ช่วงนี้โควิดระบาด มีสายพันธ์ใหม่เข้ามาในประเทศไทยด้วยทำให้ Long Covid มีระยะเวลาที่ยาวนานกว่าเดิม โรงเรียนก็สั่งปิดไป คนทำงานก็ต้องกลับมากักตัวที่บ้าน ใช้ชีวิตแบบ New Normal อีก เครียดทั้งเด็ก ผู้ปกครอง คนทำงาน และอาจารย์เลย ก็เลยอยากจะแนะนำ 40 หนังโปรดในดวงใจที่มีเนื้อหายอดเยี่ยมของผู้เขียนให้เพื่อนๆรู้จักกัน สามารถรับชมได้บนช่องสตรีมมิง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีกันได้เลยคำเตือน อาจมีส่วนสปอยล์เนื้อหาในหนัง1. ALIAS GRACEซีรีส์มีความยาว 6 ตอน ตอนละ 1 ชั่วโมง เล่าเรื่องของเกรซ เมดที่ถูกพ่อ abusive ที่มีปัญหาติดเหล้าขายให้กับบ้านคนรวยเพื่อไปทำงานหาเงินเข้าบ้านตั้งแต่ยังสาว ก่อนที่จะถูกลวนลามทางเพศ โดยเจ้าของบ้าน และจู่ๆเจ้านายก็ตาย เธอถูกจับตัวโดยที่เกรซจำอะไรไม่ได้เลยความรู้สึกที่ดู หนังจะฉายตั้งแต่ตอนที่เกรซถูกจับติดคุก รักษาตัวในโรงพยาบาลบ้า ถูกทรมานให้พูดความจริง ก่อนที่จะเข้ารับการรักษากับหมอจอร์แดน จิตแพทย์ที่มีความรู้และมีชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนในสังคม ให้เข้าร่วมการสืบคดีและร่วมค้นหาความจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ กลิ่นอายของซีรีส์มีความลึกลับเป็นอย่างมาก และนักแสดงนำที่มารับบทเป็นเกรซ ผู้เขียนต้องขอยอมรับว่าเธอมีใบหน้าที่สวยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกด้วยสีหน้านิ่งๆ หวาดกลัว หรือหวาดระแวงสงสัย ใบหน้าของเธอมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก และเป็นที่น่าจดจำ มันมีความใสซื่อบริสุทธิ์บางอย่างที่ทำให้ผุ้ชายต้องอยากปกป้อง ซีรีส์ทำให้คนดูสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นกันแน่ และสิ่งที่เธอเล่าให้หมอจอร์แดนฟัง จริงๆแล้วเป็นเรื่องโกหกหรือเรื่องแต่งเพื่อเอาตัวรอดของเธอหรือเปล่า แม้การดำเนินเนื้อหาและการเล่าเรื่องจะถ่ายแบบนิ่งๆ เรื่อยๆ แต่ซีรีส์กลับสนุกมากๆ เพิ่มความสงสัยในจิตใจคนดู จนผู้เขียนอยากจะกรอไปดูตอนจบตอนสุดท้ายเพื่อดูเฉลยทุกอย่างเลยว่าจริงๆแล้วมันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นในหนังกันแน่ สิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดในหนังคือโควทเริ่มต้นของหนังและคำสอนของตัวละครในเรื่องที่ว่า เราจะไม่จ่ายภาษีให้กับคนที่เราไม่ยินยอมที่จะจ่ายหรือ ผู้หญิงนั้นไม่สามารถส่งเสียงหรือเปล่งเสียงได้ ไม่ต่างอะไรกับศพที่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยคะแนนรีวิว 10/10 2. The Umbrella Academyมีทั้งหมดสามซีซัน ซีซันละ 10 ตอน ตอนละประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เป็น Original Series จากช่อง Netflix ที่สร้างมาจากหนังสือคอมิกส์ที่ใช้ชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่เจ็ดคนที่จู่ๆก็เกิดมาบนโลกโดยที่แม่ๆของพวกเขาไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน เด็กๆเหล่านี้เกิดมาในวันเดียวกันปีเดียวกันเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะถูกรับเลี้ยงโดยมหาเศรษฐีที่มีนิสัยประหลาด เซอร์เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟส์ เด็กทุกคนโตมาด้วยคำสอนของพ่อที่อยากให้ทุกคนเป็นฮีโร่ปกป้องโลกความรู้สึกของผู้เขียนที่ดูคือนี้คือกลุ่มฮีโร่ที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นมนุษย์มากที่สุดเลย พวกเขาเป็นครอบครัว พวกเขาสร้างความผิดพลาดได้ พวกเขาผิดใจกันเองได้ พวกเขาบาดหมางกันเองได้ และพวกเขาสามารถรู้สึกเจ็บปวดได้ และแม้จะมีบางครั้งและหลายๆครั้งที่ความผิดพลาดมาจากความผิดพลาดจากพี่น้องของพวกเขาเอง แต่พวกเขาก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเขายังอยู่ด้วยกัน และตัดสินใจที่จะไม่ถอดทิ้งกัน เหมือนกับเพลง Happy together ที่เป็นเพลงประกอบ ost ซีซันแรกสุด โดยรวมเนื้อหาของหนังสนุกใช้ได้ มีเนื้อเรื่องที่สมเหตุสมผล และมีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างแปลกไปจากหนังฮีโร่สไตล์อื่นด้วย คือแม้ว่าพวกเขาจะมีหน้าที่ปกป้องโลก แต่พวกเขาก็มีความต้องการในชีวิตส่วนตัวของตัวเองด้วยคะแนนรีวิว 10/10 3. The Ratchedเป็น Originals Series จากช่อง Netflix ที่ set ฉากไปในยุค 50 สร้างมาจากหนังสือวรรณกรรมเรื่อง บ้าก็บ้าวะ ที่หลังจากหนังสือตีพิมพ์ออกมา ได้รับคำวิพากย์วิจารณ์อย่างมากจากคนในสังคม จนเกิดการถกเถียงและนำไปสู่การปฏิวัติการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตครั้งใหญ่ เมื่อคนมองว่าการรักษานั้นเป็นไปในรูปแบบของการทารุณกรรมและทรมานชีวิตคนไข้มากกว่าการช่วยชีวิตผู้ป่วยจริงๆความรู้สึกของผู้เขียนตอนที่ดูคือ หลงรักการแสดงของซาร่าห์ พอลสัน ในซีรีส์สยองขวัญระทึกขวัญเรื่องนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า สายตา คำพูด ท่าทาง หรือการแสดงออก คือซาร่าห์ พอลสันคนเดียว คุมมู้ดโทนของซีรีส์และเส้นเรื่องในหนังเรื่อง The Ratched ได้อยู่ทั้งเรื่องเลย ซีรีส์ไม่ค่อยมีฉากน่ากลัว หรือฉากเลือดสาดอะไรมาก แต่การเล่าเรื่องและการตัดต่อที่เน้นการเล่นกับจิตใจของคนดู และความอยากรู้อยากเห็นของคนดู และพฤติกรรมต่างๆของตัวละครในเรื่อง ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆ ในสายตาของผู้เขียน นอกจากทักษะการแสดงที่น่าชื่นชมและน่าประทับใจมากๆของซาร่าห์ พอลสันแล้ว ซีรีส์ยังเล่นประเด็นเพศหญิงหรือเพศทางเลือกที่ถูกกดทับจากสายตาของผู้คนในสังคมอีกด้วย และก็ยังเล่าเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่ หรือการตัดสินใจอะไรแต่ละทีต้องฟังความเห็นของหมอ หรือหัวหน้าหมอ ที่เป็นผู้ชายคนเดียวในโรงพยาบาล และในสมัยนั้น โรงพยาบาลจิตเวช ก็ไม่ได้รับความสนอกสนใจจากสายตาสาธาณชนมากขนาดนั้น นอกจากการต่อสู้กับศีลธรรมภายในจิตใจของคนเป็นหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว ก็ยังมีการต่อสู้กับบทบาททางเพศและอำนาจที่มองไม่เห็นภายนอกโรงพยาบาลเพื่อทุนในการรักษาเพิ่มอีก ก็เป็นซีรีส์ที่สนุก น่าติดตาม และให้ความรู้ในยุคนั้นมากๆนะ ที่สุดแล้วสิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้ก็คงเป็นการแสดงของซาร่าห์ พอลสันจาก American Horror story Season 4 ค่ะคะแนนรีวิว 10/10 4. Squid GameOriginals Series จากช่อง Netflix ที่ประเทศเกาหลีนำไปทำ เล่าเรื่องของผู้เข้าแข่งขัน 456 คนมาเข้าร่วมการเล่นเกม ที่มีผู้ชนะเกมเพียงคนเดียว และผู้ชนะเกมจะได้รับเงินรางวัลไป 456 ล้านวอน โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน คือถ้าแพ้ก็ตาย โดยที่ผู้เข้าร่วมเล่นเกม 456 คนทั้งหมดนั้นเป็นคนจน เป็นคนที่ติดหนี้ เป็นคนที่ไม่มีทางไป หรือต่อให้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอกก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายทั้งเป็นหรือหายใจอยู่บนนรกบนดินอยู่ดีความรู้สึกของผู้เขียนตอนดูคือ หดหู่ใจเป็นอย่างมาก และน่ากลัวมากๆด้วย มันทำให้เรากลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า เพียงเพราะกระดาษใบเดียวในชีวิต คนเราต้องลำบากมากถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ ขนาดที่เราเอาชีวิตของเราไปทิ้ง หรือเพื่อการแข่งขันที่เรามองเห็นชีวิตของคนอื่นต้องตายไปต่อหน้าต่อตาของเรา โดยที่คนๆนั้นก็เป็นคนที่มีครอบครัว และพยายามที่จะมีความหวังบนโลกใบนี้เหมือนๆกัน แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนความเป็นจริงที่โหดร้ายในโลกทุนนิยม ที่ทุกๆคนต้องแข่งขันกันเองเพื่อเอาตัวรอด หรือต้องพยายามอย่างหนักเพื่อขยับฐานะทางสังคมหรือสถานะทางการเงิน คนเราทุกคนต้องพยายาม และการพยายามของคนจนเป็นเรื่องที่ยากลำบากกว่าคนทุกๆคน และลำบากกว่าคนทุกๆชนชั้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คนทุกคนรู้กันดี และทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ ทุกๆสังคมและทุกๆที่ๆเราไปย่อมมีกฎกติกา และแน่นอนว่า Squid Game ก็มีกฎสำหรับผู้เล่นทุกๆคนที่ต้องทำตามเช่นกัน เอาเป็นว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าดูซ้ำอีกรอบก็คงจะไม่ดูแล้วอะค่ะ เพราะเนื้อหามันรุนแรงเป็นอย่างมาก ฉากยิงปืนและฉากเลือดที่มากแบบเกินจริง ไหนจะคนที่พยายามวิ่งหนีตายเพราะแพ้เกมอีก เรารู้สึกว่ามันไม่ควรมีใครตายเพราะเรื่องแบบนี้อะ ทุกอย่างในซีรีส์เรื่องนี้สมจริงมากๆจนดูน่ากลัวอะ ทั้ง soud effect อารมณ์และความเครียดความกดดันของตัวละคร สีหน้าที่จริงจังของนักแสดง ทุกอย่างมันแค่น่ากลัวอะคะแนนรีวิว 10/10 5. PentHouseเล่าเรื่องของคนรวยในประเทศเกาหลีที่มีจำนวนเพียง 1% เท่านั้นที่จะเข้ามาพักอาศัยใน PentHouse แห่งนี้ได้ และพวกเขาไม่ลังเลที่จะทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการ แม้ว่าพวกเขาจะมีทุกอย่างไว้ในมืออยู่แล้วทั้งชื่อเสียง อำนาจ เงินทอง การศึกษา แต่พวกเขาก็ยังต้องการทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ก้าวไปสู่ความเป็นที่หนึ่งอีกความรู้สึกของผู้เขียนตอนที่ดู ปวดหัวมากๆ รู้สึกเหมือนไมเกรนจะกิน แม้จะมีเนื้อหาที่เกินจริงและออกทะเลไปบ้างในซีซันหลังๆ แต่เป็นซีรีส์ที่ดูเพลิน ดูสนุกมาก ดราม่าจิกกัดเจ็บแสบกันสุดๆแบบไม่มีใครยอมใครเลย คุณภาพการเขียนบทระดับบอลลีวูดของหนังอินเดียจริงๆ การถ่ายทำและการเล่าเรื่องเกินจริงระดับฮอลลีวูดไปเลย แต่ยังคง concept วัฒนธรรมเกาหลีอยู่ ที่ทุกคนต้องแข่งขันกันเอง และทุกคนต้องพยายาม ขยัน ทำงานหนัก คนที่ชนะจะได้ทุกอย่าง คนที่แพ้จะสูญเสียทุกๆอย่าง เอาเป็นว่าเป็นซีรีส์ที่สนุกมากๆ ดูๆไปก็ปวดหัวกับการกระทำของตัวละครไป ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องคงเป็นจูดันแทค่ะ เพราะนิสัยน่ากลัวมาก มากชนิดที่เราคิดว่าถ้าเราเจอคนแบบนี้ในชีวิตจริง เราจะทำยังไงดีคะแนนรีวิว 10/10 6. Marriage Storyเล่าเรื่องของสองสามีภรรยาที่แต่งงานกันมามากกว่า 18 ปี พวกเขามีลูกชายวัยน่ารักด้วยกันหนึ่งคน ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะต้องการหย่ากัน ทั้งๆที่ก็ยังรักและมีความปรารถนาดีต่ออีกฝ่ายอยู่ ซึ่งเรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากช่วงเวลาที่เกิดขึ้นกับผู้กำกับหนังเรื่องนี้ความรู้สึกตอนที่ดูคือ หน่วง อึดอัด และรู้สึกได้จริงๆถึงเจตนาที่ตัวหนังอยากจะสื่อและบอกกับคนดู ว่าความรักระหว่างคนสองคน เป็นเรื่องที่สวยงาม แต่การแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ในฐานะสามีภรรยานั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายขนาดนั้น ในมุมมองของชาร์ลี เขามองว่าตัวเองเป็นคนที่ทำงานหนัก พยายามดูแลครอบครัว ไม่เคยทอดทิ้งภรรยา และใช้เวลากับลูก ไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงแม้จะเหนื่อยจากการทำงานก็ตาม ส่วนภรรยาของเขา นิโคล ที่แม้จะมีความรักและมองเห็นความพยายามของสามี แต่ก็มีความเห็นไปอีกทางหนึ่งหลังจากเวลาผ่านมานานถึง 18 ปี ในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เธอรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปในฐานะของภรรยาของเขา หนังจะเล่าทุกอย่างตั้งแต่ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้ยังดีๆ ไปจนถึงค่อยๆส่องไปถึงรอยร้าวของปัญหา และสาเหตุที่ทำให้สามีภรรยาคู่นี้อยากจะหย่ากัน เอาจริงๆ มันสะท้อนถึงชีวิตจริงหลายๆอย่างมากเลยนะ การที่คนสองคนอยู่ด้วยกันเพราะว่ารักกัน การที่ iคนสองคนอยู่ด้วยกันเพราะว่าไม่ได้รักกัน การที่คนสองคนตัดสินใจจะเลิกเจอกันแม้ว่าจะยังรักกัน หรือการที่คนสองคนตัดสินใจจะเลิกเจอกันแม้ว่าจะไม่รักกันแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่ปกติมากเลยที่คนๆหนึ่งจะหัวใจแตกสลายและคนๆหนึ่งจะรู้สึกผิดหวังเพราะคนอีกคน และแม้ว่าจะมีการฟูมฟายหรือไม่มีก็ตาม คนสองคนก็ยังตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อไปอยู่ดีคะแนนรีวิว 10/10 7. ร่างทรงเล่าเรื่องของมิ้ง เด็กต่างจังหวัดที่เกิดในตระกูลร่างทรงที่แม่ยอมเปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์แทนเพื่อหนีย่าบาหยันที่หาร่างมาเป็นร่างทรงให้กับตัวเอง จึงเลือกมิ้นที่เป็นลูกสาวแทน เป็นหนังกึ่งสารคดีที่กำกับโดย โต้ง บรรจง และนาฮงจิน ความรู้สึกของผู้เขียนที่ดูคือเป็นหนังที่มีการถ่ายภาพแบบ footage นิ่งๆ ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่เท่าไร แต่ยอมรับว่าความน่ากลัวของน้อยตอนที่ทำพิธีน่ากลัวจริงๆ โดยเริ่มแรกเกริ่นเรื่องมาที่ความเชื่อ ไสยศาสตร์ พิธีกรรม และสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นก่อนที่นางเอกของเรื่องจะถูกผีสิง จะเลียนแบบเสียงต่างๆ และทำตัวแปลกๆ ซึมๆไปจากเด็กที่ร่าเริงสดใส ก่อนที่จะมาถึงตอนเฉลยปมแบบใส่ทุกอย่างมาใน 20 นาทีสุดท้าย หนังเลยดูเหมือนยัดจนขาดเสน่ห์หรือความน่ากลัวที่ปูทางมาแต่แรกๆถึงกลางๆ กลายเป็นว่ามันไม่สุดสักอย่าง ก็น่าเสียดายไป แต่ต่างชาติกลับชอบมาก โดยเฉพาะเกาหลีใต้ แต่คนไทยดูแล้วกลับรู้สึกเฉยๆไป ซึ่งตอนนี้ก็สามารถรับชมได้แล้วทางช่อง Netflix หนังมีความยาว 2 ชั่วโมงกว่า คะแนนรีวิว 7.5/10 8. Hunger GamesHunger Games เป็นหหนังที่สร้างมาจากหนังสือของซูซานน์ คอลินส์ที่ใช้ชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องของแคตนิส เอเวอร์ดีน ผู้หญิงจากเขต 12 ที่ขออาสาไปเข้าร่วมเกมการล่าชีวิตครั้งที่ 7 แทนพริมโรส น้องสาวของเธอเอง และเธอต้องเข้าร่วมการแข่งขันกับเด็ก 24 คนจาก 12 เขต และเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อรอดชีวิตกลับมาในเกมล่าชีวิตที่มีผู้รอดชีวิตได้แค่คนเดียว แต่ปีนี้กลับเป็นปีที่แตกต่งไปจากเดิม หลังจากที่เธอเป็นผู้พิชิต มันคือความหวังความรู้สึกจองผู้เขียนตอนที่ดูคือ หนังสนุกมากๆ เล่าเรื่องราวของสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมล่าชีวิตไม่ต่างจากตอนที่ดูหนังเลย ทั้งความยิ่บงใหญ๋ของแคสปิตอล แฟชันขอชาวเมือง ความอดอยากและความทรุดโทรม รวมไปถึงความโหดร้ายของเกม และกับดักในเกมการล่าชีวิตที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าผู้แข่งขันโดยเฉพาะ ก็ไม่ได้น่ากลัวไปกว่าตอนที่อ่านหนังสือเลย อีกทั้งตัวละครในเรื่องยังมีพัฒนาการเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ต้องชื่นชมทักษะการแสดงของนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบในเรื่องด้วย ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องคือซินน่าค่ะ ซินน่าในหนังสือว่ายอดแล้ว มาเจอซินน่าในหนังคือชื่นชมความใส่ใจของทีมงานที่ casting นักแสดงจริงๆ แถมเพลง Ost ของเพลงก็เพราะมากๆด้วย ฉาก effect ชุด สนาม และ CG รวมถึงแฟชัๅนและสถานที่ในการถ่ายหนัง เรียกได้ว่าไม่มีการประหยัดงบกันเลยจริงๆ เพราะทุกอย่างยิ่งใหญ่มากๆ เอาเป็นว่า Hunger Game เป็นหนังโปรดในใจผู้เขียนที่หยิบมาดูกี่รอบก็ไม่รู้สึกเบื่อเลยคะแนนรีวิว 10/10 9. Sky Castleเล่าเรื่องราวของคนรวยชนชั้นกลุ่มหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ในหมู่บ้าน Sky Castle ที่มีจำนวนประชากรเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งนอกจากจะร่ำรวยแล้วก็ต้องมีหน้าตาทางหน้าที่การงานที่ได้รับความเคารพและประสบความสำเร็จ เช่น หมอ ทนายความ ศาตราจารย์ ความรู้สึกที่ดูคือสนุกมาก เนื้อเรื่องดำเนินรวดเร็ว หลังจากผ่านอีพีแรกไปเท่านั้นแหละ เนื้อเรื่องก็สนุกมากๆ อีกทั้งยังมีเพลง Ost ที่ติดหูมากๆอย่างเพลง We All Lie ที่ว่ากันว่าซีรีส์เรื่องนี้คือชีวิตจริงของเด็กนักเรียนชาวเกาหลีใต้หลายๆคนเลยที่พ่อแม่ให้เรียนหนังสืออย่างเรียน ห้ามนอนถ้าทำการบ้านไม่เสร็จ ห้ามกินข้าวถ้าเกรดตกลงก็ห้ามออกจากห้อง ห้ามออกไปเที่ยวกับเพื่อน เอาเป็นว่าเป็นชีวิตที่เครียดและจริงจังมากๆในวัยมัธยมปลายราวกับพ่อแม่มานั่งเรียนด้วยเป็นเพื่อนโดยเฉพาะบรรดาออมม่าชาวเกาหลีใต้ทั้งหลาย ที่เป็นห่วงและใส่ใจการเรียนของลูกเป็นพิเศษในช่วง ม.ปลาย เพราะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และสังคมเกาหลีใต้ก็เหมือนสังคมเอเชียทั่วๆไปที่ฝันอยากให้ลูกเป็นหมอ ซีรีส์เรื่องนี้มีความเครียด อึดอัด สะท้อนความจริงของการศึกษาและสถาบันครอบครัวเป็นอย่างมาก ถ่ายด้วยโทนสีที่หม่น ทึม และมีจุดหักมุมของเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก ตัวละครที่ผู้เขียนชอบที่สุดคือโค้ชคิมค่ะ เพราะเป็นตัวละครที่ดูเซอร์เรียล มีเอกลักษณ์และน่าจดจำดีคะแนนรีวิว 10/10 10. S*x Educationเป็น Originals Series จาก Netflix ที่มีความยาว 3 ซีซัน เล่าเรื่องของโอทิสและเมฟที่รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งชมรมให้ความรู้ทางเพศศึกษาสำหรับคนที่มีปัญหาในโรงเรียนความรู้สึกทีไ่ด้ดูคือสนุก ได้ความรู้ด้วย เพราะเรามักจะได้ความรู้ผิดๆจากข้อมูลในหนังโป๊ แต่ความจริงแล้วเราไม่เคยรู้อะไรเลย เพราะผู้ใหญ่ไม่ยอมสอนเราในเรื่องนี้ หรือคุยตรงๆกับเราในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก ทั้งๆที่วัยอายุ 17 ปีถือเป็นเรื่องปกติที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน และอยู่ในช่วงค้นหาตัวเองหรือ Coming Of Age เลย ในส่วนของบทสนทนาและองค์ประกอบภาพที่เป็นธรรมชาติเลย ตัวละครในเรื่องยังมีพัฒนาการอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นโอทิส เมฟ อดัม เอริค หรือว่าโอลาเองก็ตามคะแนนรีวิว 10/10 จบไปแล้วนะคะกับ 10 หนังโปรดของผู้เขียนที่สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix ปี 2022 ถ้าใครมีความเห็นยังไง หรืออยากจะให้ผู้เขียนแนะนำหนังแนวไหน ก็สามารถคอมเมนต์กันมาได้เลยนะบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflixรวมโมเมนท์คู่ Calitte ที่ผู้เขียนชอบจาก First kill (2022)รีวิว You Don't Know me (2022) คลั่งรักผู้หญิงอยู่ดีๆ ต้องกลายมาเป็นฆาตกรทั้งๆที่ไม่ได้ทำส่องประวัตินักแสดง First kill (2022) ทางช่อง Netflixขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 9 / 10 โดย Netflix / 8 โดย Youtube : The Hunger Gamesรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 9 / 10 โดย Netflix / 8 โดย Youtube : The Hunger Gamesจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565