เกาะจำ ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เป็นเกาะที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จึงเป็นสถานที่ที่ยังเต็มเปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนเเบบครอบครัว เเละเนื่องด้วยความลับเเลของมันนี่แหละ ที่ทำให้ 'เกาะจำ' แห่งนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ครับ ออกเดินทาง ผมเริ่มออกเดินทางประมาณ 6 โมงเช้าโดยขับรถมุ่งหน้าไปยังอำเภอเหนือคลอง จากนั้นจึงเลี้ยวขวาตรงเเยกไปท่าเรือแหลมกรวด ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร ขับไปจนสุดถนนจะเจอท่าเรือ จากตัวอำเภอเหนือคลองใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที รถที่ขับมา สามารถนำไปจอดไว้ที่จุดรับฝากรถของชาวบ้านได้ครับ ค่าบริการวันละประมาณ 50 บาท ส่วนใครที่พามอเตอร์ไซค์มาสามารถนำขึ้นเรือข้่ามเกาะไปได้เลย สำหรับเรือหางยาวไปเกาะจำนั้น เริ่มรอบเเรกประมาณ 09.00 น. ไปจนถึง 17.30 น. ส่วนขากลับจากเกาะจำ เริ่มตั้งเเต่ 06.30 จนถึง 16.00 ในหน้า High Season ส่วนหน้า Low Season บางครั้งจะมีเรือรอบท้ายคือรอบบ่าย 2 เท่านั้นครับ ประมาณ 45 นาทีก็มาถึงท่าเรือมูตูบนเมื่อลงจากเรือก็จะเห็นชาวบ้านนำอาหารทะเลสดๆที่เพิ่งหามาได้มาวางขายกัน หมึกตัวโตๆ สดจากทะเล ที่พักบนเกาะจำมีให้เลือกตั้งเเต่บังกะโลพัดลมราคาหลักร้อย ไปจนถึงห้อง Pool Villa ราคาหลักหมื่นครับ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมเเละไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ส่วนผมเลือกบังกะโลติดชายหาดครับ ค่าห้องก็ไม่เเพงมากประมาณ 800 บาทต่อคืน ผมเลือกเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่รีสอร์ท ราคา 150 บาท ใช้ได้ครึ่งวันหรือ 12 ชั่วโมง หลังจากที่ได้รถมาผมก็ไม่รอช้า เริ่มสตาร์ทรถเเละออกสำรวจรอบๆเกาะทันทีครับ ขับขึ้นไปเรื่อยๆไปทางทิศเหนือ ถถนนบนเกาะมีเส้นเดียวเลยขับไม่ยากครับ แล้วผมก็มาถึงหาด Golden Pearl Beach ชายหาดเเห่งนี้น้ำใสทรายอาจไม่ได้ขาวเหมือนเกาะอื่นๆ เเต่โดดเด่นเรื่องความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ ผมมุ่งหน้าไปยัง Terrace Cafe เพื่อหาเครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อน สำหรับการเดินทางสามารถเปิด Google Map ได้เลย โดยจะมีช่วงหนี่งที่เราต้องลัดเลาะสวนยางพาราของขาวบ้าน ควรใช้ความระมัดระวังครับ ชาเขียวเย็นๆ + สายลมจากท้องทะเลที่พัดเข้าสู่ชายฝั่ง = สมบูรณ์แบบครับ วิวดีมากครับ กับเครื่องดื่มราคาเเค่ 60 บาท เเลกกับทิวทัศน์ระดับนี้บอกเลยว่าคุ้มในคุ้ม และตอนที่ผมมา คาเฟ่เพิ่มจะเริ่มเปิด ดังนั้นผมจึงเป็นลูกค้าคนเดียวของที่นั่นในตอนนั้น สามารถเลือกมุมถ่ายรูปแบบไม่ติดคนได้เลย หลังจากนั้นผมจึงมุ่งหน้าไปยัง เกาะจำรีสอร์ท เพื่อชมวิวที่เป็นจุดขายของเกาะจำครับ สำหรับการเดินชมตัวรีสอร์ทสามารถสอบถามตรงรีเซ็ปชั่นได้เลยครับ ทางที่พักอนุญาตให้เดินชมได้เเต่ห้ามเข้าไปในอาณาเขตที่พักเพราะจะรบกวนเเขกท่านอื่น ตัวห้องพักจะอยู่บนเนิน บรรยากาศร่มรื่น ได้อารมณ์ทั้งทะเลเเละภูเขาในที่เดียวกัน นี่คือวิวที่เป็น Signature ของเกาะจำครับ เวลาเที่ยงตรง ผมบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปหาของกินที่หมู่บ้านตรงท่าเรือของชาวบ้าน เเถวนี้จะเป็นโซนของชาวพุทธครับ แต่บริเวณอื่นๆของเกาะ ชาวบ้านจะนับถือศาสนาอิสลามกันเป็นส่วนใหญ่ ตกเย็น ผมกลับมายังที่พักเพื่อชมพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดใกล้ๆรีสอร์ทครับ พระอาทิตย์ขึ้นเเละตกเหมือนที่ทอศเดิมทุกวัน เเต่สิ่งที่ต่างกันคือบรรยากาศเเละผู้คนที่มองดูพระอาทิตย์ด้วยกันกับเรา ดังนั้น การเเหงนมองพระอาทิตย์ขึ้นเเละตกในทุกวันจึงไม่ทำให้ผมเบื่อเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว รุ่งเช้า ผมบอกลาเกาะจำ เเละบอกกับตัวเองว่าจะเก็บ 'เกาะจำ' แห่งนี้ไว้ในหัวใจเเละความทรงจำ ผมอยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกับธรรมชาติของที่เเห่งนี้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ :)