บทความนี้จะมา รีวิว&ตีแผ่ ภาพยนตร์จาก Netflix ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากที่สุดบนเวทีออสการ์ 2022 และชนะรางวัลลูกโลกทองคำสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอย่าง The Power of the Dog (2021) ภาพยนตร์เรื่องนี้มีดีอย่างไร? ทำไมถึงได้เข้าชิงออสการ์มากที่สุดในปีนี้ เข้าชิงถึง 12 สาขาเลยทีเดียว บทความนี้ผมจะป้ายยาทุกคน และจะบอกถึงความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ก่อนจะมาเริ่ม เรามาดูข้อมูลเบื้องต้นของภาพยนตร์กันก่อนดีกว่า และผมก็จะเขียนรีวิวสั้นๆแบบไม่สปอยล์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคนเรื่องย่อเรื่องราวทั้งหมดเริ่มในปี ค.ศ.1925 ที่ไร่แห่งหนึ่งในรัฐมอทานา เจ้าของไร่ 2 พี่น้อง Burbank ที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว คนพี่คือ Phill Burbank (Benedict Cumberbatch จาก Dr.Strange) นิสัยห่าม ขวางโลก อีโก้จัด ชอบข่มเหงคนอื่น และซกมก ส่วนคนน้องคือ George Burbank (Jesse Plemons จาก Breaking Bad) ที่มีนิสัยยอมคน สุภาพเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน แต่งตัวดี ใจดี และใจเย็น ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อ George คนน้อง ได้ไปพบรักกับแม่ม่ายลูกติด Rose (Kirsten Dunst จาก Spider-Man) และลูกเธอ Peter (Kodi Smit-McPhee จาก X-Men) Rose เป็นเจ้าของร้านอาหารที่อยู่ในระแวกนั้น จึงตัดสินใจแต่งงานกัน พร้อมกับชวนเธอและลูกมาอยู่ด้วยกันกับเขา ซึ่งมีฟิลพี่ชายของเขาอาศัยอยู่ด้วย และดูเหมือนว่าฟิลจะไม่พอใจและไม่ชอบแม่ลูกคู่นี้ จนฟิลได้เริ่มทำการข่มเหงและคุกคามสองแม่ลูก สุดท้ายแล้วจะลงเอยอย่างไร ไปดูได้ทาง Netflix มีพากย์ไทยด้วย ใครยังไม่ดูรีบไปดูก่อนค่อยมาอ่านต่อ ส่วนคนที่ดูจบแล้ว งงตรงไหนก็มาอ่านบทความนี้ได้เลย เพราะหนังมันค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ แต่เนื้อเรื่องดูง่ายไม่ได้ยากขนาดนั้นตัวอย่าง The Power of the Dog (2021)รีวิว The Power of the Dog (2021) ตัวเต็งออสการ์ 2022ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย พูดได้แค่ว่า โคตรดี! เป็นหนังที่ผมชอบอันดับต้นๆของปี 2021 เลย ตอนดูจบผมนี่แบบเหวอผสมกับว้าว แบบเห้ย เจ๋งจริง ทำดีมากๆ เก็บรายละเอียดยิบย่อยได้ละเอียดและนำเสนอออกมาได้อย่างละเมียดละไมมากๆ บทและไดอะล็อคก็ไหลลื่นสวยงาม มีความหมายนัยแฝงอยู่อย่างสม่ำเสมอ แถมนักแสดงทุกคนก็แสดงออกมาได้ธรรมชาติมากๆ สมจริงจนทำให้คนดูเชื่อได้ว่าพวกเขาคือตัวละครตัวนั้นจริงๆการแสดงในเรื่องนี้ป๋า Benedict เล่นได้สุดมากๆ เชื่อเลยว่าเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ลบภาพจำในลุคหมอแปลกออกไปจนหมดเกลี้ยง กลายเป็นฟิล เบอร์แบงค์ มนุษย์ลุงขวางโลกที่โคตรน่าหมันใส้อย่างเต็มตัว ขนาดไม่พูดอะไรแค่การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ ก็ทำให้รู้สึกกดดันแล้ว สุดยอดมากๆ และคนอื่นๆก็ไม่แพ้กัน อย่าง Kirsten ที่เล่นเป็นแม่ม่าย ก็ตีบทแตกมากๆ เล่นดีสุดๆ ต้องเล่นจากบทคนที่ดีๆ กลายเป็นคนเมาติดเหล้าสติหลุดอารมสองขั้ว แต่กลับแสดงได้อย่างธรรมชาติและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี และอีกคนคือ Jesse ที่รับบทเป็นจอร์จ แม้ว่าจะได้ออกมาในหนังเพียงไม่กี่ฉาก แต่กลับทำได้สุดยอด เรียกได้ว่าออกมาน้อยแต่ร้อยเปอร์เซ็น และคนสุดท้ายที่เป็นม้ามืดของเรื่องนี้ แถมยังแสดงได้ดีสุดๆ นั่นก็คือ Kodi ที่เล่นเป็นปีเตอร์ลูกติดของโรส ซึ่งเขาแสดงได้ดีทัดเทียมกับทุกคนที่เป็นรุ่นเก๋า มันเลยยิ่งส่งให้ซีนอารมณ์ของหนังเรื่องนี้มันไปได้จนสุดทาง และส่งอารมณ์ทั้งหมดได้ถึงคนดูแบบเต็มๆ การันตีฝีมือการแสดงของทั้ง 4 คนนี้ ด้วยหารที่ทั้ง 4 คนถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาการแสดงออสการ์ทุกคน เรียกได้ว่าสุดยอดมากๆ แถม Kodi-Smith McPhee พึ่งจะชนะรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำปีล่าสุดมาหมาดๆบทและไดอะล็อกบทและไดอะล็อกทำออกมาได้สุดยอดมากๆ และแฝงความหมายไว้อย่างลึกซึ้ง ทุกอย่างผ่านการกรองมาแล้วอย่างดี เก็บรายละเอียดยิบย่อยได้อย่างหมดจด นำเสนอออกมาได้อย่างแนบเนียนสวยงาม แม้ว่าการดำเนินเรื่องอาจจะดูแบบไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตั้งใจดูและเก็บดีเทล รับรองว่าไม่เบื่อแน่นอน ยิ่งตอนท้ายที่เฉลยทุกอย่าง พร้อมกลับบอกที่มาของชื่อหนังได้ในเวลาที่พอเหมาะพอดี มันทำให้ตอนจบมันไปได้สุดทาง และน่าจดจำมากๆ ชอบหลายฉากมากๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะดัดแปลงมาจากนิยาย แต่การนำเสนอของผู้สร้างภาพยนตร์มันเฉียบแหลมมาก ถ่ายทอดออกมาได้สมบูรณ์แบบ และมีมิติ สมเหตุสมผลมากๆ ส่วนตัวชอบบทของตัวละครฟิลที่สุด ไดอะล็อคของเขามันแฝงไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง แต่บทของตัวละครอื่นๆก็ไม่ได้ด้อยหรือมีความสำคัญน้อยกว่าเลย ทุกอย่างมันดูสมจริงและเป็นธรรมชาติมากๆงานภาพและการโปรดักชั่นทุกอย่างออกมาดี งานภาพถ่ายออกมาได้อย่างสวยงาม เหมาะกับโทนและเนื้อเรื่องของหนัง การดีไซน์ตัวละครก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ทำออกมาได้สมจริง โดยเฉพาะตัวละครฟิล ที่เป็นตัวละครที่ซกมก สกปรก ไม่อาบน้ำ ซึ่งทีมเมกซ์อัพแต่งออกมาเหมือนคนสกปรกจริงๆ งานภาพก็ถ่ายออกมาได้ดี มีความเป็นคาวบอยอยู่สูงมาก เหมือนอยู่ในปี ค.ศ.1925 จริงๆ ให้ความดิบสมจริง ทุกอย่างมันดูจริงจังไปหมด บวกกับเพลงและเสียงประกอบที่ไม่ได้ใส่มาเยอะแยะมากมาย เน้นความดิบสมจริง ส่งอารมณ์ของตัวละครให้คนดูได้เสพกันแบบเต็มๆ ทำให้อารมณ์ของคนดูหนังมันเพิ่มขึ้นอีก ดราม่าหนักๆเข้มๆ เต็มอิ่มในระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม เหมือนการได้ดูผลงานศิลปะชิ้นโบว์แดง บอกเลยว่าห้ามพลาดจริงๆสรุปโดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ชอบมากๆ และน่าจดจำมากๆ ตอนดูจบนี่ถึงกับยืนปรบมือ ยกนิ้วให้หนังอยู่ที่หน้าจอคนเดียวเลย มันสุดยอดจริงๆ คู่ควรแล้วกับการเข้าชิงรางวัลมากมาย พร้อมกับคะแนนวิจารณ์ที่สูงลิ่ว ไม่ผิดหวังแน่นอน อยากให้ทุกคนได้ลองดูกัน สุดท้ายนี้ถ้าหากรีวิวนี้ของผมทำให้ใครไม่พอใจ หรือไม่ถูกใจใคร ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ จะบอกว่าอวยก็ได้ เพราะผมอวยจริงๆครับ ฮ่าๆ ก็คนมันชอบอะ ดังนั้นผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ที่ 9.5/10 คะแนนรายชื่อสาขารางวัลที่ The Power of the Dog เข้าชิงบนเวทีออสการ์ 2022The Power of the Dog เข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งหมด 12 สาขา ได้แก่นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ACTOR IN A LEADING ROLE) ผู้เข้าชิง BENEDICT CUMBERBATCHนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ACTOR IN A SUPPORTING ROLE) ผู้เข้าชิง JESSE PLEMONSนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ACTOR IN A SUPPORTING ROLE) ผู้เข้าชิง KODI SMIT-MCPHEEนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (ACTRESS IN A SUPPORTING ROLE) ผู้เข้าชิง KIRSTEN DUNSTถ่ายภาพยอดเยี่ยม (CINEMATOGRAPHY) ผู้เข้าชิง Ari Wegnerผู้กำกับยอดเยี่ยม (DIRECTING) ผู้เข้าชิง Jane Campionตัดต่อยอดเยี่ยม (FILM EDITING) ผู้เข้าชิง Peter Sciberrasดนตรีสกอร์ยอดเยี่ยม (MUSIC ORIGINAL SCORE) ผู้เข้าชิง Jonny Greenwoodภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ฺBEST PICTURE)งานสร้างยอดเยี่ยม (PRODUCTION DESIGN)ลำดับเสียงยอดเยี่ยม (SOUND)บทดัดแปลงยอดเยี่ยม (WRITING ADAPTED SCREENPLAY)ก็ขอให้สามารถชนะได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้าน อย่างน้อยซัก 2-3 สาขา แต่อาจจะยากหน่อย เพราะ DUNE ก็มาแรงมากๆในปีนี้ เข้าชิงถึง 10 สาขาเลยทีเดียว ต้องรอดูว่าใครจะได้เยอะกว่ากัน แต่ดูทรงแล้ว DUNE นี่น่าจะได้หลายสาขาแน่นอน โดยงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 ประจำปี 2022 กำหนดวันประกาศรางวัลออกมาแล้วในวันที่ 28 มีนาคม 2022 อีกเดือนกว่า รอดูกันได้เลยรายชื่อผู้เข้าชิงทั้งหมดบนเวทีออสการ์ 2022 (ครั้งที่ 95) : https://www.oscars.org/oscars/ceremonies/2022ชื่อเรื่อง : The Power of the Dog ความยาว : 2 ชั่วโมง 5 นาทีวันที่ฉาย : 1 ธันวาคม 2021แนว : ดราม่า , ชีวิต ผู้กำกับ : Jane Campionช่องทางการรับชม : Netflixช่องทางการติดตาม Facebook Fanpage : ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง : รีวิว The Last Duel (2021) การดวลจนตัวตายของ 2 อัศวิน เพื่อพิสูจน์ความจริงMeg 2 : The Trench กำลังจะเปิดกล้องถ่ายทำในสัปดาห์หน้าเตรียมตัวก่อนดู Vikings : Valhalla / ป้ายยา House of GUCCI หนังดีที่ไม่ควรมองข้ามแนะนำ&รีวิว Hype House (2022) เมื่อเหล่าคนดังมาอาศัยอยู่ด้วยกันเพื่อสร้างคอนเทนต์ออนไลน์รีวิวหนัง House of Gucci ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของตะกูล GUCCIเรื่องจริงของ Munich – The Edge of War มิวนิก ปากเหวสงคราม เปิดวาร์ปนักแสดง มัธยมซอมบี้ All of Us Are Deadรีวิวหนัง Scream หวีดสุดขีด หนังแฟนเซอร์วิสที่คนไม่ใช่แฟนหนังก็ดูได้รีวิว Special Delivery ส่งด่วนทะลุนรก นำแสดงโดย พัคโซดัม จาก Parasiteรีวิวซีรีส์ มัธยมซอมบี้ (All of Us Are Dead) ซีรีส์ซอมบี้ ที่ทุกคนไม่ควรพลาดรีวิว Moonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก เมื่อดวงจันทร์หลุดวงโคจรแล้วกำลังจะพุ่งชนโลกรีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (One for the Road) หนังไทยที่โคตรดี นานๆทีมีครั้งรีวิว The 355 ปฏิบัติการสวยลับเครดิตภาพทั้งหมดจาก Facebook : The Power of the Dogภาพปก : ภาพที่ 1ภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6วิดีโอ : The Power of the Dog - Official Trailer จาก Youtube : Netflixจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !