เที่ยวน่านให้ถึงน่านตอนที่หนึ่งนี้ หนานถาจะขอพาแขกแก้ว เที่ยวเมืองน่านดินแดนแห่งล้านนาตะวันออก แบบง่ายๆสบายๆ เอาม่วนนัน(สนุกสนาน) พองาม ไม่ไกลไม่ไกล หากได้ลองเที่ยวเช้าๆพร้อมไก่โห่ หนานถาขอรับประกันความเย็นกับหมอกขาวๆไอหนาวฟินๆ แสงตะวันงามๆคอยสาดส่องในตอนเช้าๆของฤดูหนาวที่กำลังเริ่มขึ้นนี้ หากจะไปสายๆสักนิดก็ไม่ต้องกังวนว่าจะร้อนเพราะที่ๆหนานถาจะพาแขกแก้วไปเที่ยวนี้อยู่ใกล้ๆกัน เพียงในตัวเมืองและบริเวณใกล้เคียงอำเภอเมืองน่านนี้ ก่อนที่แขกแก้วจะออกไปเที่ยวชมป่าเขาลำเนาไพร ต่างอำเภอ ต่างตำบล หนานถาขอแนะนำที่เที่ยวใกล้ๆง่ายๆสนุกสุขใจได้ วัดพระธาตุเขาน้อย เหตุที่หนานถา แนะนำแขกแก้วให้มาวัดพระธาตุเขาน้อยเป็นที่แรก ก็เนื่องด้วยวัดนี้วัดที่ตั้งมานานเมื่อสมัยเจ้าปู่แข็ง นับได้ก็ประมาณห้าร้อยกว่าปี ราว ๆปี พ.ศ.๒๐๓๐ และภายในพระธาตุเจดีย์อิฐถือปูนธรรมดานั้นบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยประการที่สองหนานถาอยากให้ท่านแวะมาที่ลานชมวิววัด บนลานนั้นได้ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัว สูงถึง ๙ เมตร ท่านจะได้สักการะบูชากราบไหว้ขอพรพระปรางองค์ใหญ่ขอพรให้อิ่มเอมใจ และสามหนานถาอยากให้แขกแก้วได้เพลิดเพลินกับทะเลหมอกในตอนเช้า รอดูพระอาทิตย์ขึ้น และได้ชมวิวทิวทัศน์ตัวเมืองน่านไปจนสุดลูกหูลูกตา แล้วที่สำคัญหนานถาจะบอกว่าให้ท่านลองขึ้นบันไดวัดดูแล้วค่อยๆนับขั้นบันไดว่ามีกี่ขั้น อนึ่งก็ถือยังเป็นการได้ออกกำลังกายตอนเช้าในตัว แม้บันไดจะสูงและชัน แต่งดงามล้ำเหลือ ขอท่านมานับมาดูด้วยตาด้วยแข็งขาของท่านเน้อ ตลาดตั้งจิตนุสรณ์ อิ่มใจอิ่มบุญไม่พอ หนานขอพาแขกแก้วไปจ่ายตลาดให้ได้อิ่มท้อง ตลาดเช้าเก่าแก่ของคนน่าน มีอาหารมากมายหลายหน้าอาหารประจำถิ่น ของคาวหวานให้เลือกลิ้มลอง ราคาประหยัด หนานขอรับรอง แขกแก้วท่านแค่พกสตังค์ไปห้าสิบบาทก็อิ่มท้องได้แล้ว เติมอาหารให้อิ่มท้องจะทำบุญตักบาตรต่อก็ยังได้ในตอนเช้าๆจะมีพระสงค์สัมเณรผ่านมาให้สาธุชนได้ใส่บาตร และที่สำคัญหนานขอบอกเลยว่าแม่ค้าที่นี่น้ำใจดีงาม ไมรตรีสะอาดขนาดลูกสามแม่ยังงามล้ำเหลือเน้อ วัดภูมินทร์ อิ่มท้องแล้วหนานถาขอพามาต่อที่วัด ที่ใครๆได้มาเที่ยวเมืองน่านต้องแวะมาให้ได้ นั่นเพราะวัดภูมินทร์มีลักษณะที่สำคัญ เพราะโบสถ์และวิหารถูกสร้างเป็นอาคารเดียวกัน วัดนี้ส้รางขึ้นเมื่อสมัยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ พ.ศ. ๒๑๓๙ แล้วยังมีจิตกรรมฝาผนังอันเก่าแก่หากพูดให้ฟังแล้วแขกแก้วต้องร้องอ้อ นั่นก็คือภาพปู่ม่านย่าม่าน ภาพกระซิบรักบันลือโลก จักคำกลอนอันสุดแสนโรแมนติกที่ว่า คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม จักเอาไปไวในวังข่วงคุ้มก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในนกในใจตัวจายปี้นี้ จักมันหื้อมันไห้อะฮิอะฮิยามปี้สะดุงตื่นเววา ไหว้พระในวิหาร ชมภาพจิตกรรม แล้วลองเก็บภาพถ่ายกระซิบรักส่งไปบอกพร้อมบทกลองหวานๆซึ้งๆนี้ให้คนที่เรารักดูเน้อ วัดหัวข่วง ไม่ใกล้ไม่ไกลเดินผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านไปหน่อยเดียวก็เจอ เหตุที่ต้องให้มาวัดนี้ไม่ใช่เพราะใกล้อย่างเดียวเพราะวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองน่าน วิหารและเจดีย์มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา อีกเรื่องราวเล่าต่อกันมาให้ท่านสังเกตปางพระพุทธรูปองค์พระจะไม่ถูกตั้งอยู่ตรงกลางฐาน แต่จะตั้งให้ถัดมาทางซ้ายมือเหตุฉะนั้นก็เพราะคนสมัยมะเก่าปูย่าตายายท่านเล่ากันว่าคนบ้านหัวข่วงมักไม่เป็นมิตรเจอหน้าก็มีแต่ตีรันฟันแทงกันกับคนหมู่บ้านพญาภูสิบปียี่สิบปีทะเลาะอยู่เสมอ เหตุฉะนี้ก็เพราะคนมะเก่าท่านได้ไปท่ามกูรูผู้รู้ท่านก็เล่าบอกกันมาว่าองค์พระในวิหารวัดหัวข่วงและภูมินทร์ท่านจ้องมองตากันอยู่ ด้วยเหตุนี้องค์พระวัดหัวข่วงเลยต้องเถิบไปด้านข้าง เพราะเป็นวัดน้องสร้างขึ้นหลัง นับจากที่ได้เคลื่อนย้ายองค์พระก็ไม่มีปัญหาของคนทั้งสองหมู่บ้านเกิดขึ้นอีกเลย หากตอนนี้ท่านยืนอยู่ในวิหารวัดหัวข่วงให้ลองมองผ่านทะลุพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านดูจะเห็นว่าประตูวิหารพระวัดภูมินทร์กับประตูวิหารวัดหัวข่วงตรงกันนั้นจึงเป็นเหตุที่องค์พระในวิหารวัดหัวข่วงต้องเคลื่อนไปทางซ้ายเล็กน้อยเป็นเช่นนี้แลเน้อ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เดินไปเดินมา จะเดินผ่านได้อย่างไรวัดพระธาตุช้างค้ำอยู่ใกล้ๆ ขอแขกแก้วแวะเวียนไปให้ได้รู้จัก เพราะประวัติศาสตร์วัดที่ผ่านมาทำให้เมือนน่านได้มีอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยคนมะเก่าท่านเล่าต่อกันมาว่าในสมัยเก่าก่อนพม่าได้ยกทัพม่าจะยึดเมืองน่าน แต่ด้วยความชาญฉลาดเจ้าเมืองน่านเลยออกอุบาย ว่าหากใครที่สร้างเจดีย์เสร็จก่อนคือผู้ชนะ หากพม่าชนะให้เอาเมืองไป หากพม่าแพ้ให้ถอยกลับไป ด้วยเหตฉะนี้ ด้วยความปราชญ์เปรื่องเจ้าเมืองได้ใช้ช้างจำนวนมากแบกขนไม้ก่อเป็นเจดีย์ขึ้นแล้วคลุมด้วยผ้าเสร็จได้ทันเวลาพม่าจึงพ่ายแพ้ หนนีกลับเมืองไป