ในจังหวัดแพร่คงไม่มีใครไม่รู้จักคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ และแน่นอนว่าต้องเคยได้ยินเรื่องเล่าลี้ลับเกี่ยวกับคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ด้วย ข้าวหอมเองเกิดที่จังหวัดแพร่เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้มามากพอสมควรทั้งจากการบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ และจากการศึกษาเกี่ยวกับสถานที่สำคัญๆ ในจังหวัดของตัวเองผ่านวิชาสังคมในตอนเด็กๆ เพราะคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้มีประวัติที่น่าสนใจอยู่หลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกเลยคงเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรปที่งดงามของตัวคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้เองที่มีความโอ่โถงดูสง่างาม มีประตูและหน้าต่างไม้ทั้งหมด 72 บาน ปั้นลมและชายคาน้ำถูกตกแต่งด้วยฉลุไม้อย่างงดงาม บรรยากาศโล่งสบาย ให้ความรู้สึกแบบผู้ดีสมัยก่อน ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะตามข้อมูลคุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเจ้าพิริยเทพวงษ์ ซึ่งก็เป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ในสมัยนั้นนั่นเองค่ะ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างที่ใครก็ตามที่มาถึงจะต้องอยากรู้ก็คือประวัติของเจ้าพิริยเทพวงษ์เจ้าของคุ้มแห่งนี้นั่นเองค่ะ เจ้าพิริยเทพวงษ์ถูกสถาปนาให้เป็นเจ้าเมืองแพร่เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2432 ถึง 25 กันยายน พ.ศ. 2445 มีพระชายาทั้งหมด 8 องค์ สาเหตุที่ต้องสิ้นสุดการเป็นเจ้าเมืองแพร่นั้นเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์กบฏเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ในปี 2445 โดยตามประวัติศาสตร์กล่าวว่าท่านถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับพวกเงี้ยวเพื่อก่อกบฏจนเป็นเหตุให้พระยาไชยบูรณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในตอนนั้นถูกพวกเงี้ยวฆ่าตาย แม้ว่าภายหลังจะมีข้อมูลมากมายจากผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นหลายท่านนำข้อมูลมาหักล้างว่าท่านไม่ได้สมคบคิดกับพวกกบฏเงี้ยวก็ตาม แต่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้ท่านถูกถอดจากยศตำแหน่ง ริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดคืน เป็นเหตุให้ไม่มีการพระราชทานนามสกุล ณ แพร่ ให้กับลูกหลานของเจ้าพิริยเทพวงษ์ค่ะ อีกสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาที่คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ก็คือการเยี่ยมชมคุกใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นใต้ถุนของอาคารคุ้มเจ้าหลวงที่เมื่อก่อนเคยถูกใช้เป็นคุกสำหรับคุมขังนักโทษ ถูกแบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องที่อยู่ด้านปีกซ้ายและขวามีช่องหน้าต่างเล็กน้อยพอให้มีแสงส่องเข้าไป แต่ห้องตรงกลางจะเป็นห้องทึบแสง ไม่มีประตูและหน้าต่าง ใช้เป็นที่คุมขังทาส บริวารที่ทำผิดร้ายแรง ซึ่งภายในห้องชั้น 1 ของคุ้มจะมีช่องสำหรับหย่อนอาหารให้กับนักโทษที่ถูกขังอยู่ในห้องนี้ด้วย ตอนข้าวหอมเข้าไปดูครั้งแรกขอบอกว่าบรรยากาศน่าขนลุกสุดๆ รีบเข้ารีบออกจนแทบไม่กล้าถ่ายรูปเลยล่ะค่ะ กลัวจะถ่ายติดอะไรเข้า เพราะมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับวิญญาณของนักโทษที่ต้องล้มตายทั้งจากการถูกสั่งให้อดอาหาร และจากการถูกทรมานด้วยวิธีต่างๆ โดยการเข้าเยี่ยมชมคุกใต้ดินเก่าแห่งนี้จะมีป้ายบอกให้เราเดินก้าวถอยหลังตอนจะเข้าไปในประตูคุกเพื่อเป็นการแก้เคล็ดตามความเชื่ออีกด้วยค่ะ คุ้มเจ้าหลวงตั้งอยู่ที่ถนนคุ้มเดิม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ ตรงข้ามกับโรงเรียนนารีรัตน์ ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:30 น. – 17:00 น. โดยแนะนำว่านักท่องเที่ยวที่จะเข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ควรแต่งกายให้เรียบร้อยเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ และควรงดใช้เสียงดังระหว่างเยี่ยมชมด้วยค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่จังหวัดแพร่ก็อย่าลืมแวะมาชมความงามของตัวอาคารและสัมผัสความขลังที่น่าหลงไหลที่คุ้มเจ้าหลวงกันนะคะภาพประกอบโดยผู้เขียนแหล่งข้อมูลอ้างอิงคุ้มเจ้าหลวง สืบค้นวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563เจ้าพิริยเทพวงษ์ สืบค้นวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563