วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเที่ยวคอน (“คอน” เป็นคำที่คนใต้ใช้เรียกจังหวัดนครศรีธรรมราช) จริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผมที่เดินทางมานครศรีธรรมราช แต่เป็นครั้งแรกที่ขับรถยนต์มาที่นี่เพียงลำพัง ตั้งใจว่ามาเที่ยวโดยเฉพาะ ปิดเทอมว่างเกิ๊นนน เดินทางมาถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชตอนค่ำ ๆ จัดแจงเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้วก็โทรหารุ่นพี่ที่เรารู้จักจะปรึกษาเรื่องเที่ยว ยังไม่ได้ถามอะไรพี่บอกว่า “พรุ่งนี้จะไปเที่ยว #น้ำตกกรุงชิง ไปด้วยกันไหม?” นี่เป็นการเริ่มต้นทริปเที่ยวคอนของผมครับ เช้าวันที่ต้องเดินทางไปน้ำตก ผมขับรถไปที่บ้านพี่ที่อำเภอพรหมคีรี แล้วอาศัยรถพี่ไปน้ำตกกัน พี่ผมก็ไม่ใช่คนในพื้นที่นะครับ แกมาอาศัยทำงานที่นครศรีธรรมราชจึงไม่รู้ทางไปเหมือนกัน ระหว่างทางก็ถามชาวบ้านไปเรื่อย จนไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขล.4 (น้ำตกกรุงชิง) อุทยานแห่งชาติเขาหลวง (ที่ตั้ง : ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช) เหมือนเจ้าหน้าที่จะตื่นเต้นที่มีคนมาเที่ยวนะครับ จับพวกผมถ่ายรูปใหญ่ ซื้อน้ำเปล่าติดตัวกันไปคนละขวดที่ร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน จากนั้นก้ไปลงไปน้ำตก จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูลพื้นฐาน ทำให้รู้ว่าชื่อน้ำตกกรุงชิง คำว่า "ชิง" เป็นชื่อของต้นชิง เจ้าหน้าที่แนะนำให้ต้นตังรังช้าง ซึ่งเป็นไม้มีพิษ เพื่อให้เราระวังในการเดินไปชมน้ำตก ในการเข้าชมน้ำตกกรุงชิงเราต้องเดินเท้าจากหน่วยพิทักษ์อุทยานไปยังน้ำตกเป็นระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ทางเดินเป็นปูนเดินไม่ลำบากมากนัก มีบางช่วงที่เป็นดินบ้าง แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังเวลาเดิน คือ ทาก เป็นเรื่องปกติของการเดินป่าครับ แต่จากประสบการณ์ของผมทากทางภาคใต้มันตัวใหญ่กว่าที่อื่นมาก เพื่อความสบายใจก็ใส่ถุงกันทากไปด้วยก็ดี น้ำตกกรุงชิงเป็นน้ำตก 7 ชั้น ซึ่งที่นี่ต่างจากที่อื่นก็ตรงที่เมื่อเราเดินไปถึงน้ำตกแทนที่จะเจอชั้นที่ 1 ก่อน เราจะเจอชั้นที่ 7 ก่อน แล้วค่อยเดินลงจากชั้น 7 ลดหลั่นลงไปจนถึงชั้นที่ 1 การเดินจากชั้น 7 ลงไปทางเดินจะเป็นบันได แต่ไม่ได้เดินง่ายอย่างที่คิด เพราะเป็นบันไดที่ชันมาก เวลาเดินลงไปใจก็จะหวิว ๆ หน่อย ชั้นที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของน้ำตกกรุงชิง คือ ชั้นที่ 2 เรียกว่า หนานฝนแสนห่า เป็นชั้นที่สวยมาก ๆ ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ความสูงประมาณ 100 เมตร มีสายน้ำไหลลงมาสองสาย เมื่อน้ำตกลงมาจะกระทบกับหินแล้วกระจาย ถ้าไปอยู่ตรงหน้าผาตรงนั้นจะมีละอองน้ำคล้ายกับฝนตกลงมาตลอดเวลา อีกหนึ่งความพิเศษของน้ำตกชั้นนี้ คือ ความสวยงานของน้ำตกที่นี่ได้ถูกนำภาพไปพิมพ์อยู่หลังธนบัตรราคา 1,000 บาท เมื่อปี พ.ศ.2535 อีกด้วย