สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มาพบกับช่วง รีวิวอะไรว่ะ ในที่สุดก็คิดชื่อได้สักทีหลังจากลังเลมานาน 555 ไม่รู้ว่าจะดูแย่รึเปล่าแต่ก็น่ะก็ผมชอบชื่อนี้อ่ะ เอาล่ะวันนี้เราจะมารีวิวหนังเรื่อง Edge of Tomorrow ซึ่งหนังจัดอยู่ในแนวแอคชั่น ไซไฟขอบคุณรูปภาพจาก Collider.com Edge of Tomorrow ภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟ ที่ดัดแปลงมาจากมังงะหรือการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชื่อว่า All You Need is Kill ที่เขียนโดย ฮิโรชิ ซากุราซากะ ซึ่งนำมาดัดแปลงและกำกับโดย ดั๊ก ไลแมน โดยใช้ทุนสร้างไปถึง 178 ล้าน USD โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับ เรื่องราวของอนาคตอันใกล้ที่มีฝูงเอเลี่ยนบุกโจมตีโลกอย่างต่อเนื่อง แม้แต่กองกำลังทหารของโลกก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ เคจ (ทอม ครูซ) เป็นนายทหารผู้ไม่เคยพบเห็นการต่อสู้วันใดที่ไม่มีความเสี่ยงต่อความหายนะ การเข่นฆ่าภายในไม่กี่นาทีทำให้เคจพบว่าตัวเองถูกโยนเข้าสู่ห้วงแห่งเวลา กดดันให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับการรบครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องต่อสู้และล้มตายซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ด้วยการต่อสู้แต่ละครั้ง ทำให้เคจสามารถรับมือกับศัตรูที่มีความสามารถมากขึ้นร่วมกับนักรบกองกำลังพิเศษ ริต้า วาทาสกี้ (เอมิลี่ บลันท์) ยิ่งเมื่อเคจและริต้าต้องต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนแต่ละครั้ง ทำให้พวกเขายิ่งใกล้จะเอาชนะศัตรูได้มากขึ้นทุกทีขอบคุณรูปภาพจาก Xtrafondos.com ซึ่งเป็นหนังที่มีพล็อตแนวย้อนเวลาแล้วทำออกมาได้ดีไม่น่าเบื่อ เพราะเมื่อ เคจ ย้อนเวลามามาเปลี่ยนก็จะทำให้เส้นทางการดำเนินเรื่องนั้นต่างไปจากเดิม แถมฉากแอคชั่นในเรื่องนี้ทำออกมาสมกับราคามากส่วนผมชอบที่ทำซากของโบราณสถาน ที่เราอาจไม่มีวันได้เห็นในชีวิตจริงได้เลย ใครที่ชอบเสพงานภาพดีๆ ฉากแอคชั่นไหลลื่นเรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ส่วนตัวนักแสดงนั้น ผมนับถือ ทอม ครูซ เลยล่ะครับเฮียแกแสดงได้ดีมาก อาจด้วยตัวบทที่เหมาะกับเฮียแกด้วยแหละ โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมากๆครับคาดไม่ถึงเลยว่าเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของญี่ปุ่น เพราะส่วนใหญ่การ์ตูนที่นำมาดัดแปลงเป็นหนังนั้น ทำมาออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เรื่องนี้ถือว่าผ่านครับขอบคุณรูปภาพจาก SeeScenes.com เอาล่ะครับมาถึงการให้คะแนนอีกเช่นเคย สำหรับเรื่องนี้ผมขอให้ 8/10 หนังแนวย้อนเวลาที่ทำออกมาดี แถมแอคชั่น ฉาก แสง สี ก็ทำออกมาดีมาก ดูไปเรื่อยๆมันเหมือนกับการเล่นเกมซ่ะงั้น ตายเกิดใหม่ได้ผมเซ็งตรงนี้อยู่หน่อยๆ สำหรับแฟนๆ หนังบู้ ต่อสู้ ฉากอลังการ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เป็นอันขาด แถมตอนนี้ Netflix ของไทยเราก็นำมาให้ได้ชมกันแบบคมชัด อย่าลืมไปหาดูกันล่ะ