ภูสอยดาว สาวความสุข ความสงบ มาสยบแทบเท้าตัวเรากันเถอะ ! เมื่อร่างกายรู้สึกอ่อนล้า อ่อนแรง สิ่ง ๆ แรกที่พึงนึกถึงอยู่บ่อยครั้งคงหนีไม่พ้นกับคำว่า ต้องชาร์จแบตพลังร่างกายตัวเองให้ฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงให้ดังเดิม การมาเที่ยวดอยเป็นความปรารถนาของใครหลาย ๆ คนที่อยากมารับสายลมสบาย ๆ สลายความทุกข์ไปกับสายลม มองวิวทิวทัศน์ที่ร่มรื่นตา ได้แลเห็นฝูงนกโผบินอยู่บนนภาอย่างสบายอารมณ์ ชวนรู้สึกอิจฉาอยากโบยบินรับลมเย็นที่สูง ๆ อย่างสดชื่นได้บ้าง พร้อมทั้งได้อิสระเข้ามาหาสู่ชีวิต และของขวัญในยามเช้าตรู่คือการมองดูทะเลหมอกที่โผล่เผยตามซอกเขาให้มนุษย์เราได้เห็นความอัศจรรย์ยิ่งใหญ่อย่างเต็มตา เต็มใจ และเต็มขีดความงดงามจากธรรมชาติ รถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมืองพิษณุโลกใช้ได้ 2 ทางเส้นทางสายชาติตระการ ซึ่งจะเป็นทางขึ้นเขา และเส้นทางสายน้ำปาด เส้นทางแรก จากจังหวัดพิษณุโลก ให้ใช้เส้นทางหมายเลข 11 มุ่งตรงยังอุตรดิตถ์ถึง อ.วัดโบสถ์ ประมาณกม. ที่ 28 ให้เลี้ยวขวาเข้าบ้านโป่งแคตามเส้นทางหมายเลข 1206 เจอสามแยกบ้านโป่งแคให้เลี้ยวขวาตามเส้นทางหมายเลข 1143 มุ่งสู่อำเภอชาติตระการ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหมายเลข 1237 แล้วตรงไปอีก 71 กิโลเมตร ผ่านทุ่งนาในช่วงแรก จากนั้นจะเริ่มเป็นทางชันและคดเคี้ยวแต่เป็นวิวสวยงาม ถึงแยกเส้นทางหมายเลข 1268 จะมีป้ายบอกทางไปภูสอยดาวไปอีก 58 กิโลเมตร เส้นทางที่สอง จากพิษณุโลกวิ่งตรงมายังอุตรดิตถ์ ประมาณกิโลเมตรที่ 70 จะมีทางแยกเข้าบ้านพี้ทางขวามือ จากนั้นจะเจอทางแยกขวามือ ให้ตรงไปตามเส้นทางหมายเลข 1047 ยาวจนถึง อ.ปาด อีกไม่ไกลทางแยกบริเวณโรงพยาบาลน้ำปาด เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมายเลข 1239 มุ่งตรงหมู่บ้านห้วยมุ่นประมาณ 47 กิโลเมตร จะเจอสามแยก เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 18 กิโลเมตร จะพบกับสะพานข้ามลำห้วย บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รถประจำทาง กรุงเทพ ฯ – พิษณุโลกพอถึงตัวเมืองพิษณุโลกค่อยตัดสินใจต่อว่าจะเลือกจ้างเหมารถสองแถวไป – กลับ จากตัวเมืองถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 170 กิโลเมตร หรือเลือกนั่งรถโดยสารจากตัวเมืองถึงยังอำเภอชาติตระการ แล้วนั่งรถอีกต่อจากอำเภอชาติตระการโดยรถสองแถวซึ่งมีวันละเที่ยวเดียวไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ทาง 70 กิโลเมตร หรือถ้าต้องการความสะดวกก็สามารถจ้างเหมารถสองแถว หรือกระบะของชาวบ้านแถวนั้น มุ่งสู่อุทยานแห่งชาติได้เช่นกัน ที่มาของรูปภาพประกอบ รูปปก , รูปภาพที่หนึ่ง , รูปภาพที่สอง , รูปภาพที่สาม