ช่วงนี้เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านใช่มั้ยคะ? หลายคนอาจจะเบื่อในการอยู่บ้าน เพราะสายเที่ยวแบบเรา พอได้มาอยู่บ้านเฉยๆแบบนี้ ก็ครั่นเนื้อครั่นตัวอยากเที่ยวมากกก! แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ช่วงนี้ก็ต้องอยู่บ้านกันไปก่อนเนาะ พอสถานการณ์ดีขึ้นก็ไม่สายเกินไปที่จะไปเที่ยวนะคะ! เอาล่ะ เกริ่นมานาน! เข้าเรื่องเลยดีกว่า Topic ของวันนี้คือ "ถ้าสถานการณ์ไวรัส Covid-19 หมดไป เราจะไปเที่ยวไหนดี!?" คำตอบแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลยคือ "ชะ ชะ ชะ ชะ เชียงใหม่!!!" ที่บอกว่าอยากไปเชียงใหม่ เนื่องจากเมื่อต้นปี ประมาณเดือน ม.ค. 2563 เราได้ไปเชียงใหม่มาค่ะ พอไปแล้วรู้สึกประทับใจมากกก แต่น่าเสียดายเราไปแค่ 2 วัน 1 คืนเลยมีเวลาเที่ยวน้อย บอกเลยว่า 1 วันไม่สามารถเที่ยวหมดเชียงใหม่ได้จริงๆ (อย่างน้อยต้อง 2 วันอ่ะ) วันนี้เลยจะมา "รีวิวการไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยรถไปตู้นอน ไปเอง เที่ยวเอง ถ่ายเซลฟี่เองอีก!" พร้อมแล้ว ลุยเลยค่ะ! แรกเริ่มเลยคือ เราเห็นรีวิวของหลายๆคนว่าไปเชียงใหม่หน้าหนาวคือดีมากๆเลยนะ กินหมูกะทะบนดอยนี่ฟินสุดๆ ไม่รอช้าเลย กดจองตั๋วทันทีค่ะ! และเราเลือกที่จะเดินทางไปโดยรถไฟตู้นอนค่ะ เนื่องจากเป็นคนนั่งรถนานๆไม่ได้จริงๆ ขอนอนหน่อยละกัน ค่าเดินทางก็ประมาณ 700 บาท/คน ค่ะ ถูกเว่อร์ จองตั๋วเสร็จผ่านทางออนไลน์ จ่ายตังค์เสร็จ ระบบจะออกตั๋วออนไลน์มาให้เลยค่ะ เราแค่ปริ้นออกมาแล้วมาที่สถานีรถไฟได้เลย ซึ่งการเดินทางก็ง่ายมาก แค่นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีหัวลำโพง เดินต่อออกมาก็เจอสถานีรถไฟเลยค่ะ เราก็วิ่งปรู๊ดเข้าไปเลยค่ะ จะเจอเจ้าหน้าที่ที่สถานี ยื่นตั๋วให้เขาดู เขาก็จะบอกเราเลยค่ะว่าไปทางไหนต่อ แล้วก็ขึ้นรถไฟไปโล้ดดด! ภายในรถไฟตอนแรกก็จะเป็นที่นั่ง 2 ฝั่ง หันหน้าเข้าหากันค่ะ แต่พอผ่านไปสักประมาณเวลา 2 ทุ่มครึ่ง เจ้าหน้าที่ของรถไปก็จะเริ่มมาพับที่นั่งของเราให้กลายเป็นที่นอน!! ไม่ผิดหรอก ที่นอนจริงๆ ที่เราสามารถเหยียดขานอนแบบบนเตียงได้เลย และไม่ต้องกลัวสกปรก เพราะหมอนและผ้าห่มแกะห่อใหม่ค่ะ หอมๆ ฟินๆ เลย โดยถ้าเพื่อนๆ อยากเดินทางด้วยรถไฟแบบเรา เราขอแนะนำให้นอนชั้นล่างดีกว่านะ เพราะว่าชั้นล่างค่อนข้างมืดทำให้หลับลึกกว่า ข้างบนแอบไปนอนมาละสว่างเกินค่ะ ขอบาย T_T นอนบนรถไฟแบบฟินๆ มา ก็ได้เวลาตื่นตอน 8 โมงเช้า โดยรถไฟจะเทียบท่าเชียงใหม่ประมาณ 9 โมงตามเวลาที่กำหนดไว้ ก็ถึงได้ไม่เลทนัก ตรงเวลาพอดีค่ะ พอถึงเชียงใหม่แล้วสิ่งแรกที่จะต้องทำคือออ "เช่ารถ" นะคะทุกคน ลงรถไฟมาก็เห็นร้านมอเตอร์ไซด์ให้เช่า วันละ 250 บาท โอเคจ่ายเลย เพราะถูกมว้ากก เราเช่า 2 วันรวมเป็น 500 บาทค่ะ มาเชียงใหม่จุดมุ่งหมายที่เราตั้งใจจะมาคือ "ม่อนแจ่ม" ค่ะ เนื่องจากเห็นรีวิวล้นหลามว่าดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ ก็ต้องลองมาซักครั้งละปะ! คิดได้ดังนั้นก็เปิด GPS ตรงดิ่งขึ้นม่อนแจ่มเลยจ้าา แต่ระหว่างทางหากใครไม่รีบมาก(เช่นเรา) ก็แวะเที่ยวระหว่างทางได้นะ เราแวะสวนพฤกษาศาสตร์สิริกิตค่ะ เพราะชอบดอกไม้มากก ซึ่งดอกไม้เยอะจริง! แถมมี Sky walk ให้เราเดินชมธรรมชาติด้วยนะ! ที่จริงมีรูปเยอะกว่านี้นะ แต่ทุกคนต้องไปลองดูด้วยตัวเองอ่ะ มันสวยจริงง! พอแวะเที่ยวเสร็จกินข้าว กินอะไรเสร็จ เราก็ตรงดิ่งไปยังที่พักของเราต่อค่ะ ซึ่งที่พักของเราใกล้กับม่อนแจ่มมาก ห่างกันนิดเดียว ชื่อ "ม่อนจาวดอย" ที่เลือกเพราะบรรยากาศค่อนข้างดี ไม่วุ่นวาย เราพักเตนท์ VIP คืนละ 1500 บาท ถือว่าถูกมาก! เพราะวิวดี อากาศเย็นสบายแม้เป็นตอนกลางวัน แนะนำเลยนะ เจ้าของคุยดี น่ารัก ข้าวเช้าฟรีด้วยนะ แถมที่พักก็ใกล้จุดชมวิว "ไร่สวนดอกลมหนาว" ด้วยนะ ช่วงบ่าย 3 โมง ใกล้เย็นละ ไม่มีอะไรทำนอกจากนอนกลิ้งไป กลิ้งมา เราจึงไปแชะถ่ายรูปที่ไร่สวนดอกลมหนาวซะหน่อย เดินทางง่ายมาก ขี่มอเตอร์ไซต์มาจากที่พักแค่ 2 นาที ถึงเลย ระหว่างทางก็มีชาวบ้านนำชุดท้องถิ่นมาขายด้วยนะ แต่เราไม่ได้เตรียมเงินมา555 กะจะมาถ่ายรูปอย่างเดียว ใครที่มาม่อนแจ่ม แนะนำเลยนะที่นี่ เซลฟี่ได้จุใจมากมีดอกไม้สีม่วงๆลายล้อม พร้อมดอกไม้อื่นๆที่ขึ้นตามไหล่ทาง ฟินมากก ที่นี่ตกเย็น มืดไวมากกก ใครจะมาถ่ายรูปแนะนำให้มาก่อนบ่าย 3 โมงนะ เราว่า เพราะแค่ 5 โมงที่นี่ก็ครึ้มๆแล้ว ยังเก็บภาพถ่ายได้ไม่หมดเลย ก็ต้องกลับที่พักซะละ แต่แล้ว เวลาที่เรารอคอย ลอยคอ ก็มาถึงง ก็คืออ "กินหมูกะทะ" ยามค่ำคืนอากาศเย็นๆ นั่นเองจ้าา โดยที่พักของเรามีการถามตั้งแต่เข้าเช็คอินก่อนว่า เย็นนี้จะทานอะไร? กินหมูกะทะไหม? ถ้ากินให้บอกเวลาเขาเพื่อนำขึ้นไปเสริฟถึงหน้าที่พักเลย ของเราบอกไว้เวลา 18.00 น. เขาก็มาส่งตามที่กำหนดเวลาไว้เป๊ะๆ หมูกะทะ ชุดละ 400 บาทแค่นั้นเอง กินอิ่มมากกก! พุงกางเลยอ่ะ กินอิ่มแล้วคืนนี้ก็เข้านอนเลยจ่ะ แต่ถ้าใครอยากเสพบรรยากาศก็ให้เตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆมาด้วยนะ เพราะอากาศเย็นจริง ยิ่งดึกยิ่งเย็นขึ้นเรื่อยๆ ตอนเราไป อุณหภูมิอยู่ที่ 10 องศา บอกเลยว่าหนาวจนไม่อยากอาบน้ำเลยอ่ะ 55555 เช้าวันต่อมาเราก็ได้เวลาเดินทางกลับ ความจริงอยากไปที่อื่นอีกเยอะแยะเลย แต่ระยะทางแต่ละที่คือไกลกันหลายกิโลมากนะ(สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์แบบเรา) อยากไปดอยอินทนนท์ อยากไปดอยเชียงดาว อยากไปหลายที่เลย แต่เวลาไม่พอละ เลยคิดว่าต้องมาทริปหน้าแล้วมาหลายๆวันเลยค่ะ ถึงจะเที่ยวได้ครบหมดทุกที่ วันนี้ขอจบการรีวิวการไปทริปเชียงใหม่ด้วยรถไฟตู้นอน ไปเอง ถ่ายเซลฟี่เอง เพียงเท่านี้ค่ะ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น โควิด-19 หมดไป ก็จะถึงเวลาที่เราจะ ฮึบๆ! เตรียมกระเป๋าเดินทางรอไปเชียงใหม่อีกรอบแล้วจ้าาา ^_^