ภาพปกจาก ผู้เขียน นครน่านคือบ้านข้า ล้านนาคือบ้านเฮา คำที่ผมได้ยินตั้งแต่เด็ก ๆ เมืองน่านเป็นดินแดนล้านนาตะวันออก เมืองแห่งขุนเขา เมืองที่ไม่ใช่ทางผ่าน เมืองที่ต้องตั้งใจไป และเป็นเมืองที่ผมเกิดและเติบโต ทุกคนคงทราบกันดีว่าเมือง น่าน เป็นเมืองที่อยู่ในกระแสการท่องเที่ยว ยิ่งในช่วงสิ้นปี หรือในฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่เมืองน่าน ด้วยเอกลักษณ์ของเมืองน่านและคนน่าน ที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นล้านนาเอาไว้ได้ เมืองน่านมีธรรมชาติ วัดวาอารามศิลปะช่างน่านที่สวยงาม ตลอดจนรอยยิ้มของผู้คน ความเรียบง่ายของการใช้ชีวิต หรือที่เรียกว่า ความต๊ะตอนยอน หรือ น่าน เนิบ เนิบ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ ของเมืองน่าน ทำให้เป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชอบดื่มด่ำกับธรรมชาติ ชอบในความสงบ เรียบง่าย ให้เดินทางเข้ามาอย่างล้นหลาม การหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวเยี่ยมชมเมืองน่าน นับว่าเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ชาวเมืองน่าน และทำให้เมืองน่านเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และหากใครที่เข้ามาเที่ยวเมืองน่านผมอยากเสนอแลนด์มาร์คที่ต้องไปเยี่ยมชมคือ ถนนคนเดินข้างวัดภูมินทร์ จุดเด่นของถนนคนเดินที่นี่ มีการขายอาหารเหนือ และของฝาก ของแฮนด์เมดต่าง ๆ มากมาย โดยมีลานให้นั่งทานอาหาร คนน่านเรียกว่า ข่วงเมืองน่าน มีฉากเป็นวัดภูมินทร์ นักท่องเที่ยวจะหาซื้ออาหารเหนือ มานั่งทานกับพื้นในแบบขันโตก พร้อมทั้งมีการขับร้องทำนองเพลงเหนือให้ฟัง เป็นการสร้างบรรยากาศให้เข้าถึงความเป็นล้านนาได้มากขึ้น โดยวัดภูมินทร์มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีการสร้างโบสถ์และวิหารเป็นอาคารเดียวกัน มีทางเข้า 4 ด้าน และที่สำคัญวัดภูมินทร์ยังเคยถูกใช้พิมพ์ลงบนธนบัตรไทย ราคา 1 บาทอีกด้วย รูปภาพจาก ผู้เขียน ฝั่งตรงข้ามกับวัดภูมินทร์ คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ซึ่งที่แห่งนี้เคยเป็น คุ้มเจ้าผู้ครองนครน่านมาก่อน คนน่านจะเรียกว่า หอคำ คำว่า คุ้ม ก็เปรียบได้กับคำว่า วัง ของคนภาคกลาง แต่พอมีการรวมเมืองน่านให้เป็นส่วนหนึ่งของสยาม และจนสิ้นเจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้าย หอคำก็ถูกเปลี่ยนให้เป็น ศาลากลางจังหวัดน่าน และในปัจจุบันจึงเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ภายในมี 2 ชั้น ชั้นล่างส่วนใหญ่แสดงถึงความเป็นอยู่ เอกลักษณ์ วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของคนเมืองน่าน ชั้นบน แสดงถึงเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของน่าน และที่สำคัญด้านบนยังแสดงโชว์ งาช้างดำ ซึ่งเป็นงาช้างที่เป็นสีน้ำตาลดำ ที่มีเพียงกิ่งเดียวในประเทศไทย อีกด้วย รูปภาพจาก https://www.facebook.com/CharmNanToday ด้านหน้าหอคำ จะเป็นลานกว้าง ซึ่งแลนด์มาร์ค ที่สำคัญก็คือ ซุ้มลีลาวดี จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวพากันเข้ามาถ่ายรูปเก็บบันทึกความสวยงามภายในบริเวณหอคำแห่งนี้ ในฤดูหนาวซุ้มลีลาวดี จะไม่มีใบจึงเห็นเป็นกิ่งก้านของต้นลีลาวดี ทำให้รูปถ่ายออกมาสวยงามแปลกตา แต่หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวช่วง เดือนพฤษภาคม หรือใกล้ฤดูฝน ซุ้มลีลาวดีก็จะมีใบขึ้นมาให้เห็นอย่างเขียวขจี รูปภาพจาก https://www.facebook.com/CharmNanToday จังหวัดน่านยังคงมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังในบทความหน้า ผมในฐานะชาวเมืองน่าน อยากให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดื่มด่ำความเป็นล้านนา และการเข้ามาท่องเที่ยวของท่านผมอยากให้ทำตัวแบบ เนิบ เนิบ (ช้า ๆ ตามสไตล์คนเหนือ) ดังสุภาษิตที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม เพื่อซึมซับความเป็น น่าน เมื่อท่านได้ไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อยากให้ท่านช่วยดูแลรักษาความสะอาด และไม่ทำลายโบราณสถานต่าง ๆ เพื่อที่แหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ จะได้คงไว้ซึ่งความสวยงามทางธรรมชาติและยังคงความเป็นวัฒนธรรมล้านนาไว้ตลอดไป มาแอ่วเมืองน่าน แล้วจะฮักน่าน เพราะน่าน เนิบ เนิบ ท้ายนี้ผมขอฝากการเดินทางเข้าสู่เมืองน่าน (มุ่งสู่เมืองน่านโดยตรง) รถส่วนตัว รถประจำทาง เครื่องบิน