"น่าน" เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ชอบ ภูเขา ทะเลหมอก ต้นไม้ น้ำตก อากาศที่เย็นสบาย ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่พลาดเช่นกัน สำหรับครั้งที่สามของการเดินทางไป "น่าน" จุดหมายปลายทางขอเป็น อำเภอบ่อเกลือ และเลือกใช้บริการ ททท.น่าน สำหรับข้อมูลท่องเที่ยวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ททท.น่าน แนะนำ ท่องเที่ยวภายใน 1 วัน ดังนี้ - น้ำตกสะปัน ในหมู่บ้านสะปัน - บ้านห้วยโทน - ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา และบ่อเกลือโบราณ ทุกอย่างพร้อม รถตู้สำหรับ 11 คน ที่พัก 2 คืน สำหรับที่พักจะชอบอุทยานแห่งชาติค่ะ เหตุผล คือ รู้สึกปลอดภัย ที่พักมาตรฐาน ใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาไม่แพง ได้อุดหนุนหน่วยงานของรัฐ อุทยานแห่งชาติขุนน่าน คือ ที่ที่เราเลือก ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เงียบ สงบ อยู่ท่ามกลางภูเขา ธรรมชาติโดยรอบสวยงาม "บ้านห้วยโทน" ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ คือสถานที่แรก ที่จะไปเยือน ข้อมูลเบื้องต้นคือ เข้าไปผ่านภูเขาสิบลูก ปลูกกาแฟ ต้องติดต่อ ผู้ใหญ่บ้านก่อนเข้าไป รถตู้เข้าไม่ได้ เรานัดผู้ใหญ่ไว้ แปดโมงเช้า ที่สะพานบ้านสะปัน ที่บ้านสะปัน เราได้ดื่มด่ำ กับทะเลหมอกที่เยอะมาก ถ่ายรูปพอสมควร อากาศดีมาก พอมีนักท่องเที่ยวบ้าง เพราะที่นี่จะมีโฮมสเตย์ อาหารเช้า เราเริ่มกระจายรายได้สู่ชุมชน ซื้อขนมจีบร้านค้าในบ้านสะปัน อร่อยมากค่ะ คนขายบอกว่ามาจาก อ.ปัว ร้านค้าในหมู่บ้าน มีอยู่สองสามร้าน สังเกตว่า จะขายทุกอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า อาหารสด แห้ง อุปกรณ์การเกษตร อุปกรณ์ทำขนม ฯลฯ ที่อำเภอบ่อเกลือไม่มี เซเว่นนะจ๊ะ เด็ก ๆ ที่หมู่บ้านน่ารักมากค่ะ เห็นนักท่องเที่ยวจะยกมือไหว้ (ถึงแม้นเราจะนั่งบนรถ) และก็ถึงเวลานัดหมาย เราเจอะกันไม่ยาก พี่คนขับรถบอกว่าต้องมาส่งหลานเพื่อมาโรงเรียนที่บ้านสะปันด้วย คนพร้อมรถพร้อม ลุยเลย แค่ขึ้นเขาโค้งแรก เสียงร้อง โอ้ยโห ก็ประสานเสียงดังขึ้น สวยงามอะไรเช่นนี้ ทางข้างหน้าเป็นภูเขาเป็นสิบลูกเรียงรายสลับซับซ้อนกันอยู่ คนขับรถบอกว่าถ้ามาเร็วกว่านี้ทะเลหมอกจะเยอะมาก แค่นี้เราก็ตื่นตาตื่นใจมากแล้ว เส้นทางไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ลูกรังขึ้นลงภูเขาน้อยใหญ่ ที่แรกก็เสียวการขึ้นลงเขา ต่อไปเริ่มชิน ระยะทางถึงบ้านห้วยโทน จากบ้านสะปัน 9 กม. และไม่ใช่ภูเขาสิบลูก มันมากกว่านั้น นับไม่ถ้วน แต่กว่าจะถึง ได้สัมผัสกับทุกอารมณ์ ความรู้สึก เสียว ตื่นตาตื่นใจ สดชื่นกับอากาศ ดีใจที่ได้มา เจ็บตัว (ล้มลุกคลุกคลาน, ต้นไม้ข้างทางเกี่ยว) มีจอดรถระหว่างทางเพื่อดูจุดชมวิว จริงๆแล้ว มันเป็นจุดชมวิวได้ตลอดทาง มองไปทางไหนก็สวย สุข สดชื่น ที่นี่จะปลูกกาแฟอาราบิก้า และพริกหวาน เป็นหลัก แต่พี่คนขับรถพาไปชมสวนมะเขือเทศของเขา ตอนนี้เพิ่งปลูกยังไม่มีผล เขาจะนำไปขายที่ตลาดไท หรือที่โรงแรม ในกรุงเทพฯ ฉะนั้นถนน ที่สะดวก สำหรับใช้ขนส่งพืชผลจึงสำคัญมาก ชาวบ้านได้ร่วมมือกัน โดยหักเปอร์เซนต์จากรายได้ที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยว เอามาทำถนน หรือ จากกิจกรรมต่าง ๆ แล้วแต่ตกลงกัน ถนนเป็นคอนกรีตทำเฉพาะให้ล้อเหยียบ ทำไปเรื่อย ๆ ตามเงินทุน บ้านของชาวบ้านจะอยู่ตามไหล่เขา ไม่มีพื้นที่เป็นลาน มีไฟฟ้า ดูสะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่นี่มีโฮมสเตย์ (ขอพักคราวหน้า) เราใช้เวลากับ การเดินทางอันแสนประทับใจประมาณสองชั่วโมง สิ่งที่ได้กลับมา คือได้เห็นธรรมชาติอันงดงาม เห็นต้นไม้อันเป็นป่าต้นน้ำ ที่ชาวบ้านได้รักษาไว้ ได้อากาศอันบริสุทธิ์ ความสุข สนุกสนานจากการนั่งรถ พริกหวาน ก.ก.ละ 50 บาท 10 ก.ก. (แถวบ้านซื้อลูกละ 40 บาท) กาแฟไม่ได้ซื้อต้องจองก่อนไป ไม่มีไว้ขาย แล้วก็อิ่มบุญ ร่วมบริจาคสร้างถนนอีก 1,000 บาท สุดท้ายเราท่องเที่ยวต่อตามคำแนะนำของ ททท. เราจะกลับไปเยือนอีกนะ "ห้วยโทน" ติดต่อผู้ใหญ่บ้านห้วยโทน: 082-1900491 เครดิตรูปภาพ: หน้าปกและอีก 6 ภาพ จากผู้เขียน รูปสุดท้าย: จากพี่คนขับรถ (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)