เมืองไทยได้ชื่อว่า เมืองอู่ข้าว อู่น้ำ เพราะผืนแผ่นดินไทยเป็นแหล่งของความอุดมสมบูรณ์ดังคำที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” อีกทั้งคนไทยยังมีความผูกพันกับข้าวมาอย่างช้านาน และปัจจุบันกระแสการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกำลังเป็นที่นิยม และต้องการปลูกฝังหลักความพอประมาณให้เยาวชนเติบโตไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ทอดทิ้งความเป็นตัวตนของชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ ดังเช่นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ที่มีการจัดการร่วมกันระหว่างชุมชนกับโรงเรียนในการจัดการให้เรียนรู้นอกห้องเรียนกำเนิดโรงเรียนชาวนาโรงเรียนชาวนา ตั้งอยู่ที่ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ก่อตั้งโดยนายมูฮัมหมัด บิง เป็นเกษตรกรยุคใหม่และเกิดความกังวลว่าในอนาคตลูกหลานจะขาดแคลนอาหาร เพราะพื้นที่นาลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดแนวคิดที่จะเป็นแกนนำในการชักชวนชาวบ้าน ในพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอแว้ง ประกอบด้วย ตำบลโล๊ะจูด ตำบลเอราวัณ ตำบลฆอเลาะ ตำบลแม่ดง และตำบลกายูคละ ให้หันกลับมาทำนาในพื้นที่นาร้าง และนำเอาวิธีดั้งเดิมของชุมชนกลับมา และทำการเกษตรผสมผสานโดยไม่ใช้สารเคมี รวมทั้งเปิดเป็นโรงเรียนชาวนา และศูนย์การเรียนรู้ให้แก่เยาวชน และบุคคลทั่วไปได้เข้ามาศึกษาศาสตร์พระราชา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ภาพโดย hippogribbกิจกรรมโรงเรียนชาวนาในการลงพื้นที่แหล่งเรียนรู้โรงเรียนชาวนา มีกิจกรรมมากมายให้ได้เรียนรู้ แต่ในการที่เราได้ลงพื้นที่ครั้งนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมให้ทั้งหมด 5 ฐาน ประกอบด้วย ฐานการทำน้ำหมักกำจัดศัตรูพืชแบบชีวภาพ ฐานไล่จับแมลง ฐานทำนา ฐานจับปลาไหล และฐานการทำตับจากฐานแรก การทำน้ำหมักกำจัดศัตรูพืชแบบชีวภาพ โดยคุณลุงประจำฐาน เล่าว่า ในอดีตมีกรมอนามัยมาตรวจพบปริมาณสารเคมีของเกษตรกรชาวแว้งสูงมาก จึงเปลี่ยนวิธีคิดจากการใช้เคมีมาใช้แบบอินทรีย์แทน จึงได้คิดต้นการทำน้ำหมักเองโดยใช้พืชสมุนไพรใกล้ตัว เช่น ตะไคร้ ยูลาลิปตัส ใบยอ ภาพโดย hippogribbฐานที่สอง ฐานไล่จับแมลง ทางโรงเรียนให้พวกเราเรียนรู้วิธีการจับแมลง และให้ลงพื้นที่บริเวณนาข้าว ไปจับแมลง จากนั้นนำแมลงที่จับได้มาคัดแยกว่า แมลงชนิดไหนเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูต่อนาข้าว โดยมีคุณครูชาวนาคอยให้คำแนะนำ ภาพโดย hippogribbฐานที่สาม การทำนา ฐานนี้เป็นฐานที่ทุกคนรอคอย เพราได้ลงไปทำนาแบบเกษตรกรจริง ๆ ได้ลองใช้เครื่องไถนาจริง ๆ ทำให้ได้เรียนรู้และพร้อมเรียกเสียงฮาไปพร้อม ๆ กัน ภาพโดย hippogribbฐานที่สี่ การจับปลาไหล เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ตื่นเต้น เรียกเสียงกรี๊ดดังลั่นสนั่นทุ่งนาอำเภอแว้งกันไปเลย ภาพโดย hippogribbและฐานสุดท้าย การทำตับจาก หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “ร้อนตับแตก” ซึ่งนี้ไม่ได้หมายถึง ตับ ที่เป็นอวัยวะเครื่องในของเรา แต่มันหมายถึง ใบจาก ที่เราใช้มุงหลังคาบ้าน ซึ่งเมื่อเวลาตอนที่มันโดนแดดจัด ๆ ใบจากที่ถูกเย็บเรียงติด ๆ กัน มันจะแตกนั่นเอง ภาพโดย hippogribbหลังจากได้เรียนรู้และทำกิจกรรมกันอย่างเหน็ดเหนื่อยทางโรงเรียนชาวนาก็ได้จัดเตรียมอาหารแบบฉบับชาวนา เป็นอาหารพื้นบ้านที่หากินได้ทั่วไปไม่ต้องซื้อหา และภาชนะที่รองอาหารจะใช้ไม้ไผ่ และใบตอง ภาพโดย hippogribbเมื่อทานข้าวกันอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว กิจกรรมปิดท้ายของวันนี้คือ มวยครอง เป็นกิจกรรมที่เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ทั้งชาวบ้านและเด็ก ๆ ละแวกนั้นก็เข้ามามีส่วนร่วมและเข้ามาให้กำลังใจในการแข่งขันครั้งนี้ ภาพโดย hippogribbโรงเรียนชาวนาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการทำนาอินทรีย์ของเกษตรกรในพื้นที่ เปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่เรียนรู้เกี่ยวกับการไถนา ถอนกล้า ดำนา เกี่ยวข้าว นวดข้าว สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม โรงเรียนชาวนาไม่ได้สอนให้เรียนรู้แค่การทำนาซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษของพวกเรา แต่ยังสอนให้เข้าใจการมีสุขภาพดีจากการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย รวมทั้งการผลิตอาหารขึ้นมาจากดินของตนเองที่มีอยู่ เพื่อให้ครอบครัวมีอาหารพอเพียงกับการบริโภคถือเป็นปัจจัยหลักของมนุษย์ทุกคน