ว่าง ๆ ออกไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดน่าน ซึ่งจังหวัดน่านนั้น มีอำเภอที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมากมาก เช่น อำเภอเมืองน่าน อำเภอปัว อำเภอนาน้อย เป็นต้น แต่ในครั้งนี้ ขอตั้งเป้าหมายไว้ที่ อำเภอบ่อเกลือ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยขับรถยนต์ไปเองคนเดียว วันที่ 1 เริ่มออกเดินทางจาก อำเภอเมืองสุโขทัยไปอำเภอเมืองน่าน โดยขับรถยนต์ ไปตามถนนหมายเลข 113 เข้าสู่ ถนนหมายเลข 101 ผ่าน จังหวัดลำปาง เข้าสู่จังหวัดแพร่ และตรงไปยัง จังหวัดน่าน สองข้างทางของถนนเป็นป่า สวยงามตลอดทาง และเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีรถน้อยมาก ขับได้สบายๆ ได้เสพบรรยากาศความสงบตลอดทาง ระหว่างทางที่ขับรถ มองเห็นจุดชมวิว เลยจอดลงไปถ่ายรูปสักหน่อย ระยะทางจาก อำเภอสุโขทัย ไปยังอำเภอเมืองน่าน นั้นห่างกันประมาณ 340 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึง อำเภอเมืองน่าน แล้ว สำหรับที่พักคืนแรกนั้น เป็นโชคดีที่มีเพื่อนอยู่ที่นั่น จึงขอพักบ้านเพื่อน สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ ซึ่งเวลากลางคืนจะมีถนนคนเดิน หรือที่คนน่านเรียกกันว่า 'กาดข่วงเมืองน่าน' จะมีการขายของกินของใช้มากมาย หรือเป็นของพื้นถิ่นที่ซื้อนำไปเป็นของฝากได้ รวมถึงมีอาหารอร่อยหลากหลาย เมื่อซื้ออาหารเสร็จแล้วเราสามารถนำอาหารไปนั่งรับประทานบริเวณลานข่วง ที่มีการจัดที่นั่งไว้ แม้ในช่วงนี้จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ทุกท่านสบายใจได้เนื่องจากที่นั่งรับประทานอาหารนั้นทางจังหวัดน่านได้จัดไว้ห่างกันตามหลักการป้องกันเชื้อไวรัสเป็นอย่างดี บริเวณลานนั่งรับประทานอาหาร อากาศในยามค่ำคืนเย็นสบายกำลังดี บรรยากาศดีมาก อยู่ใกล้วัดภูมินทร์ ที่มีการตกแต่ง ประดับไฟสวยงาม และยังมีดนตรี มาบรรเลงขับกล่อมใฟ้ฟังอย่างเพลินๆ อาหารที่แนะนำ คือ ไส้อั่ว เมี่ยงคำ และแกงเรียง พอรับประทานอาการเสร็จก็กลับไปพักผ่อนเตรียมตัวเดินทางในวันต่อไป วันที่ 2 วันนี้ออกเดินทาง จากอำเภอเมืองน่าน ไปยัง อำเภอบ่อเกลือ โดยใช้เส้นทาง ถนนหมายเลข 1169 ซึ่งจะเป็นถนนที่มุ่งไปยัง จุดถ่ายรูปที่เป็นที่นิยมคือ จุดถนนรูปหมายเลข 3 แต่ก่อนที่จะถึงนั้น ถนนเส้นนี้จะผ่านร้าน Nan Native Kew Muang (น่านเนทีฟ กิ่วม่วง) ร้านอาหาร คาเฟ่ ของ เชฟเฟิร์ส แชมป์ Master Chef Thailand Season 2 ซึ่งร้านเปิดประมาณ 10.00 โมง แต่ตอนไปถึงนั้น เวลาประมาณ 8 โมงร้านเชฟเฟิร์สยังไม่เปิด จึงได้เข้าไปทานอาหารที่ร้าน เดอะวิว@กิ่วม่วง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กอีกที่หนึ่ง ของจังหวัดน่าน บรรยากาศดีมากมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขา และท้องฟ้า หลังจากรับประทานอาหารแล้ว ก็ออกเดินทางต่อได้เลย มีน้ำตกให้แวะเที่ยวแช่เท้าให้ปลาตอดเล่น คือ น้ำตกตาดหลวง ซึ่งเป็นทางผ่าน นั่งเอาเท้าแช่น้ำ มีปลาคอยตอดเท้าเพิ่มความผ่อนคลายด้วย ชื่นชมธรรมชาติ พักเหนื่อยกันสักนิด แล้วเดินทางกันต่อ ออกจากน้ำตกแล้ว เราก็ขับรถตรงมาเข้าสู่ถนน 1081 จนมาถึงจุดถ่ายรูปที่เป็นถนน รูปหมายเลข 3 ที่ใครๆก็จอดถ่ายรูปกัน ถนนสายนี้ตลอดสาย เรียกกันง่ายๆว่า ถนนลอยฟ้า ซึ่งเป็นถนนที่คล้ายเราลอยฟ้าอยู่ อยากได้ภาพสวยๆ ใช้โดรนถ่ายจะดีมาก ขับรถต่อมา ถึง อำเภอบ่อเกลือ ที่ชื่อว่าอำเภอบ่อเกลือเนื่องจาก ที่แห่งนี้เป็นแหล่ง บ่อน้ำเกลือสินเธาว์ ซึ่งชาวบ้านจะนำน้ำจากบ่อ ซึ่งเป็นน้ำเค็มตามธรรมชาติ มาต้มเพื่อให้เกิดการระเหยของน้ำกลายเป็นเกลือ ซึ่งบ่อเกลือโบราณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสดงถึงวิถีชีวิตชาวบ้านในชุมชน ด้านในจะมีเกลือสินเธาว์ ขายหลากหลายชนิด ทั้งเกลือสำหรับขัดตัว แช่เท้า ล้างหน้า สระผม รับประทาน สามารถซื้อไปฝากญาตสนิทมิตรสหายได้ โดยแนะนำเป็นเกลือกระปุกขัดผิวสีชมพู เพราะมีกลิ่นหอมมาก อีกทั้งเมื่อขัดตัวแล้วผิวนุ่มขึ้นมาทันที ภาพสินค้าเกลือสินเธาว์จาก : https://pbs.twimg.com/media/ENVrEH2UcAECmNt?format=jpg&name=medium หลังจากที่เที่ยวบ่อเกลือโบราณแล้ว เราก็เข้าสู่ที่พักของเรา คือ อาโปเดอมาง เป็นที่พักอยู่ด้านล่างของภูเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ที่สำคัญคือ ติดลำน้ำว้า มีลำน้ำหว้าไหลผ่าน น้ำใสน่าเล่น เลยลงไปอาบน้ำสักหน่อย แล้วลองเอาเกลือขัดตัวที่พึ่งซื้อมา ลงมาขัดผิว สบายตัวมากๆ เล่นน้ำจนสดชื่นแล้วตกเวลากลางคืน ทางที่พักได้จัดเตรียมอาหารเอาไว้ให้ด้วยเป็นเตาปิ้ง พร้อมบาร์บีคิว เห็ด และมันม่วง เอาไว้ให้ย่างกินคลายหิวยามค่ำคืน พออิ่มแล้ว ได้เวลานอนหลับพักผ่อนเพื่อเผชิญเช้าวันใหม่ วันที่ 3 ตื่นเช้ามาประมาณ 04.30 น. เพื่อที่จะขึ้นไปจุดชมวิว 1715 ดอยภูคา สาเหตุที่ขึ้นไปเช้าเพราะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น พอตื่นมาเดินมาที่รถ ก็มีก้อนเมฆหมอกน้อยๆ ลอยอยู่บริเวณที่พักแล้ว อากาศเย็นสบายมากแม้จะอยู่ด้านล่างของภูเขาก็ตาม จากนั้นจึงขับรถขึ้นเขาไปที่จุดชมวิว ในใจคิดว่าต้องมีคนเยอะแน่ๆ แต่พอขึ้นไปถึง ไม่มีใครเลย เป็นบรรยากาศที่ดี และเงียบสงบมากๆ แนะนำให้ไปตอนเช้าเลยคนน้อยมาก จนถึงไม่มีคนเลย รับรองได้รับบรรยากาศเหมือน private trip เลย หลังจากชมวิวที่จุดชมวิว 1715 แล้วเราก็ลงไปถ่ายรูปเล่นบริเวณที่พักสักเล็กน้อย และเล่นน้ำอีกสักรอบให้พอสบายใจ พร้อมทานอาหารเช้าที่ที่พักจัดเตรียมไว้ให้ หลังจากทานอาหาร ได้เวลาบอกลาจังหวัดน่านแล้ว จังหวัดน่านยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ที่น่าสนใจ ทริปนี้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดน่านเท่านั้น อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสบรรยากาศ เย็นสบาย สโลไลฟ์ ที่ น่าน กันนะครับ ภาพถ่าย โดย NugooN