และที่สำคัญวัดพระธาตุช้างค้ำนี้ยังเป็นวัดที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ในอดีตเป็นวัดที่ใช้ระกอบพิธีสำคัญทางศาสนา พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญที่ใช้ประกอบพีธีทางพระพุทธศาสนาอยู่ หากแขกแก้วได้แวะเวียนมากราบไหว้ขอพรหนานถาขอให้ท่านสังเกตองค์พระให้ดี หากท่านได้ยืนระหว่างเสาต้นใดในวิหาร แล้วมองเห็นว่าองค์พระเหมือนยิ้ม ให้ก้มลงกราบขอพรตรงจุดนั้นเลยเน้อ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง วัดนี้หนานถาขอพาแขกแก้วมาชมเป็นวัดสุดท้ายก่อนท่านจะออกไป เที่ยวพักผ่อนตามอัธยาศัย วัดพระธาตุแช่แห้งเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน อายุวัดราว ๆ ๖๐๐ ปี และยังเป็นวัดประจำปีนักษัตร ของคนเกิดปีเถาะ หลายท่านที่เกิดปีเถาะก็ย่อมรู้จักกันดี วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวงนี้ก็ถือเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญอีกที่หนึ่ง ของแขกแก้วทั้งหลายที่ได้มาแวะเวียนมาเที่ยวจังหวัดน่าน ด้วยความงามสง่าขององค์เจดีย์วัดพระธาตุแช่แห้ง วิหารพุทธไสยาศน์ บันไดนาค เป็นแบบล้านนา สร้างในสมัยพระยาการเมือง เจ้านครน่าน นี่จึงเป็นวัดที่สำคัญและงดงามซึ่งออกห่างจากตัวเมืองไม่ไกลหาได้มาน่านแล้วไม่เมากราบไหว้ ก็น่าเสียดายยิ่งเน้อ หนานถาเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ได้ยินเรื่องเล่าตำนานเมืองน่าน ที่ถูกเล่าขานต่อๆกันมากโดยครูบาอาจารย์ บ้างก็ได้มีโอกาสได้เรียนวิชาพระพุทธศาสนากับพระอาจารย์ ท่านก็ได้เล่ามาว่าประวัติเมืองน่านเดิมแล้วเป็นฉะนี้ อาจจะมีผิดเพี้ยนบิดเบือนตามการเวลา โดยเหตุที่ว่าถูกส่งต่อมาจากปากต่อปาก หนานถาได้ฟังมาก็เสียดาย ถ้าหากมันจะถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา เลยได้หยิบยกมาเล่า เรื่องราวตำนาน จะได้ไปบอกไปเล่าให้หมู่พี่น้องลูกหลานได้รู้ต่อไป ส่วนเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยมีนักประวัติศาสตร์เรีบยเรียงไว้ก็เป็นเรื่องดีซึ่งมีมีความจริงมาอ้างอิง ในส่วนที่หนานถาได้เรียนได้รู้นั้นคือคำเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา เป็นเพียงเรืองราวที่ติดตรึงตราถูกกันมาเล่ามาจากคนสู่คน ผิดเพียนตามกาล แต่ขอเรื่องเล่าวันวาน จักงดงามอยู่กลางใจแขกแก้วผู้มาเยือนเอย ด้วยความเบิกบาน หนานถา ภาพถ่ายโดยนักเขียน 🏕 หาพิกัดที่เที่ยวใหม่ๆไปแล้วสนุกสุดฟินกับคอมมูนิตี้ เที่ยวไปให้สุด ได้เล้ย 🚐✨ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !