เว็บไซต์https://www.forbes.com/sites/tarahaelle/2020ได้เผยแพร่ข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการติดเชื้อ “พญ. อีลี เพอเรนเซวิช ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์และระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐไอโอวา” ระบุว่า ผู้ที่ไม่มีอาการป่วยไม่ควรสวม หน้ากากอนามัย หรือแม้แต่ N95 เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.com/ โดยให้เหตุผลว่า “ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจน ว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19ได้ ยิ่งหากใครสวมใส่ไม่ถูกวิธีด้วยแล้ว จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น นั่นเพราะเมื่อเราสวมใส่หน้ากากแล้ว จะทำให้เรานำมือมาสัมผัสหน้าตัวเองบ่อยขึ้นนั่นเอง” ผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น เพราะการสมใส่หน้ากากอนามัยเป็นการป้องกันเชื้อจากผู้ป่วยแพร่กระจายออกไป ไม่ใช่ป้องการการรับเชื้อเข้ามา การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นเพิ่มขึ้น หากไม่ศึกษาวิธีสวมใส่และวิธีทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี ผู้ที่มีอาการป่วยควรต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกจากบ้าน หรือหากใครเป็นไข้หวัดใหญ่หรือสงสัยว่าตัวเองมีเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันคนรอบข้างจะได้รับเชื้อจากตัวคุณ ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.com/ การป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ที่ดีที่สุดคือการล้างมืออย่างถูกวิธี และควรล้างบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าตาตัวเอง เมื่อต้องออกไปข้างนอก หากไม่มีเจลล้างมือ สามารถใช้สบู่ธรรมดาแทนได้ ควรพกกระดาษทิซซู่เปียกติดตัวเผื่อเวลาไปในที่ที่ไม่มีน้ำ หากจำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือต้องไปในเมืองที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ควรพกยาที่จำเป็นติดตัวเพื่อสะดวกต่อการรักษาเบื้องต้น หรืออาจต้องเตรียมอาหารและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ให้เพียงพอในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีอาการป่วยควรป้องกันตัวเองโดยการ หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ชิดผู้ที่มีอาการป่วย ไข้หวัด ไอ จาม ควรห่างอย่างน้อยระยะ 1 เมตรเป็นอย่างต่ำ ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.com/ คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาให้ความรู้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนา Covid-19 ไม่ได้มีความรุนแรงมากมายนัก แถมยังไม่มีการค้นพบว่ามีการได้รับเชื้อไวรัสจากคนสู่คน เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าวิตกกังวลจนเกินไปจนกลายเป็นความระแวง สุดท้ายเกิดภาวะวิตกจริตจนกลายเป็นคนป่วยซะเอง ขอบคุณภาพประกอบจากhttps://pixabay.com/ ขอบคุณภาพปก https://pixabay.com/ อ้างอิง https://www.thairath.co.th/news/foreign/1784551 https://www.springnews.co.th/global/625054 https://www.youtube.com/watch?v=bqRJuycN0Ps https://www.matichon.co.th/foreign/news_2017084 https://www.forbes.com/sites/tarahaelle/2020