สวัสดีค่ะ เราได้มีโอกาสไปเที่ยว จังหวัดแพร่มา แพร่เป็นจังหวัดไม่ใหญ่มาก เพราะฉะนั้นตัวเมืองแพร่จึงไม่ยากในการเดินทางภายในตัวเมือง การเดินเที่ยวในตัวเมืองได้เลย แต่ก็เหนื่อยอยู่นะ หรือเช่ารถจักรยานยนต์ก็ได้ เพราะขับขี่ไม่ยากเลย การเดินทางไปแพร่นั้น เราเลือกไปด้วยรถไฟเริ่มด้วยการจองตั๋วรถไฟไปเด่นชัย ไปขบวน 107 รอบเวลา 21:09 น. ซึ่งจะไปถึงเด่นชัยในตอนเช้าของอีกวัน เอาล่ะวันนี้เราจะมาแนะนำ 6 ที่เที่ยว ตัวเมืองแพร่ เที่ยวง่ายใคร ๆ ก็ไปได้ 1. พระธาตุช่อแฮ วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ วัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาลด้วย วันนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นวันที่นำพาสิริมงคลมาแก่คนที่สักการะ จนใคร ๆ ก็พากันกล่าวว่า "ถ้ามาเที่ยวจังหวัดแพร่ แต่ไม่ได้มานมัสการพระธาตุช่อแฮเหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่" วัดมีความร่มรื่นและเงียบสงบดี ตอนไปเหมารถสองแถมไป 300 บาท พาไปในหลาย ๆ ที่รวมถึงไปส่งที่ที่พักด้วย ก็ถือว่าคุ้มมาก 2. วัดพระธาตุจอมแจ้ง เดิมที ที่นี้ถูกเรียกว่า “วัดพระธาตุจวนแจ้ง” สาเหตุมาจากในสมัยก่อน พระพุทธองค์ได้เสด็จถึงวัดนี้ในเวลาใกล้จะสว่างแล้ว ก็เลยเรียกว่า จวนแจ้ง หรือก็คือ วัดพระธาตุจวนแจ้ง และเรียกต่อ ๆ มาเรื่อย ๆ ก็เพี้ยนไปจนกลายเป็นวัดพระธาตุจอมแจ้ง จนถึงปัจจุบันนี้ วัดนี้ไม่เคยมีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากนัก เห็นมีแต่ชาวบ้านขึ้นไปทำบุญกันปกติ วัดค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ที่นี้มีบรรดาสัตว์เดินเล่นไปมาโดยไม่มีการขัง ไม่ว่าจะเป็นไก่บ้าน ไก่ฟ้า เป็ด นกยูง ถ้ามีเลนส์ซูม คงจะถ่ายรูปบรรดาสัตว์ได้มามากมาย แต่เลนส์ของเราไม่ซูม พอเขยิบเข้าใกล้ บรรดาสัตว์ก็วิ่งหนีหมด ไม่ได้มาสักรูป ข้อมูลอ้างอิงที่มาของชื่อวัดมาจาก : www.museumthailand.com 3. คุ้มวิไชยราชา หรือ บ้านวิชัยราชา สำหรับเรือนไม้เก่าแก่นี้ บางคนอาจจะไม่รู้สึกพิศมัยอะไร แต่สำหรับคนที่ชอบเก็บรูปสถาปัตยกรรมต่าง ๆ นั้นควรมา เพราะ เรือนไม้แห่งนี้นอกจากจะมีประวัติ เรื่องเล่าขานที่ยาวนานแล้ว ยังเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างเรือนไม้แบบมนิลา เรือนไม้ล้านนา และเรือนขนมปังขิง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยลายฉลุทั่วตัวเรือนไม้ เรือนไม้ทรงนี้เป็นที่นิยมในระดับเจ้าขุน ขุนนางต่าง ๆ ในสมัยของรัชกาลที่ 4 ยามมาจนถึงรัชกาลที่ 5 ที่นี่เปิดให้ชมเฉพาะภายนอก แค่ตัวเรือนบ้าน ไม่เปิดให้เข้าไปชมภายใน แต่ภายนอกยังคงสวยงามอยู่ อาจจะแวะไปเก็บภาพเล็กน้อย แล้วไปต่อที่อื่นเลยก็ได้ 4. คุ้มเจ้าหลวง หรือ คุ้มหลวงนครแพร่ เป็นลักษณะพิพิธภัณฑ์ ใครชอบแนวนี้ต้องไปนะคะ ตัวอาคารสีขาวเขียว มองแล้วสบายตา รอบบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นและอากาศถ่ายเทดีมาก ๆ ที่นี้เดิมเป็นที่ประทับของเจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 22 คุ้มนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2435 โดยเจ้าพิริยเทพวงษ์ สถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป หรือทรงขนมปังขิง มีลักษณะเป็นอาคารโอ่โถง มีประตู หน้าต่างทั้งหมด 72 บาน งดงามด้วยลวดลายฉลุไม้ และที่สำคัญคือ ในปัจุบันไม่ค่อยมีคุ้มลักษณะนี้เหลือให้เห็นอยู่มากนะ มีเพียงคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ที่ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ และสวยงาม 5. กาดกองเก่า เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่พิพิธภัณฑ์ น่าเบื่อเกินไปหรือป่าว กาดกองเก่า ก็คือตลาดนั่นเอง หากคุณวางแผนเที่ยวในแพร่ในจังหวะดี ๆ คุณก็จะเจอตลาดคนเดิน ที่เต็มไปด้วยอาหารและของแฮนด์เมด แค่นั้นยังไม่พอมีดนตรีโฟล์คซองเบา ๆ ให้นั่งฟังเพลิน ๆ ด้วย ของกินเยอะมาก และอร่อยมาก ๆ ด้วย กาดกองเก่าจะมีในเย็นวันเสาร์ ใครสนใจอยากจะมาชมตลาดด้วยก็จัดทริปให้คร่อมวันเสาร์นะคะ 6. ประทับใจบ้านเสาร้อยต้น บ้านประทับใจโดดเด่นตรงที่เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง และมีเสาบ้านรวม 130 ต้น ซึ่งแต่ละเสามีอายุประมาณ 300 ปี ทุกคนอาจจะรู้สึกว่า แค่เสามันพิเศษยังไง มันพิเศษเพราะว่าในทุก ๆ เสาจะแกะสลักอย่างประณีตวิจิตรบรรจงไว้ ทัวร์ฝรั่งชอบมาที่นี้ เพื่อมาชมความงามนี้เลยนะคะ ตัวบ้านเป็นแบบทรงไทยประยุกต์ ที่นี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. อัตราค่าเข้าชม คนไทย 20 บาทเองจ้า เอาล่ะใครชอบจังหวัดที่เที่ยวง่าย ๆ สงบ ไม่วุ่นวายเราแนะนำ แพร่ เลยค่ะ และหากคุณชอบบทความนี้ ก็สามารถแชร์บทความนี้ออกไปได้เลย และถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจเฟสบุ๊ค แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย และช่องทางยูทูป หญิงเถื่อน Traveler เขียนและถ่ายภาพโดย : หญิงเถื่อน