“หม้อห้อมไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเรื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม” เพราะอะไรทำไม “แพร่ถึงแห่ระเบิด” ถ้าเป็นสมัยก่อนคำถามนี้ถือว่าแรงมาก เพราะว่าเป็นการล้อเลียนคนแพร่ เขาหาว่าคนแพร่โง่ ใครมาแพร่พูดแห่ระเบิดนี่คือเละ แต่พอมาถึงปัจจุบันนี้ผู้คนมีการรับรู้ถึงความหมายของคำว่าแห่ระเบิดมากขึ้น เพราะว่ามีการตามรอยลูกระเบิด ผู้คนมากมายต่างสงสัยกันว่ามันคืออะไรกันแน่ พอติดตามจุดเริ่มต้นเข้าเรื่อย ๆ ปรากฎว่า “แพร่แห่ระเบิด” กันจริง ๆ มันไม่ใช่เป็นแค่คำที่เขาชอบแซว ชอบล้อเลียนคนแพร่ ว่าคนแพร่โง่ ไม่รู้ว่าเป็นระเบิดแห่ไปแห่มาระเบิดแตกตายกันทั้งเมือง สมัยก่อนโดนล้อแบบนี้ก็เจ็บมากนะที่มาด่าว่าคนแพร่ “โง่” เพราะตอนที่เจอระเบิดเขาก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่หลังจากนั้นก็มีคนไปติดตามรอยที่มาของระเบิด เห้ยยย..!!! มันเกิดขึ้นจริง ๆ มันมีเรื่องราวที่สอดคล้องกับที่เขาล้อเลียนว่าแพร่แห่ระเบิด เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่อำเภอลอง ด้วยความสำคัญที่ว่ามันไม่ใช่แห่แล้วไม่ตายอย่างเดียว แต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องของเสรีไทย และยังเกี่ยวข้องกับเรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย จากเรื่องล้อเลียนมันก็กลายเป็นความภาคภูมิใจของชาติ แต่เรื่องราวที่เราบอกมานี้ก็แค่คร่าว ๆ แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากจะรู้มากกว่านี้เรามารู้จักกับประวัติความเป็นมาของคำว่า “แพร่แห่ระเบิด” กันให้มากกว่านี้จะเป็นยังไงนั้นเรามารู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ และนี่คือสะพานรถไฟห้วยแม่ต้า จุดกำเนิดตำนานแพร่แห่ระเบิด (ภาพโดยผู้เขียน)ประวัติความเป็นมาครั้งหนึ่งเราได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ “คุณภุชงค์ กันทาธรรม ทายาทของ คุณทอง กันทาธรรม” ซึ่งคุณทองนั้นเป็นลูกศิษย์ของท่านปรีดี พนมยงค์ คุณภุชงค์เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้มีการนำระเบิดมาทิ้งลงที่สะพานรถไฟห้วยแม่ต้า อยู่ระหว่างเขตสถานีรถไฟบ้านปินและสถานีรถไฟแก่งหลวง การทิ้งระเบิดนั้นเป็นไปอย่างมีระบบ ระเบิดไม่ได้ระเบิดทุกลูก บางลูกก็จมอยู่ในดินชาวอำเภอลองรู้เรื่องว่ามีระเบิดแถวนั้นก็ไปช่วยกันขุดระเบิดออกมาด้วยความระมัดระวัง ถอดเอาชนวน ถอดเอาดินปืนออก แล้วพูดคุยกันว่าจะเอาระเบิดนั้นไปทำอะไรดี คิดไปคิดมาก็เลยบอกกันว่าเอาไปทำระฆังถวายวัดดีกว่า ของดีของมีประโยชน์ต้องถวายวัด ความจริงระเบิดที่นำมาทำเป็นระฆังนี้เป็นผลงานของเสรีไทยร่วมกับกองทัพอากาศอเมริกา เพราะฉะนั้นคำว่าแพร่แห่ระเบิดนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหล จังหวัดแพร่คือส่วนหนึ่งของวีรบุรุษเสรีไทย เพราะฉะนั้นถ้าใครที่จะเอาคำว่าแพร่แห่ระเบิดนั้นมาสบประมาทกันก็ต้องศึกษาให้ละเอียดก่อน ซึ่งระเบิดทั้ง 3 ลูกนั้น ได้นำไปถวายให้กับวัดบ้านแม่ลานเหนือ วัดพระธาตุศรีดอนคำ และวัดนาตุ้ม (ภาพโดยผู้เขียน)และนี่คือภาพของตอม่อเดิมของสะพานที่ถูกระเบิดทำลายเสียหายไป แล้วคงเหลือแต่เสาปูนสะพานจึงถูกสร้างขึ้นมาโดยเปลี่ยนแนวจากเดิมเพียงเล็กน้อยปัจจุบันนั้นระเบิดทั้ง 3 ลูกก็ได้แปลงสภาพมาเป็นระฆังและทางวัดก็ได้สร้างเป็นหอระฆังเพื่อไว้ให้นักท่องเที่ยวหรือแขกต่าง ๆ ได้มาเยี่ยมชมอีกด้วยค่ะ (ภาพโดยผู้เขียน)ระฆังลูกระเบิดลูกแรกทางชาวบ้านได้นำขบวนแห่จากจุดที่พบเคลื่อนย้ายมาถวายที่วัดบ้านแม่ลานเหนือ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่หลังจากที่นำลูกแรกไปถวายที่วัดบ้านแม่ลานเหนือแล้วขบวนก็ได้เคลื่อนย้ายลูกที่สองมาถวายที่วัดพระธาตุศรีดอนคำ ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่ (ภาพโดยผู้เขียน)ส่วนลูกที่สามนั้นได้จมอยู่ในกองดินพวกคนงานรถไฟได้ใช้เกวียนลากขึ้นมาแต่ก็สู้แรงลากขึ้นไม่ไหว จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจาก “คุณพ่อบุญมา อินปันดี” ให้นำช้างมาช่วยลากขึ้นมาจากกองดิน เมื่อนำขึ้นมาได้แล้ว คุณพ่อบุญมา ก็ได้นำมาถวายให้กับวัดนาตุ้ม ต.บ่อเหล็กลอง อ.ลอง จ.แพร่และยังมีตำนานขำ ๆ ที่เขาเคยล้อเลียนว่าคนแพร่นั้นไม่มีนามสกุล ณ แพร่ เหมือนจังหวัดอื่น ๆ นั้นเป็นเพราะว่าเคยมีการแห่ระเบิดที่พันธมิตรได้บอมสะพานข้ามแม่น้ำต้าเมื่อครามสงครามโลกครั้งที่ 2 คนเมืองแพร่ไม่รู้จักระเบิดและนึกว่าสิ่งนั้นเป็นวัตถุที่หล่นลงมาจากฟากฟ้าจึงมีการจัดขบวนแห่ แต่สักพักก็ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นจนมีคนล้มตาย ซึ่งรวมถึงเจ้าเมืองแพร่ทั้งหมดจนเป็นเหตุให้เชื้อสายเมืองแพร่นั้นไร้ทายาทแต่จริง ๆ แล้วสำนวนดังกล่าวน่าจะมาจากการที่มีขบวนแห่แปลก ๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด ส่วนนามสกุลเชื้อสายเมืองแพร่ก็มีลูกหลานได้แยกไปตั้งเป็นนามสกุลต่าง ๆ เช่น “วังซ้าย, มหายศปัญญา, เมืองแก้ว, นามวงค์” เว้นแต่นามสกุล “แพร่พันธ์” ที่กรมพระยาดำรงฯ ทรงพระราชทานให้ยาขอบ หรือ “นายโชติ แพร่พันธ์” นักเขียนชื่อดังของไทยซึ่งเป็นลูกของเจ้าอินแปลง บุตรของเจ้าหลวงพิริยะเทพวงค์ หลานของเจ้าผู้ครองนครแพร่ (ภาพโดยผู้เขียน)และนี่คือประวัติความเป็นมาโดยคร่าว ๆ แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากทราบประวัติความเป็นมาแบบชัดเจนเราแนะนำให้เพื่อน ๆ ทุกคนแวะเข้าไปเที่ยวไปชมที่ “ร้านกาแฟแห่ระเบิด” ตั้งอยู่ที่ถนนสายลอง - แพร่ ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ หากมาจากทางตัวเมืองแพร่ร้านจะอยู่ห่างจากทางข้ามรถไฟไปประมาณ 500 เมตร เลยวัดโพธิ์บุปผารามมาไม่มากให้เพื่อน ๆ สังเกตดูทางขวามือที่นั้นเป็นร้านกาแฟที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและลูกระเบิด มีประวัติความเป็นมาที่มีที่มาแบบชัดเจน หากเพื่อน ๆ คนไหนที่ได้เดินทางผ่านมาทางนี้หรือได้มาเที่ยวแพร่ ก็อย่าลืมแวะจิบกาแฟและศึกษาความเป็นมาเกี่ยวกับลูกระเบิดกันนะค่ะ