วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำ 10 หนังดิสโทเปียที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปีเนื้อหาก็ไม่เคยเก่าเลย1. Hunger Gameหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องโปรดของผู้เขียนที่หากมีเวลาว่างก็จะหยิบมาดู และดูมากกว่าสามรอบแล้วหนังเล่าเรื่องของแคตนิส เอเวอร์ดีน เด็กจากเขต 12 เหมืองถ่านหิน ที่ได้เข้าร่วมเกมการล่าชีวิตหรือ Hunger game ที่จัดขึ้นมาทุกๆปี แทนน้องสาวตัวเอง โดยฉาก I’ll volunteer ที่แคตนิส ยกมือขึ้นมาแทนน้องสาวตัวเอง ผู้เขียนน้ำตาจะไหลเพราะซาบซึ้งใจมากๆ โดยส่วนตัว ผู้เขียนเป็นแฟนทั้งหนังและหนังสือ The hunger game ที่ซูซาน คอลลินส์เป็นคนเขียนเนื้อเรื่องก็มีอยู่ว่าในทุกๆปี เกมล่าชีวิตจะถูกจัดขึ้น ทุกคนจะต้องส่งเด็กจากเขต 1 ถึงเขต 12 มาเขตละสองคน เพื่อเดินทางมาเข้าร่วมเกมการล่าชีวิตที่ถูกจัดขึ้นในเมืองแคปปิตอล เด็กทุกคนที่ถูกส่งมาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตรอดจนกว่าจะเหลือผู้พิชิตแค่คนเดียวความรู้สึกของผู้เขียนที่ได้ดูก็คือสนุก ตื่นเต้น และหนังสามารถถ่ายทอดอารมณ์และเนื้อเหาของสิ่งที่อยู่ในหนังสือออกมาได้ดีค่ะคะแนนรีวิวหนัง 10/10 ค่ะ 2. The Matrix The Matrix เป็นหนังวิทยาศาสตร์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น และหนังแอคชันฮ่องกง ทุกคนที่เคยดูหนัง The Matrix คงจะคุ้นเคยกับฉากหยุดกระสุน และฉากเลือกยาสองเม็ดระหว่าง เม็ดสีน้ำเงินและเม็ดสีแดงดี หนังเรื่องนี้ได้นักแสดงนำเป็นคีนู รีฟส์ ซึ่งใครเป็นแฟนผลงานไม่ควรพลาด เพราะคีนูตอนหนุ่มๆคือหล่อนิ่งมากๆ หนัง The Matrix เป็นหนังที่เล่าถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์ถูกควบคุมโดยเครื่องจักรที่เราสร้างขึ้นมา โดยจำลองเป็นเหตุการณ์สมมติ สำหรับผู้เขียน เป็นหนังที่สนุกมากๆ ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ แถมเอามาเล่นเป็นมุกกี่ทีก็ตลกความรู้สึกของผู้เขียนตอนดูคือเป็นหนังการรวมแอคชันที่มันส์มาก และชวนให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรัชญาของชีวิตระหว่างการเป็นผู้เลือกหรือการเป็นผู้ตื่นรู้คะแนนรีวิวหนัง 9.5/103. The Truman showThe Truman show เป็นรายการเรียลลิตี้ ที่ได้จิม แครรีย์มาแสดง หนังเรื่องนี้เล่าถึงกิจวัตรประจำวันของทรูแมนตั้งแต่ตื่นเช้า เข้านอน ไปทำงาน จนกลับจากที่ทำงาน พูดเล่าเรื่องกิจวัตรประจำวันของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ชีวิตมีความสุข แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าชีวิตของแกจริงๆแล้วคือรายการทีวี คือเรียลลิตี้โชว์ที่มีผู้ชมติดตามและรับชมทั่วโลก โดยมีทีมงานและโปรดิวเซอร์ที่ควบคุมการถ่ายทำอยู่ด้านหลังจอความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูหนังเรื่องนี้คือหน่วง อยากติดตาม และแอบเศร้าใจกับตัวละครด้วยในตอนใกล้จบคะแนนรีวิวหนัง 8.5/104. Wall-E หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อยอนิเมชันเรื่องนี้ผู้เขียนได้ดูครั้งแรกตอน ป.6 ในวัย 12 ปี เนื้อเรื่องจะจำลองถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์ได้ทิ้งโลกใบนี้ให้ร้างแล้วย้ายไปอาศัยอยู่ในยานอวกาศ เพราะมนุษย์ได้ทิ้งขยะจนล้นโลก Wall-E เป็นหุ่นยนต์เก็บขยะที่อยู่มานานถึง 700 ปีบนโลกมนุษย์ และได้ตกหลุมรักกับอีฟ หุ่นยนต์ที่เพิ่งผลิตมา อนิเมชันนี้เล่นหลายประเด็นที่อ่อนไหวมากๆ เกี่ยวกับโลกที่ล่มสลายของสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ และขยะที่ล้นโลก มนุษย์ที่ตกเป็นทาสของความสะดวกสบาย และหุ่นยนต์ที่ตามหาต้นไม้ที่เติบโตได้บนโลกความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูคือ สนุก ให้ความรู้ความบันเทิง และข้อคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกในอนาคตที่จะเกิดขึ้นหากเราละเลยสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเราคะแนนรีวิวหนัง 7.5/105. A Clockwork Orangeหนังเรื่องนี้เป็นหนังจำลองโลกอนาคตโดยเริ่มต้นหนังด้วยเรื่องเล่าของอเล็กซ์ เด็กผู้ชายอายุ 18 ที่มีนิสัยเลือดร้อน นักเลงหนังเรื่องนี้เป็นหนังไซไฟและหนังจำลองโลกอนาคตอีกเรื่องที่ควรดู... และหนังเรื่อง A Clockwork Orange ก็เป็นอีกเรื่องที่ดูจบแล้วได้ข้อคิดมากมายความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูคือสนุก น่าติดตาม ลุ้นระทึก และเพราะความ cult ของหนังที่อยากใส่อะไรมาก็ใส่ เลยทำให้เดาเนื้อเรื่องไม่ได้มากกว่าเดิมคะแนนรีวิวหนัง 8.5/106. The PurgeThe Purge เป็นหนังแฟนตาซีสยองขวัญ ที่จำลองสถานการณ์ หากในคืนๆหนึ่ง เราจะเดินเข้าไปฆ่าใครก็ได้ โดยไม่ผิดกฏหมาย โลกนี้จะเกิดความวุ่นวายและโกลาหลขนาดไหนในหากรัฐบาลประกาศให้ทุกคนทำอะไรก็ได้ในเวลาแค่ 12 ชั่วโมงที่ไม่มีกฏหมายความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูคือกลัว กังวล และอยากรู้ตอนต่อไปค่ะ คะแนนรีวิวหนัง 7.5/107. Equalsหนังเล่าเรื่องถึงโลกอนาคต หากโลกนี้ปราศจากความรู้สึก และอารมณ์ ความรักและการแสดงออกทางอารมณ์ของมนุษย์ ถูกมองว่าเป็นโรคร้ายที่ต้องถูกกำจัดหนังเรื่องนี้ได้นิโคลัส เฮาลต์ นักแสดงเด็กจากหนังเรื่อง About a boy และคริสเตน สจ๊วต นางเอกจากทไวไลท์มารับบทนำความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูคือสนุก ให้แง่คิด และไม่น่าเบื่อค่ะ นักแสดงก็ถ่ายทอดอารมณ์ในเนื้อเรื่องออกมาได้ดีมากๆคะแนนรีวิวหนัง 6.5/108. Alphaville หนังเรื่องนี้ได้ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่ได้รับฉายา New Wave ในสมัยนั้น Jean-Luc Godard มากำกับ และได้แอนนี คาริน่ามาแสดงหนังเล่าเรื่องหากหุ่นยนต์จะประดิษฐ์อะไรสักอย่างขึ้นมาแทนที่มนุษย์และสิ่งๆนั้นคือ Alphaville หนังเรื่องนี้มีภาพบางอย่างที่คล้ายกับหนังสือที่จอร์จ ออร์เวลเป็นคนเขียนความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูคือขนลุกค่ะ เพราะเนื้อเรื่อง เงาของแสง และมุมกล้อง รวมไปถึงการเขียนบทที่ดีมากๆของผู้กำกับคะแนนรีวิวหนัง 9.5/109. A.I. Artificial intelligence หนังเรื่องนี้เป็นหนังหุ่นยนต์หรือหนังปัญญาประดิษฐ์อีกเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพลอต การเขียนบท มุมกล้อง การตัดต่อ ไปจนถึงทักษะการแสดงของเด็กที่มารับบทหุ่นยนต์ A.I. แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นหนังของปี 2001 หนังเล่าเรื่องถึงครอบครัวๆหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียลูกชาย และคนเป็นแม่ทำใจยอมรับไม่ได้ จึงรับหุ่นยนต์มาเลี้ยงแทนลูกชายของตัวเองที่เพิ่งเสียไป ความรู้สึกของผู้เขียนคือดีกว่าที่คาดหวังไว้มาก เป็นหนังอีกเรื่องที่รู้สึกว่าถ้าไม่ได้ดูจะรู้สึกพลาดมากในชีวิตคะแนนรีวิวหนัง 10/1010. OkjaOkja เป็นเรื่องของเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ที่เลี้ยงหมูและสนิทกับหมูตัวหนึ่งเหมือนเพื่อนเหมือนคน โดยตั้งชื่อหมูตัวนั้นว่า Okjaในโลกที่คนทุกคนกินหมูเป็นอาหาร และใช้การทดสอบทางพันธุกรรมเพื่อเอาหมูมาเป็นอาหารเท่านั้นมีจานั้นไม่มีทั้งพ่อ ไม่มีทั้งแม่ Okja คือครอบครัว คือเพื่อนที่ดีที่สุดแต่ในขณะเดียวกัน Okja นั้นก็ถูกมองว่าเป็นหมูแม่พันธ์ที่มีร่างกายทและเชื้อพันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดในการผลิตเนื้อหมูในรุ่นต่อๆไปหนังเรื่องนี้เลยเป็นการผจญภัยของมีจาเพื่อช่วยเหลือ Okja ออกมากจากโรงงาน เชื่อว่าหลายๆคนดูเรื่องนี้จบแล้วต้องร้องไห้ออกมาแน่นอน เพราะซาบซึ้งกับมิตรภาพและความสัมพันธ์ของมีจาและ Okjaความรู้สึกของผู้เขียนเวลาดูหนังเรื่องนี้คือไม่เสียดายเวลาที่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะเพราะคุ้มค่าเวลามาก คะแนนรีวิวหนัง 5.5/10 ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 จากค่ายหนัง Lionsgate / 2 จากค่ายหนัง wbpictures / 3 จากค่ายหนัง paramountpics/ 4 จากค่ายหนัง pixar / 5 จากค่ายหนัง wbpictures / 6 จากค่ายหนัง uipnorway / 7 จากค่ายหนัง scottfreeprod / 8 จากค่ายหนัง planbentertainmentจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !