👍ประสบการณ์ Hitchhiking โบกรถ👍ตอนอยู่ไทยบ่นร้อน เอาเส๊ หิมะเต็มๆ มันคืออะไร ก็ง่ายๆเลยแค่ยื่นนิ้วโป้งออกมาอย่างงี้ 👍 + มั่นใจ ไม่ต้องอายใครๆก็ทำกันนิ + ยิ้มด้วยสำคัญเลย เพราะว่าคิดกลับกันถ้าเราขับรถละเจอ พวก Hitchhiker โบกรถข้างถนน ละยืนแบบหน้าบูดเหมือนนอนไม่เต็มตื่น ใครเขาจะรั๊บบบ!!! พักก่อน! ยิ้มด้วย 😁 ให้เขารู้ว่าเราโบกรถด้วยเจตนาที่ดี ไม่ได้จะอะไรเล๊ย แค่ขอติดรถไปด้วยคน ที่สำคัญเลยคือต้องเชื่อมั่น อย่าลืมโบกรถให้ถูกฝั่งด้วยนะ 5555 ไม่งั้นก็จะเสียเวลานิดนึง มีครั้งนึงเดินไปหารถที่จอดอยู่ ถามว่ายูไปทางเดียวกันไหม ขอติดรถไปด้วยก็เจอคำถามนี้มาว่า "You're not going to kill me, aren't you?" นี่ก็อธิบายเขาไปว่าเราไม่ได้จะอะไรเลย เราเป็นนักท่องเที่ยว มาจากไทยแล๊นนน!!! ไม่กัด แค่ขอติดรถไปด้วยคนได้ไหมอ๊ะ ☺️☺️☺️☺️ การโบกรถเนี่ยไม่ใช่ว่ามันจะประสบความสำเร็จทุกๆครั้งนะ อาจจะสภาพอากาศ ⛅🌪️🌧️ไม่เป็นใจมั่งแหละ เหนื่อย 😩 เบื่อ 😔 ท้อบ้างแหละ มันมีอยู่แล้ว อันนี้อยู่ที่ใจเลย❤️ บางครั้งก็จุดโบกรถไม่ดี มันเลือกไม่ได้อะ ที่ๆโบกยากคือในตัวเมือง รถขับไวด้วย ยังไงก็ไม่มีทางจอดรับแน่นอน ละถ้ามีป้ายรถโดยสารคนก็จะแบบ เอ๊ย! มาโบกทำไมแวะ ไปนั่งรถบัสโน่น บางทีนี่ก็นั่งรถโดยสาร 🚌 เพราะว่าวันนั้นหิมะ🌨️ ตกหนักมาก เสื้อแจ็คเก็ตเริ่มเปียก (ใครเขาจะรับ ตัวเปียกไปหมด ละมันหนาวมากๆด้วย) เลยตัดสินใจนั่งรถโดยสารแทน เพราะไม่คุ้มป่วยนี่ แต่นี่ก็เชื่อเสมอว่า "The ride right will come" 🙏 ถึงจะรอ 1-3 ชั่วโมงแล้วรถยังไม่มา พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็ยังฮึดมีแรงก็เอาวะ สู้ดิว๊ะ! แต่ถ้าวันไหนเริ่มดึกก็จะเลือกตัวเลือกอื่นแทน ต้องมี Plan B เอาไว้เสมอ วันนี้ไปไม่ถึงจุดหมาย ก็หาเมืองกลางทางอาจต้องนอนค้างคืนเงี๊ย 🛌 ประสบการณ์ที่ผ่านมาคือโบกในเอเชียแถบบ้านเรา รอนานเลยแหละ 1 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ก็สนุกดี เรารู้ว่าเราอยู่ไหน เอเชียมันหาของกิน หาที่พักง่ายอะ แต่ที่บอลข่านที่โบกรถมาเดือนครึ่งคือดีมากๆเลยนะ รอไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็มีคนหวังดีมาจอดรับเราแล้ว 🙏 ผู้คนใจดีมาก โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว เคยมีหลายๆคนที่รับไปด้วยบอกว่า มันเป็นสิ่งที่คนที่นี่จำเป็นต้องทำถ้าเจอชาวต่างชาติ เขาต้องช่วยเหลือต่างชาติ ซึ่งก็คิดว่าจริงนะ บางทีนี่ยื่นนิ้วโป้งออกมาแพร๊บเดียว รถจอดเลย มีครั้งนึงจำได้ไม่ลืมเลย โบกรถตรงที่เขาซ่อมถนน 👩🔧อะ โอ๊ยยยย จะบ้าตาย ฝุ่นขอให้บอก ทนไม่ไหวต้องเอาแมสมาใส่ (คนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ใส่แมสกันแล้ว พื้นที่เปิดไม่มีใครใส่เลยอะส่วนใหญ่ ต่างจากบ้านเรามากๆ) รถ 3 คัน 🚐🚐🚐 จอดรับพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย 555 นี่ก็เอาไงดีวะ คันใกล้ๆก็ละกัน ฝุ่นเยอะไม่ไหวแล้ว ขอติดรถไปด้วย อันนี้ตอนเดินไปเที่ยว Mausoleum of Petar II Petrovic-Njegos แล้วเจอเพื่อนร่วมทางขอติดรถกลับเข้าเมืองด้วย 🥰🙏 🤨 ทำไมถึงคิดที่จะโบกรถ 👍 โบกรถละมันได้สัมผัสการเที่ยวไปอีกแบบอะสำหรับแป้งเลยนะ ไอเที่ยวแบบสะดวกสบายก็ทำได้แต่นี่คิดว่าถ้าเราอายุสัก 30 ปลายๆ หรือเกิน 40 ไปแล้วอะ มาทำอะไรแบบนี้สภาพร่างกายก็คงจะไม่สามารถขนาดนั้น กินอาหารแบบเลือกไม่ได้ 🥪🥫🥡🌯🥗 กินไม่ตรงเวลาบ้างแหละ บางทีเจอคนดีชวนไปบ้านเงี๊ย ปฏิเสธไงอะ มันก็ต้องตามน้ำ มันเป็นการเสี่ยงที่สนุก และนี่มีความสุขกับการเที่ยวแบบนี้ มันได้ประสบการณ์ที่เที่ยวกับบริษัททัวร์และเที่ยวแบบสะดวกสบายให้ไม่ได้ 🙂 วางกระเป๋าบนหิมะไปเล๊ย มีคนที่เราเจอระหว่างทางหลายคนบอกว่า อยากย้อนเวลา ⏳ กลับไปทำแบบนี้บ้าง "แต่สายไปแล้ว" ไอตรงนี้เนี่ยแหละสำคัญเลย อย่ารอให้มันสายไป ชอบอะไรก็ทำเล๊ย เอาเล๊ย ชีวิตเดียว เอาให้เราสุข สนุกไปกับมัน ใครชวนไปไหนก็ไม่ใช่ไปหมด ทุกๆการตัดสินใจเวลาแบคแพคคือเราคุยกับแฟนแล้ว คิดกันหลายรอบแล้วถึงตัดสินใจในตัวเลือกนั้นๆ หลายๆคนอาจสงสัยว่าเอาเงิน 💸 มาจากไหน ทำไมเที่ยวได้เยอะจัง บ้านรวยหรอ เอาจริงๆเลยนะ ลองคิดว่าถ้าค่าการเดินทาง 🧳🚆เป็น 0 นอนบ้านเพื่อน/ บ้านคนอื่นกับ Couchsurfing 🏘️ ค่าที่พักเป็น 0 หรืออาจจะมีบ้าง คือนี่ก็ไม่ได้โชคดีไปซะตลอด มันต้องมีวันที่หาที่อยู่ไม่ได้ก็นอนโฮสเทลถูกๆไปคืนเดียว วันรุ่งขึ้นว่ากันและมันต้องดีกว่านี้ เหลือแค่อาหาร 🌯🍝 ส่วนใหญ่โฮสทำให้กิน ทำกินกันเองบ้าง ซื้อของตามซุปเปอร์เรามีทริคได้ของลดราคา 🔖 5555 🌜โบกรถตอนกลางคืน🌃เราไม่แนะนำนะถึงจะเคยลองทำมาหลายรอบแล้ว เพราะ1. เลยมันมืด และความสามารถในการมองเห็นต่ำลง2. เราไม่เห็นว่าคนบนรถเขาสื่อสารอะไรกับเรา ต้องดูสถานการณ์ด้วยถ้ามันมืด ⚫ แล้วก็พึ่งพารถโดยสารเต๊อะ แต่ตอนที่เราโบกตอนกลางคืนคือมันแค่สองทุ่มอะ ก็ยืนหย้าปั๊มน้ำมัน ⛽ ให้มันมีแสงส่องเรา 💡 รถจะได้เห็นว่ามีมนุษย์สองชีวิตยืนอยู่ข้างถนนน้าาา เราต้องรู้ด้วยว่าประเทศที่เราอยู่ เมืองที่เราอยู่มันปลอดภัยที่จะมีคนจอดรับพวกเรา เราเลยตัดสินใจไม่นั่งรถโดยสาร คืออิวันนั้นก็ยืนแบบพลังเหลือล้น หนาวนิดๆ นี่ก็กระโดดไป เต้นไป จนมีคนจอดรับ 🙏🙏🙏🙏 ขอบคุณหลายๆ 🎿ไปเล่นสกีกันเถอะ 🏂ที่ๆเราไปชื่อว่า Savin Kuk Ski Resort อยู่ในอุทธยานแห่งชาติ Durmitor การเดินทางไปนั้นก็ง่ายมาก นั่งรถจากเมืองหลวง Podgorica มาเมือง Zabjlak ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วแหละ สำหรับคนที่อยากนั่งรถโดยสาร เราค่อยๆโบกรถมา โบกรถมาเล่นสกี เรามาเช่าชุดข้างๆ จุดขายตั๋ว เพราะร้านนี้ให้ราคาถูกกว่า 😂 ⛷️เรื่องสกี/สโนวบอร์ด🏂 🎿 สนุกมว๊ากกกก ก ไก่ ล้านต้ว เพราะมันถูกกกกโครตๆ จำได้ว่าวันนั้นจ่าย ski pass (ลิฟต์ขึ้นไปข้างบนนั่นแหละ) ครึ่งวันอยู่ที่ €6 ~ 200 บาทนิดๆ และอีก €10 ~ 360 บาทนิดๆ คือค่าเช่า ชุด+รองเท้า+อุปกรณ์สกี หรือถ้าอยากเล่นทั้งวันก็ €10 ถูกมว๊ากกกก ใครไม่อยากเล่นสกีหรือสโนวบอร์ดก็จ่ายค่าสกีลิฟต์ขึ้นไปดูวิวข้างบนยังได้ แค่มาดูวิวก็คุ้มละอะ ได้ขึ้นเคเบิลคาร์ไปจุดที่อยู่เหนือน้ำทะเล 1900 เมตรของอุทธยานแห่งชาติ Durmitor วิวอย่างสวย เห็นทั้งทะเลสาบกี่แห่งก็ไม่รู้มันเป็นน้ำแข็งไปหมด ในเมือง Zabjlak สามารถไปเดินดูทะเลสาบสีดำที่ตอนนี้แข็งโป๊ก ห่างจากเมืองแค่ 3 โลเอง ทางเดินก็น่ารักเต็มไปด้วยน้ำแข็ง ☃️❄️ ปั่นจักรยานบนหิมะ สุดปัง อีกนิดเดียวก็หลังคาบ้านละหนา snowman ตัวบักเอ๊ก!! 😲😁 หลังจากที่เที่ยวรอบมอนเตเนโกร ก็โบกรถไปประเทศเพื่อนบ้านกันต่อคือประเทศอัลเบเนีย ระหว่างทางจะเป็นไงบ้างติดตามตอนต่อไปได้เลยค้า ขอบอกก่อนว่าแค่วันแรกที่ไปถึงก็งานเข้าเอาซะและ อิหยังวะ เพิ่งถึง จะเอาเลยเร๊อะ! ตอนแรกกะจะอยู่แค่ 2 อาทิตย์แต่ต้องอยู่ยาวเป็น 3 อาทิตย์ซะงั้นแต่ก็โบกรถรอบประเทศอยู่นะ ตอนนี้โบกรถไปชายแดนมอนเตเนโกร-อัลเบเนียฝากติดตามด้วยนะคะPang Pang's Everywhereเขียนผิด ข้อมูลผิดตรงไหน แจ้งได้เลยรูปทั้งหมดถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้สวยมากมีงบเท่านี้ 5555ห้าม copy รูปภาพนะค้า 🙅♂️เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !