ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกวันนี้มีขายอยู่มากมายตามท้องตลาด ซึ่งถูกผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตยุคเร่งรีบที่คนส่วนใหญ่มักทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารหรือได้รับไม่เพียงพอสำหรับดูดซึมไปบำรุงและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ผู้คนจึงหันมาดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารเสริมและวิตามินเพื่อทดแทนสารอาหารที่ขาดหายไป และด้วยความที่ผู้คนนิยมวิธีนี้มากขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจอาหารเสริมจึงผลิตกันออกมาขายมากขึ้นตามไปด้วย แล้วเราในฐานะผู้บริโภคจะมีวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมที่วางขายอยู่มากมายยังไงให้ปลอดภัย วันนี้จึงนำมาบอกกัน 5 วิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้1. ดูเลข อย.ในเบื้องต้นอาหารเสริมที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ จะต้องจะมีเลขรับรองจาก อย. จำนวน 13 หลักที่ข้างฉลาก แต่เราจะมองแล้วเชื่อเลยไม่ได้ เพราะบางครั้งอาจมีการแอบอ้างนำเลข อย. ของสินค้าอื่นมาใช้ เราจึงควรเช็กในเว็บไซต์ของ อย. โดยมีวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1.1 เข้าเว็บไซต์ อย. คลิกที่นี่ แล้วเลือก “ตรวจเลขผลิตภัณฑ์”1.2 จากนั้นกรอกเลข อย. 13 หลัก แล้วค้นหา ระบบก็จะปรากฏข้อมูลขึ้นมาให้เราอ่าน หากข้อมูลถูกต้องตรงตามฉลาก เราก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามการที่อาหารเสริมใดๆมีเลขรับรองจาก อย. ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% เพราะ อย. รับรองความปลอดภัยให้จากรายการส่วนผสมที่ผู้ยื่นขอส่งข้อมูลให้เท่านั้น ไม่ได้วิเคราะห์เม็ดแคปซูลหรือตัวสินค้าแต่อย่างใด2. ดูโฆษณาอย่างมีสติไม่หลงเชื่อระลึกไว้เสมอว่า อาหารเสริม ไม่มีผลในการรักษา อาจเพียงแค่ช่วยเสริมสารอาหารตามชื่อเท่านั้น ผู้ผลิตจึงไม่สามารถใช้คำพูดโฆษณาเกินจริง หรือโอ้อวดประโยชน์ครอบจักรวาลได้ ดังนั้น หากเราเห็นอาหารเสริมใดๆที่อวดอ้างสรรพคุณอลังการเกินโลกความเป็นจริง ก็ควรหลีกเลี่ยงการซื้อมารับประทาน อีกทั้งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ก็ไม่เคยอนุญาตให้ทำเช่นนั้นด้วย3. ดูฉลากให้ละเอียดรอบคอบ บนฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามิน จะบอกข้อมูลสำคัญที่ควรทราบหลายอย่าง เราต้องอ่านให้เข้าใจอย่างละเอียด เพื่อจะได้รู้ว่าส่วนประกอบที่มีเราแพ้หรือไม่ คำเตือนอะไรที่ต้องระวัง คำแนะนำที่ควรทราบมีอะไร ผลิตเมื่อไหร่และหมดอายุหรือยัง ปริมาณการกินต่อครั้งหรือหนึ่งหน่วยบริโภคที่แนะนำเป็นอย่างไร ฯลฯ เราต้องอ่านให้หมด เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและภาวะโภชนาการตามความจำเป็นของเราเอง 4. ดูรีวิวแต่อย่าเชื่อข้อมูลทั้งหมดอาหารเสริมยี่ห้อไหน ดีหรือไม่ดีอย่างไร เราสามารถหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้จากรีวิวต่างๆในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราก็ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างรีวิวจากผู้ซื้อจริงรับประทานจริง หรือเป็นการรับจ้างรีวิว(โฆษณาทางอ้อม) เพราะข้อมูลการรีวิวที่เกิดจากลูกค้าจริงมักจะบอกทั้งข้อดี-ข้อเสีย ให้ข้อมูลที่จริงใจ และคำวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่การรีวิวแบบรับจ้างนั้น ทำขึ้นเพื่อการตลาดและกระตุ้นยอดขาย การนำเสนอจึงมักบอกแต่ข้อดีและคำโฆษณา เราจึงต้องไตร่ตรองให้ดีเวลาที่ดูรีวิว5. ดูสถานที่วางขายว่าน่าเชื่อถือแค่ไหนหากเราซื้ออาหารเสริมจากร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เราอาจได้รับสินค้าปลอมหรือสินค้าลอกเลียนแบบที่มีหน้าตาภายนอกคล้ายคลึงกับของแท้แทบทุกอย่าง ชนิดที่ว่าเลข อย. ก็ลอกมาตรงๆ ซึ่งตรงนี้จะอันตรายมาก เพราะคนที่ไม่รู้ว่าเป็นของปลอม พอนำเลข อย.ไปตรวจเช็ก ก็จะได้ข้อมูลเป็นของสินค้าตัวจริงจนอาจทำให้หลงซื้อมารับประทาน แต่กลับไม่รู้เลยว่าเม็ดแคปซูลภายในกล่อง/กระปุก ผลิตทำขึ้นที่ใด สะอาดถูกหลักอนามัยหรือเปล่า ผสมสารอะไรใส่เข้าไปให้เรากินบ้าง ดังนั้นจึงต้องซื้อจากร้านค้าที่น่าไว้ใจเพื่อความปลอดภัยสรุปว่า 5 วิธีดังกล่าว หากนำไปใช้ก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้ออาหารเสริมได้ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ ก่อนจะเลือกซื้ออาหารเสริมมารับประทาน ก็อย่าลืมถามตัวเองว่าเราจำเป็นต้องกินจริงๆหรือเปล่า เพราะราคาอาหารเสริมส่วนมากมีราคาสูง ซึ่งถ้าไม่ได้จำเป็นต้องกินจริงๆก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้นนั่นเองภาพปกและภาพประกอบโดย : นักเขียนสามารถอ่านบทความอื่นๆของนักเขียนได้ที่ : @ArtVich เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !