หลังจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2565 เวลา22:00น. ที่ผ่านมา ทางยูทูบ Muse Thailand ได้โพสต์วิดีโอ SPY×FAMILY ตอนที่ 1 โดยก่อนหน้านี้โซเชียลช่องทางต่าง ๆ ก็ได้โปรโมทอนิเมะเรื่องนี้กันอย่างเรียกได้ว่าทุกคนต้องรู้จักตัวละครเด็กผู้หญิงผมสีชมพูดวงตากลมโตที่ชื่อ “อาเนีย” กันอย่างแน่นอนMISSION 1 ปฏิบัติการ “STRIX” เมื่อสปายอันดับหนึ่งของเวสทาลิส(ฝ่ายตะวันตก)โค้ดเนม “สนธยา” ได้รับภารกิจให้แทรกซึมเพื่อใกล้ชิดกับ “โดโนแวน เดสมอนด์” ซึ่งเป็นประธานพรรครวมชาติของออสทาเนีย(ฝ่ายตะวันออก) โดยการสร้างครอบครัวสมมติขึ้นมาและส่งลูกให้ไปเรียนในโรงเรียนเดียวกับลูกของ “โดโนแวน เดสมอนด์” ดังนั้น “สนธนา” จึงต้องรับบทเป็น “ลอยด์ ฟอเจอร์” ชายหนุ่มที่ประกอบอาชีพจิตแพทย์ และจำเป็นต้องหาลูกให้ได้ภายใน 7 วันหลังจากที่รับภารกิจนี้มา “อาเนีย” ดูจากภายนอกเธอเป็นเด็กสาวที่พูดน้อยน่ารัก แต่ความจริงแล้ว “อาเนีย” เป็นเด็กสาวเป็นผู้มีพลังพิเศษสามารถอ่านใจผู้อื่นได้ กำเนิดขึ้นโดยบังเอิญจากการทดลองขององค์กรหนึ่ง เป็นตัวอย่างทดลองหมายเลข007 หลังจากหนีออกมาจากการทดลองก็ได้เปลี่ยนที่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อหาผู้ปกครอง เคยถูกรับไปเลี้ยง4ครั้งแต่ก็ถูกส่งกลับคืนทุกครั้ง เมื่อ “สนธยา” จึงได้มายังสถานที่รับเลี้ยงเด็กสุดโทรมที่สภาพแวดล้อมไม่เหมาะกับการให้เด็ก ๆ อยู่เป็นอย่างมาก และได้พบกับ “อาเนีย” และด้วยสติปัญญาอันน่าสะพรึงของของ “อาเนีย” ที่แสดงให้ “สนธยา” ได้เห็นก็ทำให้เขาและเธอต้องกลายมาเป็นครอบครัวสมมติของกันและกัน ในส่วนของตอนที่1 นี้ถึงจะมีตัวละครหลักยังไม่ครบก็ตามแต่ก็ได้บรรยากาศอบอุ่นเป็นอย่างมาก ความน่ารักของ “อาเนีย” ที่เป็นเด็กแต่สามารถอ่านใจของคนได้จึงพยายามอ่านใจของ “สนธยา” เพื่อที่เธอจะได้ไม่ถูกส่งกลับไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กอีก และเมื่อมีคุณพ่อเป็นสปายสุดสมาร์ทที่มีภารกิจสุดเร้าใจรอคอยอยู่มีเหรอที่พลาดโอกาสนี้ไป(ผู้เขียนชอบเอฟเฟ็กเมื่อเวลา “อาเนีย” ใช้ความสามารถอ่านใจคนจะมีประกายระยิบและเสียงพริ้งพราวมาก) โดยส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบความตบมุกโบ๊ะบ๊ะของพ่อลูกคู่นี้เป็นอย่างมาก โดยฉากที่ผู้คนแชร์บ่อยเห็นจะเป็นฉากที่สองพ่อลูกเล่นซ่อนหากัน ไม่ว่าลูกสาวเอสเปอร์จะซ่อนตัวค่อยแอบตามคุณพ่อไปทุกที่แต่ด้วยความที่เป็นสปายอันดับหนึ่งก็สามารถหาตัวเจอได้ตลอด ซึ่งถ้าให้พูดถึงความน่ารักของ “อาเนีย” ก็คงต้องพูดว่าน่ารักในทุกฉากที่ปรากฏตัวออกมาเลย ส่วน “สนธยา” เองก็เท่และสมาร์ทในทุกซีนเช่นเดียวกัน แต่ผู้เขียนชอบฉากที่ “สนธยา” บอกให้ “อาเนีย” เรียกตนเองว่า ‘お父様’ ซึ่งน่าจะประมาณว่า ‘ท่านพ่อ’ แต่อาเนียกลับเรียก ‘父’ ซึ่งน่าจะให้อารมณ์ประมาณ ‘พ่อ’ แต่ “สนธยา” ก็รู้สึกว่าสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้วที่ “อาเนีย” สามารถเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ได้ (คือผู้เขียนก็ไม่เคยเรียนเนื่องการใช้ภาษาญี่ปุ่นเลยไม่ค่อยแน่ใจเรื่องคำศัพท์ที่ใช้เรียกคนในครอบครัวเท่าไหร่ แต่ใช้ใจและอารมณ์ดูเลยรู้สึกว่ามันโบ๊ะบ๊ะและอบอุ่นมากจนอยากชวนให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน) แต่ในความน่ารักอบอุ่นของบรรยากาศความสัมพันธ์ของตัวละครแล้วก็ยังแฝงไปด้วยปมต่าง ๆ ทั้งการที่เกิดสงครามข้อมูลหรือสงครามเย็นในยุคนี้ หรือปมของตัวละครหลักทั้ง “สนธยา” และ “อาเนีย” ที่เคยมีในอดีต และอาจมีวัตถุเชิงสัญลักษณ์อย่างตุ๊กตาที่ “อาเนีย” ถืออยู่เป็นประจำที่ไม่ใช่ตุ๊กตาสัตว์ทั่วไปแต่เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีกอย่าง ‘ไคเมร่า’ เป็นสัตว์ที่ร่างกายกำยำและเป็นที่รวมของสัตว์ร้าย 3 ชนิด คือ ส่วนหัวถึงหน้าอกเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ บั้นท้ายเป็นมังกรหรืองู ที่ผู้เขียนเองก็ยังไม่ทราบว่ามีความหมายแฝงอะไรในตุ๊กตาตัวนี้หรือเปล่า แต่นี่ขนาดตัวละครหลักยังออกมาไม่ครบ(ซึ่งก็น่าจะทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ ในแต่ละตอน) ก็ยังมีประเด็นให้น่าติดตามกันขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชั่นแห่งปีที่พลาดไม่ได้โดยประการทั้งปวง สามารถรับชม “SPY×FAMILY” ได้ทาง Netflix, Bilibili, IQIYI และMuse Thailand(ผู้เขียนรับชมทางMuse Thailandที่จะโพสต์ลงทุกวันเสาร์ เวลา22:00 น. แต่จะจำกัดเวลาดูเพียง 3 ชั่วโมงหลังจากที่โพสต์วิดีโอลง หรือดูได้ถึงเวลา01:00 น. นั่นเอง) ในซีซั่นนี้จะมี25ตอน โดยแบ่งเป็น12ตอนแรกในเริ่มฉายในเดือนเมษายน และ13ตอนหลังจะเริ่มฉายในเดือนตุลาคม สำหรับผู้อ่านท่านใดที่เป็นสายดองรอดูครั้งเดียวอาจต้องรอถึงปลายปีเลยนะครับ ขอขอบคุณภาพประกอบ ภาพหน้าปก, ภาพประกอบที่1, ภาพประกอบที่2, ภาพประกอบที่3, ภาพประกอบที่4และภาพประกอบที่5จากเฟซบุ๊กเพจ Muse Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !