วันนี้เราจะมารีวิว 3 ขั้นตอนปิดบัญชีเงินกู้ซื้อคอนโดกับ ธอส ซึ่งเราเคยกู้เงินจาก ธอส เพื่อซื้อคอนโดในกรุงเทพ เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนตอนที่เรายังทำงานอยู่ที่เมืองไทย โดยเราจะมาบอกถึงขั้นตอนต่าง ๆ เกี่ยวกับการปิดบัญชีเงินกู้กับธนาคาร ธอส พร้อมวิธีการบริหารหนี้สุดปัง สำหรับใครที่สนใจจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน-คอนโดในกรุงเทพ เรามีบทความ แชร์ประสบการณ์ ทำงานต่างประเทศ แต่กู้ซื้อบ้านที่เมืองไทย และถ้าใครที่อาจจะเคยอ่านบทความของเรามาก่อนหน้านี้ แล้วกำลังกังขาอยู่ว่าทำไมเรากู้ซื้อบ้านกับ UOB แล้วไปปิดบัญชีกับ ธอส ขอชี้แจงดังนี้นะคะ ว่าเราเป็นนักกู้ตัวยง จึงชอบกู้เงินมาซื้อสินทรัพย์ ขอร้องอ่านให้จบว่าเรากู้เพราะอะไร เดี๋ยวจะเข้าใจผิด คิดว่า เราเขียนบทความการเงินไปตั้งหลายบท แต่จริง ๆ แล้วเราสอบไม่ผ่านเรื่องการเงิน👌เรามียอดเงินกู้ซื้อคอนโดของ ธอส เหลืออยู่ไม่กี่หมื่นบาท เราจึงถือโอกาสโปะหนี้และปิดบัญชีไปพร้อม ๆ กัน เพราะเกรงว่าดอกเบี้ยจะขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ (เราร่างบทความเรื่องนี้ไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ 28 กันยา กนง ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเรียบร้อย ถ้าเราจะเดาแม่นขนาดนี้ก็คงต้องหันไปรับงานใบ้หวย แทนการลงทุนแล้วหละ 😉 ) โดยเราได้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธอส สำนักงานใหญ่เกี่ยวกับขั้นตอนการปิดบัญชีเงินกู้ เจ้าหน้าที่ที่รับสายให้คำแนะเกี่ยวกับขั้นตอนการปิดบัญชีเงินกู้กับ ธอส 3 ขั้นตอน ดังนี้1. ติดต่อธนาคาร ธอส เพื่อขอชำระยอดเงินกู้ และปิดบัญชี ที่สาขาไหนก็ได้ที่มีบริการสินเชื่อ อันนี้เราก็เพิ่งรู้ว่าสาขาของธนาคาร ธอส ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพ บางสาขาไม่มีบริการสินเชื่อ เช่น ธอส สาขาบิ๊กซี อ่อนนุช มีเฉพาะบริการรับฝาก ถอน ไม่สามารถไปปิดบัญชีเงินกู้ หรือสินเชื่อบ้าน หรือคอนโดได้ เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ช่วยค้นให้ว่าสาขาไหนที่สามารถปิดบัญชีเงินกู้ได้ ซึ่งเราเลือกไปที่ ธอส สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เตรียมเอกสารไปด้วยดังนี้เอกสารสำหรับปิดบัญชีเงินกู้ ธอส สัญญาการกู้เงินกับ ธอส บัตรประจำตัวประชาชนสำเนาทะเบียนบ้าน2. เมื่อเราไปถึง ธอส สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชนในการทำรายการปิดบัญชีเงินกู้เท่านั้น เนื่องจากสัญญากู้เงินของเราผ่านมาหลายปีแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็คยอดหนี้สินทั้งหมด เราก็ชำระเงินและปิดบัญชีเงินกู้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการดำเนินเรื่องประมาณไม่เกิน 20 นาที และแล้วก็หมดหนี้สินไปอีกหนึ่ง หลังจากที่เราปิดบัญชีเงินกู้คอนโดเรียบร้อย เราก็ได้ใบนัดเพื่อไปขอรับโฉนดที่ ธนาคาร ธอส สำนักงานใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ถนนรัชดา ระยะเวลาที่รอประมาณ 15 วันทำการ โดยเราจะไปติดต่อธนาคาร ธอส ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้3. หลังจากไปรับโฉนดตัวจริงมาแล้ว เราต้องไปดำเนินการทำเรื่องที่กรมที่ดิน ซึ่งอันนี้เราต้องไปดำเนินการเอง เมื่อเราไปดำเนินการแล้วจะมารีวิวให้ฟังอีกครั้ง เพราะกรมที่ดินขึ้นชื่อเรื่องการทำงานล่าช้า อันนี้เราพูดจากประสบการณ์ที่เคยตามพ่อแม่ไปกรมที่ดินที่ต่างจังหวัดเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน และเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้กรมที่ดิน มีอะไรพัฒนาไปบ้าง 😊ย้อนไปที่เรื่องเราเป็นนักกู้ตัวยงนะคะ โดยส่วนตัวเราจะกู้หนี้ยืมสินธนาคารก็ต่อเมื่อเราเอาเงินมาซื้อสินทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ เท่านั้น เพราะเราเองก็ไม่ได้มีเงินสดมากพอที่จะซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ และเราจะไม่กู้หนี้ส่วนบุคคล ยกเว้นบัตรเครดิตที่เราจะใช้เพื่อซื้อสินค้าในจำนวนที่เราควบคุมได้เท่านั้น หลาย ๆ คนอาจจะแย้งว่าให้เก็บเงินไว้ลงทุนดีกว่า เพราะการไปกู้เงินธนาคาร ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคาร สำหรับเราเองมองต่างออกไป เพราะถ้าเราไม่ซื้อ เราก็ต้องเช่าคนอื่นอยู่ดี เงินที่จ่ายค่าเช่าออกไปในแต่ละเดือนก็หมดไป แต่หากเรากู้เงินธนาคารมาซื้อบ้าน หรือคอนโด โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5-6 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราเอาเงินที่เราสะสมได้ไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 7-10 เปอร์เซ็นต์ ก็เท่ากับเราได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างประมาณ 2-5 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเราชำระหนี้หมด ถ้าเราจะขายบ้าน หรือคอนโด เราก็จะได้เงินสดมาบางส่วนจากการขายสินทรัพย์ตรงนั้น หรือถ้าเราปล่อยเช่าเราก็จะมีรายได้เข้ามาบางส่วนซึ่งก็จะคล้ายกับการซื้อหุ้นห่านทองคำ จะทำให้เรามีเงินพอใช้เมื่อถึงวัยเกษียณเรื่องการวางแผนเกษียณเราเคยเขียนไปแล้วในบทความ วางแผนเกษียณกันเถอะ เตรียมตัวยังไงให้มีเงินใช้พอ ลองอ่านดูค่ะว่ามีปัจจัยอะไรที่เราต้องคำนึงถึงบ้าง เพราะถ้าคุณไม่รู้หลักการบริหารเงิน คุณออมเงินยังไงก็ไม่มีทางรวย อ้อเกือบลืมไป คอนโดที่เรากู้เงินซื้อกับ UOB เป็นคนละที่กับกู้ผ่าน ธอส ค่ะ โดยคอนโดหลังที่สองเราซื้อเพราะชอบในสถานที่ตั้งที่อยู่ริมคลอง และไม่ไกลจากรถไฟฟ้าบีทีเอสมากนัก อันนี้เน้นความชอบและความสะดวกเป็นหลัก อย่าลืมนะคะว่า การจะกู้หนี้ยืมสินจะต้องอยู่ภายใต้ความสามารถในการชำระหนี้ของคุณเท่านั้น และถ้าคุณจะเลือกเก็บเงินสดเพื่อฝากธนาคารที่ดอกเบี้ยร้อยละ 1-2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่น้อยกว่าเงินกู้ธนาคารมาก เราขอแนะนำให้คุณเอาเงินฝากไปชำระหนี้ให้ธนาคาร เว้นเสียแต่ว่าคุณจะรีบหาวิธีบริหารเงินเก็บของคุณให้ได้มากกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร คุณก็เก็บเงินไว้บริหารต่อไป วันนี้เน้นเรื่องเบา ๆ แล้วกลับมาพบกันใหม่นะคะ เครดิต ภาพปก และภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน By Nurseonomyบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แชร์ประสบการณ์ ทำงานต่างประเทศ แต่กู้ซื้อบ้านที่เมืองไทย | TrueID Creatorวางแผนเกษียณกันเถอะ เตรียมตัวยังไงให้มีเงินใช้พอ (trueid.net)5 วิธีรัดเข็มขัด ประหยัดค่าใช้จ่าย ยุคของแพง 2022 (trueid.net) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !