หลายครั้งที่เราอยากหามุมสงบๆ พักผ่อน แบบไม่ต้องเร่งรีบ ที่นี่เลย หลังจากหาข้อมูลและเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่ ปากพนัง ครั้งก่อน เราไปตลาดย้อนยุค ตลาด 100 ปี นั่งเรือข้ามฟาก รับลมเย็นๆ ของสายน้ำกันมาแล้ว ครั้งนี้ หาที่พักเลยดีกว่า ปากพนังวิลเลจ คือจุดหมายพักใจของเรา โดยจองผ่าน Booking ราคา 700 บาทเอง ห้องใหม่ขาวสะอาดตา มีห้องครอบครัวด้วย ลองหาวันมาทำกิจกรรมร่วมกันสิคะ เช่ารถจากสนามบินเจ้าเดิมผู้คุ้นเคย จองง่าย รับรถไว AVIS แอบเก็บ Voucher แสนถูกมาจากงานไทยเที่ยวไทย วันละ 565 บาทเหมามา 20ใบ แถม 5 ใบ (แอบงก ) ขับรถมาไม่ไกล ได้ที่พักเล็กๆ อยู่ติดกับแหล่งท่องเที่ยวนิดเดียวเอง แถมมีจักรยานให้ปั่นฟรี พนักงานก็น่ารักแนะนำอย่างดี ขอพักเอาแรง รอแดดเย็นก่อนจ้า พอบ่ายคล้อย พร้อมปั่นจักรยานออกกำลังขามาตามสะพานปูนเลียบคลอง ออกสู่ จุดชมวิว โอ้โห!! วิว ยอ ดีงามพระรามเก้า ปานนั้น แดดอ่อนผสมลมเย็นๆ ของ บ้านเกาะไชย ผู้คนน่ารักยิ้มแย้มทักทาย บอกให้ปั่นต่อไปสะพานไม้สิ จะรอไร ไปเลยจ้า อีกสัก 300 เมตร เวลาเจอ มอเตอร์ไซด์สวนมาที กลัวจะปั่นลงน้ำทุกที อิอิ แต่ภาพสะพานไม้เก่า ที่มีเรือลำเล็กของชาวบ้านลอดไปมา น่าดูจัง อาชีพท้องถิ่นทำให้เรามีปลาสดๆ น่ากินนี่เอง ถ่ายรูปจนหนำใจ ก่อมืดพอดี รีบปั่นกลับดีกว่า ช้าจะตกคลองซะก่อนละเรา 555 แนะนำใครที่มีเวลา ปั่นไปอุโมงต้นไม้ ป่าโกงกางต่ออีกนะ รอบหน้าจะพาเดอะแก๊งมาใหม่ รอบนี้พักเอาแรงก่อนจ้า เช้าตื่นมารับโอวัลติน กาแฟ มีคุณลุงคุณป้าชวนคุย กินเพลินปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวอิ่มพอดี เตรียมหาที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น และเช็คเอาท์ เลยละกัน พนักงานใจดีแนะนำต่อ ไปสะพานท่าเรือเก่าสวยนะพี่ อะ ไปตามเลยจ้า มีเราคนเดียวเลยที่มา จะแอ็คท่าไหน ไม่ต้องอายใคร มีแต่ ฟ้า ทะเลของช้านเท่านั้น ดีไปอีก ต่อจากสะพานขับรถเลียบชายฝั่งทะเลมาชม สวนกังหันลมเลียบชายทะเล สองข้างทางเรียงรายสวยงาม มองเพลินกันเชียว ความสุขของเราเพียงเท่านี้ ก็มีแรงกลับไปทำงานเก็บเงินมาเที่ยวใหม่แล้วละ รอบหน้า จะมาสำรวจให้นานกว่านี้นะ ปากพนัง ที่รัก