เมื่อย่างเข้าสู่เดือนพฤษภาคมเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงฤดูกาลที่กำลังจะผันเปลี่ยน จากฤดูร้อนก้าวเข้าสู่ฝนที่ช่วยให้สรรพชีวิตได้ฟื้นคืนความสดชื่นพร้อมที่จะมีชีวิตใหม่และเติบโตต่อไปในวงจรของสรรพสิ่ง การหยาดหล่นลงมาของสายฝนเสมือนคือสัญญาณชีวิตหรือพรจากฟ้าที่ได้บันดาลให้พื้นปา ท้องนา กลับมามีชีวิตเขียวขจีอีกครั้ง และนี่คือ สัญญาณของการออกเดินทางของผู้ที่มีหัวใจหลงรักในความงดงามของธรรมชาติ “ฤดูล่าสีเขียว” จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อกล่าวถึงฤดูการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย ภาพของภูเขาป่าดอยที่ประดับตกแต่งไปด้วยนาขั้นบันไดที่มีต้นข้าวสีเขียวชูช่อก้านใบรับสายฝนประหนึ่งพรมสีเขียวที่ฟูฟ่องละมุนตา โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือจะปรากฏภาพแห่งความทรงจำเช่นนี้ในหลายพื้นที่ด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ท้องทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยงามจับตาที่มีชื่อเสียงระดับประเทศคงไม่สามารถที่จะไม่เอ่ยถึงพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน เช่น อำเภอแม่แจ่ม อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นต้น แต่หากใครเดินทางมาจังหวัดแพร่ที่ตั้งทางฝั่งด้านตะวันออกของภาคเหนือแล้วละก็ ผมแนะนำให้ใช้เส้นทางที่ผ่านทางอำเภอเล็ก ๆ กลางป่าดอยอำเภอนี้ที่ความความของแปลงนาขั้นบันไดตลอดสองข้างทางที่พาดผ่านอำเภอมุ่งตรงไปสู่ตัวจังหวัดแพร่ไม่ได้น้อยเหมือนกับความเจริญของพื้นที่ที่วิถีชีวิตของผู้คนยังคงผู้ความสุขของชีวิตไว้กับความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าการสร้างความสุขผ่านทางวัตถุเชิงสัญลักษณ์ของโลกทุนนิยม “ลอง” มาเยือนอำเภอนี้เพื่อสัมผัสกับความงามของท้องนาขั้นบันได แล้วคุณจะหลงรัก “ลอง” อย่างไม่รู้ตัว เพราะที่นี่คือ “อำเภอลอง” จังหวัดแพร่ เรื่องเล่าการเดินทางในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์เมื่อครั้งที่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดแพร่ โดยใช้เส้นทางเข้าตัวเมืองแพร่ผ่านอำเภอลองจึงได้พบกับวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งนาที่ต้นข้าวกำลังตั้งต้นสีเขียวเป็นผืนพรมสวยงาม ดังนั้น ในช่วงฤดูฝนนี้ที่สถานการณ์การระบาดของโรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโนน่า 2019 หรือ โควิด 19 ยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ จึงยังไม่แนะนำให้ผู้อ่านเดินทางไปท่องเที่ยวในเวลานี้นะครับ เพียงแต่ว่ามาอ่านและจินตนาการภาพความประทับใจไปกับเรื่องราวที่ผมจะมาเล่าสู่กันฟังไปพลางก่อนนะครับ “อำเภอลอง” เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดแพร่ มีทางห่างจากตัวเมืองแพร่ประมาณ 40 กิโลเมตร สภาพแวดล้อมของพื้นที่มีลักษณะเป็นที่ราบลอนเขาและเทือกเขาทางด้านทิศตะวันที่ติดกับจังหวัดลำปาง หากใครต้องการมาพักผ่อนอยู่กับความสงบเงียบของธรรมชาติและห่างไกลจากความวุ่นวายของผู้คนในเมืองใหญ่อำเภอลองเป็นอีกที่หนึ่งที่ควรจะได้มาสัมผัสสักครั้ง ซึ่งในพื้นที่อำเภอลองก็มีรีสอร์ท โฮมสเตย์ ให้เลือกพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายในราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น ซึ่งหากจะพักผ่อนแล้วอยู่ท่องเที่ยวในอำเภอลองต่ออีกสักวันก่อนจะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแพร่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรเลือกสำหรับผู้ที่เดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งแม้จะเป็นเพียงอำเภอที่เป็นทางผ่านไปสู่ตัวเมืองแพร่ แต่สถานที่ท่องเที่ยวก็มีให้เลือกได้แวะเยี่ยมชมอยู่หลากหลายสถานที่ และหากมีโอกาสได้กลับมาเยือนลองอีกครั้งผมก็จะไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจในสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในอำเภอลองมาเล่าสู่ให้ทุกคนได้ฟังกันต่อไปครับ การเดินทางมาอำเภอลองนั้นเส้นทางที่มาเยือนนั้นไม่ยากครับ หากใครจะมุ่งเดินทางจากลำปาง หรืออุตรดิตถ์ เพื่อไปยังตัวเมืองจังหวัดแพร่ เมื่อเดินทางถึงสี่แยกแม่แขม ที่เป็นจุดตัดถนนหมายเลข 11 และ 1023 (วังชิ้น-เด่นชัย) หากมาทางอำเภอวังชิ้น ก็ให้ขับตรงไปตามถนนหมายเลข 1023 ตามเดิม หรือหากมาทางจังหวัดลำปางก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1023 ซึ่งบริเวณสี่แยกจะมีป้ายขนาดใหญ่มองทางไปชัดเจนอยู่แล้วไม่หลงแน่นอนครับ จากสี่แยกเดินทางต่อไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะเริ่มเห็นภาพของท้องนาขั้นบันไดตลอดสองข้างถนน ซึ่งจุดที่สวยงามของนาขั้นบันได จะเริ่มตั้งแต่บริเวณบ้านนาอุ่นร่อง ไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 43 ระยะราว 10 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 43 นี้เป็นจุดที่จะได้เห็นท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่ที่มีภูเขาที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยเป็นฉากหลัง ตัดกับปุยเมฆขาวที่ลอยตัวพาดยาวผ่านยอดเทือกทิวเขา ทำให้จินตนาการไปถึงประหนึ่งเรากำลังท่องเที่ยวดำเนินไปอยู่บนท้องฟ้าเลยทีเดียว ภาพประทับใจจากการเยี่ยมเยือนแผ่นดินถิ่นสีเขียว ณ อำเภอลอง ในครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาอันน้อยนิดที่ได้แวะมาสัมผัส แต่การได้เห็นธรรมชาติท้องนาที่อุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่ฟื้นคืนเมื่อสายฝนโปรยปรายลงมาถึง วิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนที่แบกจอบเสียมไปตามท้องนา ก็หวนให้นึกถึงวิถีของความเป็นชนบทที่ไม่ต้องเร่งรีบแข่งขันกับเวลา ความสุขที่เกิดจากการได้ใช้ชีวิตอยู่กับวิถีแห่งธรรมชาติล้วนแต่เป็นสุขทางใจที่สะท้อนออกมาทางหน้าตาที่สดชื่นของชาวนาผู้แบกจอบเสียมนั้น ที่แตกต่างจากวิถีชนคนเมืองที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนไขว่คว้ากับวัตถุที่แปรเปลี่ยนผันไปตามโลกของความทันสมัยเพื่อความสุขทางกายแต่กลับหาความสงบภายในใจไม่ได้เลย นี่ละครับ เสน่ห์ของธรรมชาติ วิถีที่เรียบง่าย ที่อยู่สบายภายใต้ความเงียบสงบของผืนป่าและท้องนา ที่ในเมืองใหญ่มิอาจจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของธรรมชาติอันล้ำลึกถึงจิตวิญญาณของชีวิตเช่นนี้ สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าการพามาเที่ยวชมธรรมชาติที่อำเภอลองในครั้งนี้น่าจะจุดประกายเชื้อเชิญให้ใครหลาย ๆ คนเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่านี้ ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนได้มา “ลอง” แล้วจะหลัง “ลอง” เช่นเดียวกับผม สวัสดี