกับครอบครัว เพราะในถนนคนเดินส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายอาหารจำนวนมาก เพื่อน ๆสามารถซื้อของกินมานั่งทานที่ขันโตกได้เลย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าไปใช้บริการใดๆทั้งสิ้น แต่แอดจะขอแนะนำหน่อยว่าเพื่อน ๆควรหาที่นั่งก่อนไปหาซื้อของกินนะครับ มิเช่นนั้นเพื่อน ๆจะหาที่นั่งได้ยากมากของมากที่สุดเลยล่ะครับ เตือนแล้วนะ! Cr.ssinave เรามาถึงวันสุดท้ายกันแล้ว แอดได้แวะเที่ยวที่ วัดพระธาตุเขาน้อย โดยเดินทางออกมาไม่ไกลจากที่พักมากนัก บรรยากาศถือว่าสุดยอดไปเลย เมื่อมาอยู่บริเวณตรงพระยืนแล้วเพื่อนๆสามารถชมวิวได้แบบ 180 องศา ตรงจุดนี้เพื่อนๆจะมองเห็นเมืองน่านที่สวยงามในยามเช้า การมาวัดครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วก็ได้มีการถ่ายรูปพระยืนเก็บไว้เล็กน้อย เสร็จภารกิจในเมืองน่านเรียบร้อยแล้วแอดก็ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯเมืองฟ้าของเราในวันนั้นเลย จบไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิวนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับกับการไปเที่ยวน่านแบบไม่ได้เตรียมตัวของผม สำหรับตัวผมแล้วก็ถือไม่ได้แย่ซะทีเดียวแต่การเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนไปเที่ยวก็ถือเป็นเรื่องที่ดีกว่าอยู่ดี ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านเลยนะครับที่อ่านมาจนจบและอย่าลืมติดตามคอนเท้นท์ในครั้งหน้าของผมด้วยนะครับ Instagram: ssinave