“น่านหนาว มาเยือนแล้ว” สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้เรามาแพ็คกระเป๋าเดินทางขึ้นเหนือรับลมหนาวกันดีกว่า และวันนี้จังหวัดที่เราเลือกจะเดินทางไปพร้อมกันนั้นคือจังหวัด “น่าน” จังหวัดแห่งมนเสน่ห์ที่ใครมาแล้วรับรองว่าต้องมีเดินทางกลับมาซ้ำอีกแน่นอน เป็นเพราะอะไรนะหรอ ให้รีวิวบทความนี้เป็นคำตอบให้คุณนะคะ บทความนี้จะแบ่งเป็น 3 ep. ใหญ่ๆ เพราะ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นแบบคุ้มมากมาก อยากจะเล่าให้ทุกคนได้เห็นภาพมากที่สุด และจะรวมค่าใช้จ่ายในep. สุดท้ายนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเราเริ่มเดินทางกันดีกว่า ครั้งนี้เราเลือกเดินทางกับ นครชัยแอร์ ค่ะ เที่ยวรถเดินทางคือช่วงเวลา 20.30 นาที ที่จริงมีหลายช่วงเวลานะคะสอบถามกับทางนครชัยแอร์ได้เลย ที่นั่งบนรถสบายค่ะสามารถปรับเบาะนอนได้แอร์เย็นแถมยังมีหนังให้ดู ช่วง 23.00 โดยประมาณจะพักรถให้แวะทานอาหารรอบดึกก่อนจะเดินทางยาวจนถึงรุ่งเช้านะคะ หลับยาวเลยค่ะหลังจากนั้นลืมตามาอีกทีก็เข้าสู่ประตูเมืองจังหวัดน่านสะแล้ว โดยรถจะถึงจังหวัดน่านในช่วง 06.00 - 07.00 นาที ไม่เกินนี้ค่ะจะจอดที่ ขนส่งของจังหวัดเลย เดินลงมาจากรถจะมีห้องน้ำให้ล้างหน้าแปรงฟัน และมีร้านขายของให้รองท้องด้วยนะคะ ที่สุดของที่นี้แน่นอนค่ะว่า บรรยากาศดีมากมาก มาถึงที่นี้แล้วสามารถเลือกได้เลยนะคะว่าจะเช่ารถ มอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ มีให้เลือกมากมายเลยค่ะ ราคาน่ารักมากมาก และเจ้าของทุกที่ใจดีหมดเลย และทางเราใช้บริการของคุณ ชมพู่ น่ารักและใจดีมากมาก สามารถติดต่อคุณชมพู่ได้ที่เพจ Carrental&Service รถเช่าน่าน เที่ยวน่านม้วนใจ๋ ได้เลยค่ะ ขับรถขึ้นเขาไม่มีสะดุด ปลอดภัยแน่นอนจ้า หลังจากได้รถแล้วความสนุกก็เพิ่มมากขึ้น ลุยกันเลยค่ะ ไม่กินแล้วข้าวปลา จุดมุ่งหมายแรกคือเข้าที่พักค่ะ รีบโทรหาที่พักเลยอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาก แต่ฝันก็สลาย เพราะสามารถเข้าพักได้ 14.00 เป็นต้นไป แต่นี้พึ่งจะ 9.00 โมงเช้า จะไปอยู่ที่ไหนดีละทีนี้ สุดท้ายก็ต้องพึ่ง กลุ่มใน facebook ค่ะ หลงรักน่าน ได้โลเคชั่น ตาม นักท่องเที่ยวในนั้นเยอะมากๆ เริ่มจากไปไหว้ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเลย สถานที่นี้สวยมากค่ะสาวๆคนไหนใส่ขาสั้นเข้ามาทางวัดมีผ้าถุงให้ห่มเข้าไปนะคะ เอาฤกษ์เอาชัยเรียบร้อยแล้วไม่พอนะคะน่านเป็นจังหวัดที่วัด เยอะพอๆกับจังหวัดอยุธยาเลยค่ะ เลยมีเป้าหมายกันว่า เรามาเก็บแต้มบุญกันระหว่างรอเข้าที่พัก และวัดต่อไปที่เดินทางไปนั้นไม่ใกล้ไม่ไกลศาลหลักเมืองเท่าไหร่ค่ะ นั้นคือ วัดภูมินทร์ ที่มีภาพวาด กระซิบรักบันลือโลก นั้นเองจ้า เหมือนเคยค่ะสาวๆนุ่งสั้นมาอย่าลืมห่มผ้าถุงก่อนเข้าโบสถ์กันด้วยนะคะ ภายในวัดที่นี้สวยสะกดสายตามากๆค่ะ มีพระพุทธรูปหันหน้ารอบโบสถ์สะดวกต่อผู้คนไม่เบียดกันไหว้ค่ะ เย็นสบายมากมากและยังมีภาพวาดอื่นอีกมากมายให้ชมด้วยนะคะ วัดต่อไปคือวัด พระธาตุแช่แห้ง เป็นวัดที่บ่งบอกถึงความเป็นภาคเหนือมากมากค่ะบรรยากาศรอบวัดการตกแต่งที่เป็นแบบพื้นเมืองเดิมๆทำให้วัดแห่งนี้ดูเป็นวัดที่เงียบสงบ สบาย ซึมซับความเป็นคนเหนือได้ดีทีเดียวค่ะ ภายในโบสถ์เป็นพื้นเดิมแบบสมัยก่อนปูเสื้อนั่งสะอาดตามากค่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกลจะเจอวัด ศรีพันต้น ค่ะเป็นวัดที่สะดุดตามากมากเพราะภายนอกตกแต่งด้วยสีทองอร่าม สว่าง 100 เมตรก็ยังเห็น ด้านนอกว่าสวยแล้ว ด้านในสวยมากกว่าอีกนะคะ บริเวณด้านนอกวัดจะมีร้านขายดอกไม้ ขายของที่ระลึกมีให้เลือกชมมากมายค่ะ ใช้เวลาอยู่กับวัดจนมองนาฬิกาอีกทีก็ปาไป 12.45 นาทีแล้ว หิวจนแทบจะเป็นลมแล้วละค่ะ และเราก็ไม่พลาดที่จะต้องทานอาหารพื้นบ้านและขึ้นขื่อของที่นี้ “ร้านข้าวซอยต้นน้ำ ร้านอยู่ใจกลางเมืองน่านเลยค่ะหาง่ายคนเยอะแต่รอไม่นานเลยนะ มีหลากหลายเมนูให้เลือก แต่ที่สุดของร้านต้องยกให้ ข้าวซอยไก่ และ ข้าวซอยเนื้อ อร่อยยกนิ้วไปเลย หลังจากทานจนอิ่มแล้วหนังตาเริ่มจะหย่อนแล้วสินะ ใกล้ถึงเวลาเข้าที่พักแล้วค่ะ เราเลยออกเดินทันที เพราะจากตัวเมืองถึงที่พักใช้เวลา 30 - 45 นาที ไปถึงคงพอดีกับเวลา ระหว่างเดินทางไปอำเภอสันติสุขวิวข้างทางก็ดึงดูดให้จอดพักถ่ายรูปเป็นพักๆ ที่นี้สวยมากตามเสียงเล่าขานไม่ผิดหวังจริงๆถึงที่พักเราแล้วค่ะเข้าที่พักช้าไปเกือบ ชั่วโมงเพราะข้างทางสวยมากจริงๆ และคืนแรกเราเลือกเข้าพักที่ “ศรีนาม่าน” และความประทับใจแรกของการก้าวลงมาจากรถคือ พี่ๆพนักงานออกมาตอนรับที่หน้าถนนพร้อมยกมือไหว้พวกเราแบบยิ้มแย้ม ทำเอาพวกเรารีบทิ้งของในมือและยกมือไว้กลับทันที จากนั้นพี่ๆพนักงานพาพวกเราไปที่ ล็อบบี้ เพื่อพักเหนื่อยและเตรียมเรื่องของอาหารการกินอยู่ ระหว่างนั่งพักทางที่พักมี Welcome Dring ให้ดื่มเป็นอัญชันมะนาว สดชื่นค่ะ คล้ายร้อนได้ดีทีเดียว ระหว่างนั้นพี่พนักงานจะเข้ามาให้เราเลือกกลิ่นสบู่ที่จะใช้ในการอาบน้ำทาครีมซึ่งทางที่พักจะมี 3 กลิ่นให้เลือกค่ะ เราสามารถเลือกได้ตามที่ชอบเลย พร้อมกับ เมนูอาหารเช้าในวันถัดไปว่าต้องการทานแบบไหน ส่วนมือเย็นของวันนี้ทางที่พักจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเลือกทุกอย่างเสร็จแล้วเดินทางเข้าห้องพักกันนะคะ จะมีพี่ๆช่วยถือของให้ถ้าหากเราขนสัมภาระมาเยอะ และมีพี่ๆคอยกางร่มให้ด้วยเกรงใจสุดๆเลย ทางเดินเข้าห้องจะเป็นสะพานไม้ไผ่มาถัก เรียงต่อกัน รายล้อมด้วยต้นไม้ทั้งสองข้างทางค่ะ เสียใจมากมากที่ไม่ได้เก็บภาพภายในห้องมาให้ชม เนื่องจากรูปบางส่วนหายไปแต่จะอธิบายให้ฟังว่าห้องตกแต่งเป็นห้องปูนเปลือยมีเตียงขนาด 6 ฟุต และมุ้งกันยุงและแมลง หน้าต่างรอบห้อง และผ้าม่านสีเทาทึบปิดหน้าต่าง หลังห้องเป็นระเบียงตะข่ายนอน ด้านหลังมีทุ่งนา และมีห้องน้ำในตัวนะคะ ทุกห้องของที่พักมีอ่างหมดเลยค่ะ และยังมีบริการตีฟองให้กับแขกทุกห้องด้วยนะคะ และความน่ารักของที่นี้คือมี Afternoon Tea ให้ด้วยปลื้มที่สุด ถ่ายรูปกันจนเพลินค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้วจึงแยกกันไปอาบน้ำ และออกมารอทานอาหาร หากหิวก่อนเวลา สามารถแจ้งพี่พนักงานให้ยกมาเสิร์ฟได้เลยค่ะ จะทานในห้อง หรือจะออกมาทานที่แคร่ ที่ทางที่พักจัดให้ก็ได้นะคะ ซึ่งเมนูอาหารเย็นจะเป็นอาหารง่ายๆของทางเหนือ อร่อย และสามารถเติมได้ด้วยนะคะถ้าไม่อิ่ม ส่วนบรรยากาศรอบๆของช่วงเย็นจะเย็นสบายลมพัดตลอดเวลาเลยค่ะ ไม่ค่อยมียุงมารบกวนและเปิดเพลงเหนือคลอๆสบายใจที่สุด หลังจากอิ่มหนำกันแล้วไฮไลท์คืนนี้คงไม่พ้นการเอาร่างกายตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีฟองแบบสบายตัว สามารถแจ้งช่วงเวลาที่จะให้พนักงานเข้ามาทำฟองได้เลยนะคะและสามารถสั่งเครื่องดื่มเข้าทานได้เลยทางที่พักมีผ้าม่าน เทียน วางไว้ให้โรแมนติกที่สุด บรรยากาศช่วงกลางคืนเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครเข้ามารบกวนเลย และค่ำคืนนี้เราจะพักผ่อนและลากันไปด้วยค่ำคืนที่แสนจะมีความสุข และเจอกันep. ที่2 กับการเดินทางที่เหลือของเรานะคะ *รูปและปกเป็นของตัวเองทั้งหมด* วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !