ค่ำคืนที่เอมิเรตส์ สเตเดียม กลายเป็นเวทีแห่งความสุขของเหล่า "กูนเนอร์ส" เมื่ออาร์เซนอลสร้างผลงานช็อกโลกด้วยการไล่ถล่ม เรอัล มาดริด แชมป์เก่ารายการนี้ไปอย่างขาดลอย 3-0 ในเกมแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคช่วย หากแต่เป็นผลลัพธ์ของฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่ง แท็คติกที่เฉียบคม และทีเด็ดจากเท้าของ ดีแคลน ไรซ์ ที่กลายเป็นพระเอกของค่ำคืนด้วยสองประตูสุดสวยจากลูกฟรีคิก ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! __________________________________________________________________________ ฟรีคิกสุดสวยของ ดีแคลน ไรซ์ ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหลังจบเกม คงหนีไม่พ้นความมหัศจรรย์ของ ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ค่าตัวสถิติสโมสร ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการยิงฟรีคิก ประตูแรกของเขาเป็นการปั่นโค้งข้ามกำแพงที่ยากจะป้องกัน ส่วนประตูที่สองเป็นการซัดเต็มข้อพุ่งเสียบใต้คานอย่างเด็ดขาด สองประตูจากลูกนิ่งของไรซ์ไม่เพียงแต่เป็นการปลดล็อคสกอร์ให้กับทีม แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจและกดดันให้เรอัล มาดริด ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก สถิติที่น่าทึ่งคือ ไรซ์กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์แชมเปียนส์ ลีก ที่สามารถยิงฟรีคิกโดยตรงได้ถึงสองประตูในเกมรอบน็อกเอาต์ให้กับอาร์เซนอล __________________________________________________________________________ ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของอาร์เซนอล นอกเหนือจากทีเด็ดของไรซ์แล้ว ฟอร์มการเล่นโดยรวมของ อาร์เซนอล ก็ได้รับการยกย่องอย่างล้นหลามว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของพวกเขาในรอบหลายปี พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความกระหายในชัยชนะ ความมุ่งมั่น และวินัยในการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุก การเพรสซิ่งสูงที่แดนบนสามารถตัดเกมของเรอัล มาดริด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่เกมรุกก็มีความหลากหลายและสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง มิเกล เมริโน กองหน้าที่ถูกขยับขึ้นมาเล่นในตำแหน่งจำเป็น ก็สามารถทำประตูตอกย้ำชัยชนะได้อย่างสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นทางแท็คติกของ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม __________________________________________________________________________ ผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานของ เรอัล มาดริค ในทางตรงกันข้าม เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ กลับแสดงผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง พวกเขาดูขาดความกระตือรือร้นในการเล่นเกมรับ และไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกที่อันตรายได้ แม้จะมีผู้เล่นระดับโลกอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ อยู่ในสนาม แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของอาร์เซนอลได้ อันเชล็อตติเองก็ยอมรับหลังจบเกมว่าทีมของเขาเสียสมาธิและสภาพร่างกายตกลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเสียสองประตูแรก และปฏิกิริยาของทีมก็ไม่ดีพอ __________________________________________________________________________ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะ 3-0 ในเกมแรกยังไม่ได้หมายความว่าอาร์เซนอลได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปแล้ว เรอัล มาดริด เป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในรายการนี้ และมีความสามารถในการพลิกสถานการณ์ได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลับไปเล่นในบ้านที่ซานติอาโก เบร์นาเบว อาร์เซนอลต้องไม่ประมาทและต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเกมเลกที่สองที่คาดว่าจะดุเดือดและเข้มข้นกว่านี้อย่างแน่นอน เครดิตรูปภาพจาก : Facebook Arsenal Facebook Real Madrid C.F. เครดิตรูปภาพประกอบ รูปที่1 รูปที่2 รูปที่3 รูปที่4 เครดิตรูปภาพปก รูปที่1 รูปที่2 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !