หลังจากที่เราเข้ามาเรียนในกรุงเทพสักพัก... สิ่งที่วนซ้ำไป ซ้ำมาในแต่ละวัน คือการที่ต้องเจอความวุ่นวาย รถติด และอากาศที่เป็นมลพิาจากควันพิษ จนอยากจะวาร์ปตัวไปที่ที่นึง เป็นที่ที่เราสบายใจทุกครั้งที่ไป เนื่องจากอากาศที่บริสุทธื์ และความเป็นมิตรของผู้คน แถวที่นี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็น 'สถานที่ที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดของประเทศไทย' สถานที่ที่เรากำลังพูดถึง ณ ขณะนี้คือ หมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรม(ชาติ)ราช รูปสะพานข้ามแม่น้ำหมู่บ้านคีรีวง 🌿 หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่อำเภอ ลานสกา นครศรีธรรมราช เมืองแห่งมนต์ขลังของภาคใต้ ที่เป็นลมหายใจของพุธศาสนาและวัฒนธรรม ที่เราได้เกริ่นไปในตอนแรกว่าที่นี้ 'สถานที่ที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดของประเทศไทย' ไม่ใช่ประโยคที่กล่าวมาโดยลอย ๆ แต่เขามีการมาวัดค่าความบริสุทธิ์ของอากาศ ที่สำคัญที่นี้ยังได้รับ รางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากชุมชนเข้มแข็งต้นแบบการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวแต่ยังอยู่กันอย่างสงบสุขแบบพอเพียง เรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่สามารถจัดการระหว่างธุระกิจ และการรักษาธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ ได้อย่างลงตัวเลยหล่ะ โดยสารสองแถวมาจากตัวเมืองไม่ไกลและไม่แพง ถึงแล้วที่นี้ 'คีรีวง' พื้นเพเราเป็นคนสงขลา แต่สิ่งนำพาเรามาให้อยู่จังหวัดนี้ เพราะสอบชิงทุนของรัฐบาลติด เลยต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดที่นี้ ตอนแรกรู้สึกกลัวและไม่คุ้นเคยกับที่นี้แม้แต่นิดเดียว ถึงจะเป็นภาคใต้เหมือนกันก็จริงก็จริง แต่คนที่นี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน พูดเร็วกว่า บางทีเรายังแอบงง ว่าเพื่อนพูดอะไร ซึ่งเราใช้เวลาปรับตัวที่นี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ อาจจะเพราะได้เพื่อนชาวนครศรีธรรมราชที่น่ารักคอยช่วยเหลือ และเริ่มชินกับการพูด การใช้ชีวิตของคนที่นี้ว่าจริง ๆ แล้วน้ำเสียงอาจจะดุ แต่สีหน้าและรอยยิ้มของพวกเขามันตรงกันข้าม ทำให้เราคิดว่าเริ่มหลงรักที่นี้แล้วสิ พอเริ่มชินกับที่นี้เราเริ่มชวนน้องที่หอออกเที่ยว...มีหลายที่ที่พวกเราไปเที่ยวด้วยกัน วึ่งในแต่ละที่มีเรื่องราวความประทับใจที่แตกต่างกันไป เป็นความทรงจำดีๆ ที่เราไม่มีวันลืม รวมถึงทริปหมู่บ้านคีรีวง เริ่มจากมีน้องๆ ที่หออยากไปเที่ยวที่นี้ เพราะอยากไปผ่อนคลายหลังสอบเสร็จ เป็นทริปที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไร พูดขึ้นมาตอนเช้า พอตกบ่ายเราก็ไปกัน โดยนั่งรถสองแถวจากในตัวเมือง ดิ่งตรงไปที่คีรีวง ความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง น้ำใสจนเห็นปลา แต่รูปนี้ไม่มีปลานะ 🌾 ที่นี้มองเผิน ๆ ก็เหมือนหมู่บ้านนึงที่น่าอยู่หมู่บ้านนึง แต่สิ่งทำให้ต่างคือ ที่นี้มีสถานที่ท่องเที่ยว แต่กลับไม่วุ่นวายเหมือนที่ท่องเที่ยวที่อื่น ๆ ชาวบ้านยิ้มแย้มแจ่มใส และคอยที่จะช่วยเหลือ แนะนำเราตลอดการเดินทาง ตั้งแต่มาจนกลับ สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้หลังจากก้าวแรกที่ลงจากรถคือ อากาศที่บริสุทธิ์ ต้นไม้เขียวขจีแม่น้ำลำธารใสสะอาด จนเราไม่พลาดที่จะสูดหายใจเข้ายาว ๆ เพื่อเก็บอากาศบริสุทธิ์ และผ่อนลมหายใจช้า ๆ ด้วยความสดชื่น น้ำใสจนเห็นปลา เป็นนิยามที่ใช้ได้จริงที่นี้ เพราะเมื่อเดินข้ามสะพานมาจากฝั่งของหมู่บ้าน จะเจอลำธารที่มีน้ำใสสะอาด เอาจริง ๆ ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้ว ที่เราไม่ได้สัมผัสบรรยากาศดี ๆ น้ำใส ๆ และหัวใจที่บริสุทธิ์ของคนรอบตัวแบบนี้ มันทำให้เราปล่อยวางความทุกข์ และเรื่องที่เรื่องกลุ่มใจไว้ข้างหลัง ชาติแบตให้กับร่างกายที่เหลือแบตหนึ่งเปอร์เซน ให้ได้มีแรงกลับมาใช้ชีวิตต่อ ส่วนมากที่เราเห็นคือจะมีเด็กในหมู่บ้านมีเล่นสนุกกันตรงลำธารสายนี้ อาจจะเพราะช่วงที่เราไปไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว เลยทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ จนได้ยินเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ และเสียงน้ำในลำธารที่ไหลต่อเนื่อง เสียงลมพัด และ กลิ่นหอมบริสุทธิ์ของธรรมชาติ เรานั่งบนโขดหินและเอาเท้าจุ่มน้ำ ปล่อยบางความคิดต่าง ๆ ซึ่งปกติกลุ่มเพื่อนที่หอที่เราไปด้วยจะเป็นกลุ่มที่พูดมาก เม้าท์มอยกันตลอด แต่วันนั้นทุกคนกลับเงียบ ปลีกตัวไปคนละมุม เพื่อฟังเสียงหัวใจของตัวเอง บรรยากาศคีรีวงช่วงโพล้เพล้ มีโอกาส ไว้เจอกันใหม่นะ 'คีรีวง' 🌻 หลังจากที่เราอยู่ที่นี้จนช่วงเย็น ๆ จึงรีบชวนกันกลับไม่อยากรอให้ค่ำเพราะเดี๋ยวจะหารถกลับลำบาก เราตกลงกันว่า เราจะกลับมาที่นี้กันอีก แต่จะต่างกับครั้งนี้ ครั้งหน้าจะลองมานอนค้าง เพราะที่นี้นอกจากจะเป็นหมู่บ้านที่มีลำธารใส ๆ ยังมีรีสอร์ท ร้านอาหาร ที่เหมาะกับการมาพักผ่อน หวังว่าการแชร์เรื่องราวของเราจะสร้างแรงบันดาลใจในการออกไปใช้ชีวิตให้กับเพื่อน ๆ นะคะ เราเป็นคนนึงที่เคยเรียนจนไม่ลืมหูลืมตา เครียด และคิดว่าชีวิตมันไม่เหลืออะไรถ้าผิดหวังจากเรื่องเรียน แต่พอเราได้ออกเดินทาง ทำให้รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่นัก ความสุขในชีวิตเราไม่ได้มีแค่การได้เกรด 4 แต่เป็นการที่เราได้พบตัวเองว่าชอบอะไร และชีวิตอย่างมีความสุข อย่างชาวบ้านที่นี้ บางคนก็ไม่ได้เรียนจบบสูง ๆ แต่การที่เขาใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุข ก็ถือว่า ชีวิตนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ขอบขอบคุณรูปภาพประกอบเรื่องราวจาก travel.kapook รีวิวโดย ครูอิงลิชอิสมี