หลังจากที่ Netflix ได้ปล่อยออริจินอลเรื่องใหม่อย่าง Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซลออกมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยทับนักแสดงมากหน้าหลายตา ทั้งที่เห็นได้บ่อยในหนังหรือซีรีส์หลาย ๆ เรื่องหรือ นักแสดงที่พึ่งมีผลงานเมื่อไม่นานมานี้ มาร่วมขับเคลื่อนเรื่องราวหนังอาชญากรรม แอคชัน ที่นำพาคนดูโลดแล่นไปกับความเร็วแรงบนถนน ทั้งนี้ โมมิน เองจะนำทุกคนมารู้จักกับเหล่านักแสดงหลักทั้ง 5 คนยูอาอินhttps://www.instagram.com/p/Cflkf4zv5jV/?utm_source=ig_web_copy_linkยูอาอิน หรือ ออมฮงชิก เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เกิดเมื่อ 6 ตุลาคม 1986 งานโฆษณาทางโทรทัศน์คืองานแรกที่ยูอาอินเปิดตัวสู่สาธารณะชนในปี ค.ศ. 2003 ต่อมาก็ได้ปรากฎตัวในภาพยนต์เรื่อง Sharp ซึ่งหลังจากนั้นยูอาอินก็ได้พักงานแสดงของตนเพื่อทบทวนตัวเองในฐานะนักแสดงว่าตนนั้นเหมาะที่จะทำอาชีพนี้หรือไม่ไม่นานนัก ยูอาอินก็กลับมาด้วยงานแสดงเรื่อง Boys of Tomorrow ซึ่งยูอาอินเองก็ได้แสดงลวดลายการแสดงของเขาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เขาได้รับรางวัลมากมาย ภาพยนต์ที่ผ่านมาของยูอาอินได้โลดแล่นบนจอเงินให้เราได้เห็นอย่างต่อเนื่องอย่างเรื่อง Burning (2018), #Alive (2020) ที่ฉายบนสตรีมอย่าง Netflix เช่นเดียวกับเรื่อง Seoul Vibe และผลงานที่ส่งยูอาอินชนะรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงาน BaekSang Arts Awards ในปี 2021 คือเรื่อง Voice of Silence และในปีนี้เอง ยูอาอิน ก็กลับมาในภาพยนต์เรื่องใหม่อย่าง Seoul Vibeเมื่อพูดถึง ยูอาอิน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถทางการแสดงเป็นอย่างมาก ตัวโมมินเอง ก็ได้รู้จัก ยูอาอินจากผลงานการแสดงจากเรื่อง Fashion King (2012) แต่ผลงานการแสดงที่น่าประทับใจและทำให้เราไม่ลืม ยูอาอินในบทบาท อีบังวอน จากเรื่อง Six Flying Dragons (2015-2016) และส่งต่อมาในปี 2018 ตัวเราก็ได้มีโอกาสได้รับชมภาพยนตร์เรื่อง Burning ในบทอีจงซู ซึ่งเป็นบทบาทที่ โมมิน ประทับใจและตราตรึงในเสน่ห์การแสดง ทั้งความนุ่มลึกที่ยูอาอิน ถ่ายทอดความขุ่นข้องหมองใจของตัวละครหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดีโกคยองพโยhttps://www.instagram.com/p/Chz2S4pBh3l/?utm_source=ig_web_copy_linkโกคยองพโย นักแสดงชาวเกาหลีใต้ เกิดเมื่อ 11 มิถุนายน 1990 โกคยองพโยเปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกในปี 2004 ในภาพยนต์เรื่อง Public Enemy และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้ปรากฎตัวทั้งรายการสด ซิทคอม ซีรีส์ และภาพยนต์ โกคยองพโย เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากซีรีส์ดังตลอดกาลอย่าง Reply 1988 (2015) และ เรื่อง Jealousy Incarnate (2016) ส่งให้เขาได้รับรางวัล ดาราหน้าใหม่จากงาน SBS Drama Awardsซีรีส์เรื่องล่าสุดอย่าง Private Lives (2020) ที่โกคยองพโยแสดงร่วมกับซอฮยอน วง Girl's Generation ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม และหลังจากนั้นโกคยองพโย ก็ได้โผล่ในซีรีส์ในฐานะนักแสดงรับเชิญบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเรื่อง My Roommate Is a Gumiho อีกทั้งเขายังเคยร่วมงานกันกับ อูอาอิน ในเรื่อง Chicago Typewriter (2017) และกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในเรื่อง Seoul Vibe ผลงานของ โกคยองพโย ที่เป็นที่น่าประทับใจสำหรับโมมินในช่วงไม่กี่ปีมานี้นั้น ยกให้เรื่อง Private Lives (2020) เป็นบทบาทที่ไม่ค่อยได้เห็นในตัว โกคพยองพโย แถมยังเป็นบทที่ทั้งเด่นและเป็นบทที่น่าจดจำ เรียกได้ว่าเป็นบทที่ช่วยส่งเสริมตัว โกคยองพโย มากยิ่งขึ้น ทว่าถ้าพูดถึงเรื่องที่ทำให้เราจดจำ โกคยองพโยได้และนึกถึงเขาทุกครั้งคงหนีไม่พ้นบท ซอนอูในเรื่อง Reply 1988 (2015)พัคจูฮยอน https://www.instagram.com/p/ChrZe7vpRHv/?utm_source=ig_web_copy_linkพัคจูฮยอน เกิดเมื่อ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1994 เธอเดบิวต์เป็นนักแสดงจากละครสั้นเรื่อง My Wife's Bed (2019) แม้ว่าตัว พัคจูฮยอนนั้นจะเดบิวต์มาได้เพียง 4 ปีแต่เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือการแสดง ที่โดดเด่นในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ ในปี 2020 พัคจูฮยอนได้รับบทนักแสดงหลักในซีรีส์เป็นครั้งแรกในเรื่อง Extracurricular (2020) ออริจินอลซีรีส์ของ Netflix เรื่องนี้เองส่งเธอคว้ารางวัล Best Choice Actress ในงาน 5th Asia Artist Awards ต่อมาเธอก็ได้มีผลงานมาอย่างต่อเนื่องทั้ง Zombie Detective (2020), Mouse (2021) และล่าสุดคือเรื่อง Seoul Vibeโดยส่วนตัวโมมินนั้นได้รับชมการนักแสดงของ พัคจูฮยอน ครั้งแรกจากเรื่อง Extracurricular (2020) แต่ตัวเรานั้นจดจำ พัคจูฮยอน ได้จากเรื่อง Mouse (2021) ที่รับบท โอบงอี ซึ่งสำหรับเรานั้นตัวโอบงอีในเรื่องนั้น พัคจูฮยอนถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เธอถ่ายทอดความน่าสงสารในขณะเดียวกันก็เด็ดเดี่ยวออกมาให้ผู้ชมได้เห็นถึงความสามารถของเธอผ่านงานแสดงที่โดเด่นอีคยูฮยองhttps://www.instagram.com/p/Chvux7bp43e/?utm_source=ig_web_copy_linkอีคยูฮยอง เกิดเมื่อ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1983 เขาเป็นนักแสดงละครเวทีมาก่อนที่จะรับเล่นซีรีส์หรือภาพยนต์ อีคยูฮยองปรากฎตัวในซีรีส์ Prison Playbook (2017) ซึ่งถือเป็นซีรีส์ที่ส่งให้ผู้คนรู้จัก อีคยูฮยองเพิ่มมากยิ่งขึ้น อีคยูฮยอง ผ่านผลงานการแสดงมาอย่างมากมาย ด้วยความสามารถที่โดดเด่น ทำให้เขาได้รับบทบาทนักแสดงนำมากยิ่งขึ้น อย่างเรื่อง Hi Bye, Mama! (2020) ที่แสดงร่วมกับคิมแตฮี ก็ถือเป็นบทบาทที่เขาถ่ายถอดออกมาอย่างงดงาน ในฐานะของพ่อที่สูญเสียภรรยาไป ผลงานโดดเด่นที่ทำให้ผู้คนคุ้นหน้าคุ้นตากับตัว อีคยูฮยอง เป็นอย่างดีอย่าง Doctor John(2019), Stranger (2017-2020), Voice(2021), และ Happiness(2021)ถ้าพูดถึง อีคยูฮยองนั้น เป็นบุคคลที่ไม่มีข้อกังขาในงานแสดงของเขาเลย เขาเดินทางมาในวงการการแสดงนี้มาอย่างยาวนาน ในเรื่อง Prison Playbook (2017) เขาได้ถ่ายทอดบทบาทความหลากหลายทางเพศของตัวละคร ยูฮันหยาง ได้ออกมาอย่างตรึงตราใจ มันทั้งอบอุ่นและอิ่มเอมในทางความรู้สึก ตัวอีคยูฮยองนั้นรับงานแสดงที่ค่อยข้างหลากหลาย อย่างเรื่อง Hi Bye, Mama! (2020), และ Happiness(2021) ก็เป็นเรื่องที่น่าและทับใจที่แนะนำให้ตามไปรับชมองซองอูhttps://www.instagram.com/p/ChrdCCGvnUm/?utm_source=ig_web_copy_linkมาถึงน้องเล็กของกลุ่ม องซองอู เกิดเมื่อ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1995 เป็นคนเดียวในทั้ง 5 คนที่ไม่ได้เริ่มต้นชีวิติในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดง องซองอูปรากฎตัวครั้งแรกในรายการเรียลลิตี้ Produce 101 ซีซัน 2 และได้เดบิวต์เป็นสมาชิกกับอดีตวงบอยแบนด์ Wanna Oneหลังจากที่เขาจบกิจกรรมวงไปแล้ว เขาก็ได้เดบิวต์เป็นนักแสดงเต็มตัวในบทนักแสดงหลังจากเรื่อง At Eithteen (2019) ในเรื่อง Seoul Vibe นี้จึงถือว่าเป็นภาพยนต์เรื่องแรกขององซองอู แม้ว่าจะเป็นน้องเล็กของกลุ่มและประสบการณ์งานแสดงไม่เทียบเท่าคนอื่น แต่ถือว่าเขานั้นก็ได้แสดงลวดลายการแสดงของตัวเองไว้ได้อย่างสวยงามสำหรับ องซองอู ที่พึ่งผ่านงานแสดงมาเพียงเรื่องเดียง แต่ตัวโมมินนั้นได้มีโอกาสรับชมรายการเรียลลิตี้อย่าง Produce 101 ซีซัน 2 ซึ่งก็ทำให้รับรู้มาว่าแม้ว่าตัว องซองอู จะเตรียมตัวมาเป็นไอดอลแต่เขานั้นก็มาจากค่ายที่ปั้นนักแสดงดังอย่าง Fantagio องซองอูนั้นเป็นที่รักของเพื่อนมากในรายการเรียลลิตี้ เพราะว่าเขานั้นค่อนข้างเป็นคนตลก ขัดกับหน้าตาที่หล่อเหลา เมื่อเขาได้ประเดิมซีรีส์เรื่องแรกอย่าง At Eithteen (2019) เขาก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี ถ่ายทอดเรื่องราวความรักแรกของเหล่าวัยรุ่น ความโศกเศร้า เคล้าน้ำตา ออกมาได้อย่างน่าประทับใจตัวอย่างซีรีส์https://youtu.be/6NGw2i5m-z0เครดิต:ภาพปก จาก Twitter - Netflix's Korean (ตัดแต่งเพิ่มโดยโมมิน)ภาพที่ 1 จาก Instagram - hongsickภาพที่ 2 จาก Instagram - kopularภาพที่ 3 จาก Instagram - charmgirl_1005ภาพที่ 4 จาก Instagram - 290_83ภาพที่ 5 จาก Instagram - osw_ongeขอขอบคุณวิดีโอจาก: Youtube - Netflix Thailandบทความแนะนำของผู้เขียนรีวิว School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า (2022) กับ 8 เรื่องหลอนในรั้วโรงเรียนทาง Netflixรีวิว One Piece Film: Red (2022) เหนือคาด แต่ไม่ตรึงใจรีวิว A Model Family ครอบครัวตัวอย่าง (2022) ตีแผ่ศีลธรรมมนุษย์ที่ฉาบด้วยความสัมพันธ์ "ครอบครัว" และ "เงินตรา" จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !