วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปกันนะครับ ในปัจจุบันกล้องถ่ายรูปถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักมีไว้ในครอบครองและจะพกติดตัวไปด้วยเมื่อออกจากบ้าน โดยยิ่งเฉพาะเวลาออกไปเที่ยว ไม่ว่าจะไปเที่ยวในเมืองไปต่างจังหวัดเที่ยวป่าเที่ยวทะเล เราต้องยอมรับเลยว่ากล้องคือสิ่งที่เราขาดไม่ได้เป็นอย่างมาก แม้แต่คุณไม่มีกล้องถ่ายรูปแต่คุณก็ยังใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนเพื่อบันทึกความทรงจำกันทั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นได้ก้าวไกลไปมาก เราจึงได้เห็นเทคโนโลยีต่างๆ ออกมากันอย่างมากมาย แต่ในอีกมุมๆ หนึ่งนั้นมีสิ่งที่กำลังเติบโตขึ้นอยู่เรื่อยๆ ท่ามกลางความล้ำสมัยและการเติบโตของเทคโนโลยี และในมุมนี้ยังมีกลุ่มคนส่วนหนึ่งที่ยังหลงไหลในความเก่าความคลาสสิคอยู่อย่าง "กล้องฟิล์ม" อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในยุคสมัยนี้การถ่ายรูปนั้นทำได้โดยง่าย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนเราก็สามารถถ่ายรูปกันได้แล้ว แต่ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของกล้องฟิล์ม ทั้งในด้านการใช้งานและกระบวนการต่างๆ จนกว่าจะได้ภาพออกมา 1 ใบ เป็นสิ่งที่ถูกอกถูกใจหลายๆ คน จึงไม่แปลกใจที่ความฮิตของการถ่ายภาพฟิล์ม โดยเฉพาะ "ฟิล์มเนกาทีฟ 135 มม." นั้นจะได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่องจากคนรุ่นใหม่ เป็นเพราะความเป็นอนาล็อกที่เป็นสีสันต์และเสน่ห์แบบเฉพาะตัวที่ยังคงตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางโลกของดิจิทัลและเทคโนโลยีมากมาย ทำให้กล้องฟิล์มจากที่กำลังจะกลายเป็นเพียงสิ่งของสะสมกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา และด้วยเหตุทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้นจึงทำให้ความนิยมการใช้กล้องฟิล์มเพิ่มขึ้นอย่างมาก และแน่นอนตามหลักของ อุปสงค์และอุปทาน สินค้า ที่เกี่ยวกับกล้องฟิล์มก็ได้ขายดิบขายดี ร้านทำธุรกิจเกี่ยวกับการล้างและสแกนฟิล์มผุดขึ้นมากมาย ฟิล์มสำหรับถ่ายรูปขายดีจนบางยี่ห้อขาดตลาดแถมราคายังพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากจากเดิมเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้ว บางรุ่นบางยี่ห้อที่เพิ่งจะประกาศเลิกผลิตก็ยิ่งซ้ำให้ราคาสูงขึ้นไปอีกเพราะมีจำหน่ายอย่างจำกัด จากอุปกรณ์ถ่ายรูปราคาย่อมๆ บางตัวราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาทในตอนนั้น กลายมาเป็นของล้ำค่าและราคาสูงในวันนี้ ทั้งราคาตลาดของม้วนฟิล์มเนกาทีฟ ที่ราคาถูกที่สุดเมื่อ 3 ปีที่แล้วอยู่ที่ม้วนละ 95 บาท แต่ตอนนี้ราคาตกอยู่ที่ม้วนละกว่า 2XX บาทไปจนถึงพวกฟิล์มที่มีคุณภาพหรือเลิกผลิตไปแล้วก็ยิ่งมีราคาสูงขึ้นไปอีก แถมยังขาดตลาดอีกด้วย ราคาของฟิล์มและกล้องฟิล์มแต่ละชนิดที่ราคาสูงขึ้นจนวันหนึ่งอาจสูงแตะเพดานในวันที่ผู้ซื้อเห็นว่าเกินกำลังและซื้อน้อยลงในวันนั้นฟิล์มก็จะราคาถูกลงเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่หากมองในแง่ดีคือการทำให้เราเห็นคุณค่าของการถ่ายภาพมากขึ้น เพราะราคาต่อใบค่อนข้างแพง เราลองมาคิดเล่นๆ กันดู สมมติว่าเราซื้อฟิล์มมาในราคาม้วนละ 250 บาทถ่ายได้ 36 รูปเอามาลองหารดูก็อยู่ที่รูปละเกือบ 4 บาทต่อการกดถ่ายไป 1 ครั้ง แต่นี่ยังไม่รวมค่าล้างและสแกนนะ ถ้าเกิดบวกไปจากที่ผมเคยล้างจะอยู่ที่ม้วนละ 120 บาท ล้างออกมา 36 รูปตามที่เราถ่ายไปก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 บาท กว่าๆ เมื่อเอามารวมๆ ก็จะอยู่ที่เกือบ 9 บาทต่อภาพเลย และในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจทางด้านนี้ทั้งร้านรับล้างสแกนฟิล์มและขายฟิล์มอาจต้องรักษาคุณภาพและภาพลักษณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีผู้เข้ามาจับจองธุรกิจนี้มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากมองว่ากล้องฟิล์มจะฮิตอยู่อีกนานไหม คงต้องบอกว่าอีกนานเลยล่ะครับ( ฮ่าๆๆๆ ) เพราะอย่างที่บอกว่าความมีเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากความเป็นดิจิทัลนั้นในขณะนี้ได้เป็นสิ่งที่ถูกใจผู้คนส่วนใหญ่ไปแล้ว