เชื่อว่าหลาย ๆ คนในช่วงนี้คงจะเบื่อกับการกักตัวอยู่บ้านเต็มทนแล้ว สภาวะโลกตอนนี้ก็เต็มไปด้วยอะไรก็ไม่รู้ที่พร้อมจะทำลายปอดของเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น P.M 2.5 หรือแม้กระทั่งโควิด 19 ที่อาจจะทำลายปอดซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของระบบหายใจ เอาเป็นว่าทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี อยู่บ้านกันก่อน เพราะหลังโควิดหายแล้ว เตรียมเก็บกระเป๋าไปฟอกปอดที่ "คีรีวง" หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย วันนี้เราจะมาแนะนำ การท่องเที่ยวของเรา คือ คีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหมู่บ้านที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเราจะมาขอแนะนำในฉบับการเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน โดยไปแบบงงทั้งทริป ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนเลยว่าเราไปกัน 5 คนเป็นเพื่อน ๆ ในคริสตจักร พวกเราทุกคนเป็นคริสเตียน และพวกเรามีเพียงแค่จุดมุ่งหมายที่ว่าอยากไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง แค่นั้นเลย ไม่ได้เตรียมอย่างอื่นไว้เลย เรารู้แค่ว่าเราจะไปแบบไม่มีแผนอะไรเลย มาเริ่มกันเลยดีกว่า พวกเราเริ่มออกเดินทางจากหาดใหญ่ โดยเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ก็ราคาตั๋วตอนนั้น พวกเรานั่งกันแบบ รถไฟชั้น3 ราคาคนละ 90 บาท สถานีชุมทางหาดใหญ่ - สถานีจันดี เราตัดสินใจกันว่าจะลงสถานีนี้เพราะว่า มันใกล้ที่สุดที่จะเดินทางไปยังคีรีวง แล้วก็อีกอย่างคือมันมีรถสองแถวที่จะนั่งกันไปได้ ตอนนั้นพวกเราเริ่มออกเดินทางกัน 14:00 น. เพราะวันนั้นเป็นวันอาทิคย์พวกเราทุกคนยังอยู่กันที่คริสตจักร เลยออกเดินทางตอนบ่าย พอไปถึงจันดีก็เกือบ 19:00 น. ตอนนั้นแหละไม่มีที่พัก!!!!! เลยตัดสินใจเดินหาที่พักกัน เอ้อ เราลงสถานีจันดีปุ๊ป มันคือตลาดจันดีเลยนะ แล้วเดินไปสักพักเจอที่พักนึง เอ่อจำชื่อไม่ได้แต่ค่อนข้างเก่า เอาจริงมีเรา กับพี่อีกคนที่รู้ว่าไม่โอเค เลยขอร้องเพื่อน ๆ เดินกันต่ออีกเกือบ 2 กิโล ตอนนั้นจันดีเงียบมาก ผู้คนเริ่มเข้านอนกันแล้วอะ ไปเจอที่นึงคือ "จินเฮง" เพื่อน ๆ ตัดสินใจว่าให้เรากับพี่อีกคนไปดูห้องและถามราคา เพราะเราเรื่องมากสุด 55555 และสุดท้ายห้องที่นี้คือผ่านมากก ดีมากก คืนละ 500 บาทเท่านั้น พักได้ 2-3 คนต่อห้อง เราว่าโอเคเลย เลยตัดสินใจพักกันที่นี้ และมีร้านจิ้มจุ่มอยู่แถวนั้นเราเลยเดินออกมากินกัน (ไม่ได้ถ่ายรูปที่พักไว้เลย แต่ขอยืนยันว่าดีจริง ๆ) เช้าวันต่อมาพวกเราตื่นกันเกือบ ๆ 8 โมง แล้วก็เก็บของออกมาจะเดินทางไปคีรีวงกัน เลยว่าจะมาหาอะไรกินก่อนที่ตลาดเช้าจันดี เพราะได้คำแนะนำมาจากครูที่โบสถ์ แกเป็นคนนคร เราเลยเดินออกมาจากจินเฮงและต้องออกไปถึงตลาดจันดีก็2กิโลนั้นแหละ แต่ขอบคุณพระเจ้า ที่อยู่ ๆ ก็มี 2 แถวผ่านมาพอดี เราเลยขึ้นไปเพื่อไปยังตลาดจันดี ป้าบนรถคือใจดีมากเห็นว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวเลยชวนคุยใหญ่ เอ้อมีเรื่องมีประทับใจและแปลกใจอย่างนึง คือในรถสองแถวอะมีผู้หญืงคนนึงน่าจะรุ่น ๆ เราเนี่ยแหละ คือสุดท้ายเราไปเจอเขาที่มหาลัย เรียนคณะเดียวกัน และตอนนี้ก็เป็นเพื่อนแล้ว รู้สึกดีใจมาก ตอนนั้นเราจำเขาไม่ได้เลย แต่เขาจำเราได้เพราะริสแบรนดืที่เราใส่ เป็นเรื่องราวที่น่ารักาุด ๆ เลย ออกทะเลแล้ววว มาต่อกัน พวกเราก็มาหาไรกินที่ตลาดแล้วแม่ค้าก็บอกว่าให้ขึ้นรถสองแถว นครศรี - จันดี ไปลงหน้าทางเข้าคีรีวง เออพวกเราก็ขึ้นรถไป อยากบอกว่าไปถึง "จุดชมวิวเขาธง" เราก็ลงแวะเที่ยงกันก่อน มันมีจุดถ่ายรูป ลำธารอะไรที่สวยมาก เย็นมากด้วย คือในภาพอาจดูไม่สวยนะเพราะถ่ายเองจริง ๆ 55555 พอถ่ายรูปกันเสร็จพวกเราขึ้นรถสองแถว นครศรี - จันดี ต่อ ไปลงหน้าปากทางเข้าคีรีวง และนั่งสองแถว จันดี - คีรีวง ต่อเข้าไป แล้วก้ที่พักในคีรีวงอะเราติดต่อไว้แล้วเพราะอยากพักที่แบบเป็นเต้นท์อะ ชื่อที่พักคือ พี่โอม โฮมสเตย์ เราติดต่อไปทางเฟซบุ๊ก คืนละ 1500 บาทเท่านั้น พักได้ 5 คนเลย สองแถวอะเข้ามาส่งถึงที่พักเลย เขารู้จักกัน นี่คือของเรานะสวยดี สบายดีอยู่ ตอนกลางคืนหนาวมาก กิจกรรมในคีรีวงของเราก็คือการไปปั่นจักรยาน ถ่ายรูป เล่นน้ำ โดยจักรยานเนี่ยไปเช่าได้นะอยู่ใกล้ ๆ กับที่พักเลย ถ้าจำไม่ผิด 50 บาทต่อวัน ถูกมาก พวกเราก็ไปปั่นจักยาน เล่นน้ำ ถ่ายรูปกัน เราไปในช่วงหน้าร้อนนะ น้ำตื้น ๆ หน่อย แต่ก็ยังเล่นได้ อยากบอกว่าน้ำใสและเย็นมาก ส่วนเรื่องอากาศไม่ต้องพูดถึงโครตสดชื่น ขนาดร้อนนะ ที่นี้ยังมีลมเย็น ๆ เลย พอตกเย็นเราก็หาอะไรกินกันมีร้านข้าวเยอะมากน่านั่งสุด ๆ อาหารก็อร่อย พวกเราก็กลับมาที่พักมานั่งเล่นกีต้ารื ร้องเพลงกัน ชอบที่พักนี้ตรงที่ ป้าเจ้าของที่เป็นกันเองมากเหมือนมาเที่ยวบ้านญาติ แกมานั่งคุยกับเราเอามังคุดมาให้กินด้วย แกน่ารักมาก ๆ เลย แถมข้าวเช้าฟรีด้วยนะ แกเลี้ยงเป็นขนมจีน อร่อยมาก มีร้านนึงจะเรียกว่าร้านได้ไหมนะ เหมือนนเขาทำขายก็จริงแต่แบบยังไงดีเอาเป็นว่าไปลองสัมผัสกันร้านนี้ตั้งอยู่ทางเข้าที่พักเราเลยเหมือนจะรู้จักกับป้าเจ้าของที่พักเรา คือของเขาทำเองหมดเลย มีขายพวกกลิ่นกันยุงด้วยนะ ตกดึกพวกเราเดินไปถ่ายรูปที่สะพานคีรีวงกันเพราะคนไม่เยอะ ตอนบ่ายไม่ไหวจริง ๆ คนเยอะมาก พอตอนกลางคืนแล้วสวยไปอีกแบบ อยากบอกเลยว่าเวลาถ่ายรูปของพวกเราคือจริงจังมาก และมันก็สนุกมากจริง ๆ กับการได้มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ เช้าวันต่อมาเราตื่นกัน 05:30 เพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น คือแบบเป็นอะไรที่สวยมาก ๆ เหมือนธรรมชาติกำลังสงบสุด ๆ บรรยากาศเย็น ๆ แสงที่เริ่มสว่าง ดวงอาทิตย์ที่เริ่มขึึ้นมาดีมาก ๆ เลย พวกเราใช้เวลาอีกหน่อยอยู่กับคีรีวงและออกเดินทางตอนเที่ยงเพื่อจะไปขนส่ง เราตัดสินใจกันว่าจะกลับหาดใหญ่ด้วยรถตู้ เลยเดินทางด้วยสองแถวในคีรีวง ไปถึงขนส่งเลย พวกเราก็ซื้อตั๋วกลับหาดใหญ่ 160 บาทได้นะ แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่นั้น พวกเราอยากลองไปเที่ยวเซนทรัลนครดูเลยนั่งสองแถวไปเที่ยวกันต่อและหาอะไรกินก่อนเดินทางกลับด้วย และตอนนั้นเราก้ได้แวะร้านเค้กร้านนึงซึ่งแบบอยู่หน้าวัดพระธาตุ คือดีมากกกกกชื่อร้าน "GLUR HOUSE " และฝนก็ตกลงมาหนักมาก เราเลยต้องเรียกแกรบ มารับไปส่งขนส่ง และสุดท้ายเราก็ได้กลับหาดใหญ่ถึงประมาณ 17:00 น. ก็จบลงแล้วกับทริป 3 วัน 2 คืน กับคีรีวง ทริปฟอกปอดนี้ เราขอสรุปค่าใช้จ่ายต่อคนให้นะ - ค่ารถไฟ 90 บาท - ค่าที่พักจินเฮง คนละ 200 บาท - ค่าที่พัก คีรีวง คนละ 300 บาท - ค่าสองแถว รวมที่ไปทั้งหมด ประมาณ 200 บาท - ค่ารถตู้ 160 บาท - ค่ากินอื่น ๆ แล้วแต่คนนะ ตกประมาณ 400 บาท รวมแล้ว 1,350 บาท นี่ไม่บอกคงรู้ใช่มั้ยคะว่าหมดไปกับค่าอะไร 55555 มีเกมแนะนำให้เล่นระหว่างทริปด้วย พวกเราเล่นเกมบัดดี้ โดยเราจับบัดดี้กันตั้งแต่ที่หาดใหญ่ คือจับได้ชือใครก็ให้ดูแลเขาทั้งทริปแล้วเราก็มาเฉลยกันตอนวันสุดท้าย ใครทายผิดเลี้ยงข้าว และใครทำใบบัดดี้หายก็เลี้ยงคนชนะเช่นกัน นี่แหละเหตุผลที่เราต้องไปกินข้าวที่เซนทรัลนครกันเพื่อให้คนผิดเลี้ยง 55555 ทริปนี้เราก็ได้อะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งได้ไปฟอกปอด ได้ไปพักสมอง ได้ไปสนุกกับเพื่อนได้ไปทุลักทุเลกันแบบไม่มีแผน ได้เพื่อนใหม่ ได้รู้ว่านครศรีคนใจดีมาก หวังว่าทริปนี้จะเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ เตรียมเก็บกระเป๋าไปฟอกปอดที่คีรีวงหลังหมดโควิดนี้นะคะ Credit : Petchlita ภาพทั้งหมดเราเป็นคนถ่ายเองทั้งหมดนะคะ