บทความนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปเที่ยวที่ประตูสู่ภาคใต้ นั่นก็คือจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับทะเลอ่าวไทย ชุมชนส่วนใหญ่มีพื้นที่ติดกับทะเล ชาวบ้านจึงประกอบอาชีพเป็นชาวประมงกันค่ะ เรียกได้ว่าทริปนี้เราจะพาทุกคนไปลงทะเลด้วย! แต่ความพิเศษไม่ได้มีแค่นั้น เพราะผู้เขียนจะพาไปเที่ยวถึงสองชุมชนเลยทีเดียว! แต่จะมีที่ไหนบ้าง รีบตามไปดูกันเลยดีกว่า เริ่มกันที่แรก ที่ชุมชนบ้านคลองบางสน เป็นชุมชนที่เรียบง่าย ยังคงรักษาวิถีชีวิตของชาวประมงไว้อย่างดี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในชุมพร แต่กว่าจะมาเป็นแบบที่ทุกท่านได้เห็นในตอนนี้ ชาวบ้านเคยพบกับปัญหาที่มีผลกระทบต่อพื้นที่และอาชีพอย่างมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันเพื่อมาพัฒนาและฟื้นฟูทรัพยากรในชุมชนให้ยั่งยืน โดยการปลูกป่าชายเลนเพื่อชะลอคลื่นลม และยังมีแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำด้วย นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในชุมชน อาทิ การเลี้ยงผึ้ง ปลูกป่า ตกหมึก และกิจกรรมอีกมากมาย แล้วหนึ่งในกิจกรรมของชุมชนนี้ที่อยากจะแนะนำคือ การทำผลิตภัณฑ์แปรรูป ซึ่งทริปนี้เราขอเสนอผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ ที่มีส่วนผสมหลักจากมะพร้าว มีชื่อว่า “ภูแก้วสมุนไพร” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทครีมอาบน้ำ แชมพู โลชั่น และอีกมากมาย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็เป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน ทำให้ในยามเย็นไปจนค่ำ เราจะได้พบกับเหล่าหิ่งห้อยตัวน้อย บินโฉบอวดแสงหรี่ไปมา แต่ความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเราได้ไปตกหมึกสด ๆ กินกันบนเรือ บอกเลยว่าทั้งหวาน ทั้งกรุบ ยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่พกไปด้วยยิ่งชูรสให้อร่อยขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าอร่อยติดปาก รสชาติติดใจ จนอยากให้มาลองเลยค่ะหลังจากตกหมึกกันเสร็จเรียบร้อย เราก็กลับไปพักผ่อนกันก่อนที่ บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์ ซึ่งบรรยากาศดีมาก แล้วก็เป็นอันจบทริปวันแรก แต่ความสนุกยังไม่หมดเท่านี้ เพราะในวันพรุ่งนี้ เราจะไปยังชุมชนที่เขาว่ากันว่าบรรยากาศดี ลมเย็นสบาย แถมเป็นโรงรับจำนำด้วยนะ! แต่จำนำอะไรต้องตามมาดูกันค่ะเริ่มวันที่สอง เราอยู่ที่ ชุมชนมัจฉาสตรีท ซึ่งเดินทางจากชุมชนคลองบางสนประมาณ 20 นาที เขาบอกว่าชุมชนนี้เป็น“โรงรับจำนำ” แต่ไม่ใช่รับจำนำของอะไรทั่วไปนะคะ แต่จำนำ “แม่ปู” ค่ะ สงสัยกันใช่ไหมละคะ? ว่าทำไมต้องจำนำ ก็เพราะว่าปูเหล่านี้มักจะถูกจับมาพร้อมกับอวนชาวประมง ชาวประมงจึงนำไปขาย เวลาผ่านไปปริมาณปูน้อยลง ที่นี่จึงรับปูที่มีไข่มาจำนำ ซึ่งก็จะนำแม่ปูมาเลี้ยงไว้ รอปูสลัดไข่ออกมา ก่อนจะนำลูกปูไปปล่อยในทะเลเพื่อขยายพันธุ์ปูต่อไปตอนเช้าเราก็จะได้ไปเรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ กัน ตั้งแต่ได้ปูมาอย่างไร จนไปถึงวิธีดูว่าปูตัวไหนสลัดไข่เมื่อไร โดยมีคุณลุงณรงค์มาอธิบายและสอนเราไปทุกขั้นตอน เจ้าปูพวกนี้จะถูกรับซื้อมาตัวละ 20 บาท ก่อนจะนำมาเลี้ยงไว้ค่ะ แม่ปูที่มีไข่สีดำจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันก็จะสลัดไข่ออก แม่ปูไข่สีเทาใช้เวลา 5 วัน และแม่ปูไข่สีเหลืองจะใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน พอแม่ปูสลัดไข่ออกจนหมดทางโรงจำนำก็จะนำแม่ปูไปขาย เพื่อเป็นรายได้ของทางโรงรับจำนำนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าเป็นความรู้ใหม่สำหรับผู้เขียน เวลาไปตลาดก็ซื้อมาแบบไม่ได้คิดอะไร สงสัยต่อจากนี้จะต้องดูก่อนซื้อแล้วละค่ะ พอเสร็จจากชุมชน พวกเราก็ไปดำน้ำดูปะการังและว่ายน้ำไปกับฝูงปลากันที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ที่นี่ขึ้นชื่อว่าสวยมาก และมีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์มาก บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะได้ว่ายน้ำใกล้ชิดกับฝูงปลา พร้อมชมแนวปะการังไปด้วย ขอยกให้เป็นไฮไลต์ของวันนี้ไปเลยค่ะ ช่วงเวลากลางวันว่าสวยแล้ว เวลาโพล้เพล้ยิ่งสวยใหญ่ จนอยากจะหยุดเวลาไว้เลยค่ะ หลังจากดำน้ำเสร็จผู้เขียนก็นั่งกินลมชมวิวก่อนกลับเข้าที่พัก และแยกย้ายกันพักผ่อน ผู้เขียนจึงขอจบวันที่สองด้วยภาพบรรยากาศยามโพล้เพล้นะคะ และแล้วก็เดินทางมาถึงวันที่สาม เวลาผ่านไปไวจริง ๆ วันนี้เราก็จะเดินทางกลับบ้านกันแล้ว แต่ก่อนกลับ เราแวะไปที่ “วัดแก้วประเสริฐ” หรือ “วัดเจ้าแม่กวนอิม” เพื่อกราบไหว้เสริมสิริมงคลขอพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และไม่ใช่เพียงเท่านี้ แต่เรายังได้ชมวิวสวย ๆ จากด้านบน โดยเฉพาะช่วงเช้า ๆ อากาศดีมากจนอยากให้มาลองสัมผัสเองเลยละค่ะ ที่ได้ชมวิวสวยขนาดนี้ เพราะวัดสร้างขึ้นบนเนินเขาที่อยู่ริมทะเล จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งสถาปัตยกรรมของวัดก็ผสมผสานศิลปะไทยและจีนได้อย่างลงตัว ไฮไลต์ของที่นี่คือพระนาคปรก 9 เศียร และพระโพธิ์สัตว์กวนอิม ที่สูงถึง 9.99 เมตรหลังจากไหว้พระแล้ว ขอพามารับลมทะเลกันที่ หาดทุ่งยาง ค่ะ รู้สึกคุ้มค่ามาก เพราะสวยไม่แพ้ที่ไหนเลย ผู้เขียนมีภาพบรรยากาศเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ทุกท่านด้วยนะคะเรียกได้ว่าทริปนี้คือได้เสพวิวทะเลแบบเต็มเปี่ยมกันเลยทีเดียว อยากให้ทุกท่านได้ลองตามกันไปดูนะคะ ผู้เขียนบอกเลยว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ให้มานั่งเขียนบอกเล่าแบบนี้ ขอบอกเลยว่ารู้สึกผิดที่บรรยายออกมาได้ไม่เท่าที่ได้มาเที่ยวจริง ๆ ไม่ว่าจะธรรมชาติสวย ๆ ของฝั่งอ่าวไทย อาหารการกินอร่อย ๆ ที่ถูกใจคนรักซีฟู้ดอย่างผู้เขียน และที่สำคัญผู้คนที่นี่น่ารักสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณลุงคุณน้าที่ชุมชน หรือชาวบ้านทั่วไปที่เราแวะถามทาง ทุกคนต่างยิ้มแย้มและเต็มใจช่วยเหลือเรามาก ๆ เป็นทริปที่ประทับใจจนกลับไปก็คงเอาแต่นั่งคิดถึงแน่ ๆ เลยละค่ะและสำหรับลูกค้าทรูที่สนใจมาเที่ยวชุมพร สามารถไปนอนชมหาดทุ่งวัวแล่นได้ที่โรงแรมโนโวเทล ชุมพร บีช รีสอร์ท แอนด์กอล์ฟ พร้อมส่วนลดสำหรับห้องประเภท Superior Garden Side ราคาพิเศษเพียง 1,700 บาทต่อห้องต่อคืน จากราคาปกติ 2,136 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน คลิกเลย! ภาพถ่ายทุกภาพนักเขียนเป็นผู้ถ่ายเอง *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565