ในช่วงเดือนต้นเดือนกันยายนของทุกปีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จะมีการจัดงานซึ่งถือเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดที่ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจและแวะเวียนมาเยี่ยมชมงานนั้นก็คือ งานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเด็ก ๆ ม.อ.ปัตฯ รวมถึงคนในพื้นที่จะรู้จักกันในชื่อ "งานวัฒฯ" โดยภายในงานจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ใหญ่ ๆ ส่วนแรกอยู่ติดกับประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเลย ลักษณะของส่วนนี้เป็นส่วนที่มีความคล้ายกับงานกาชาด งานวัด ทั่วไปเลย มีของกิน มีเครื่องเล่น มีเสื้อผ้าของใช้ มีต้นไม้ขาย ส่วนนี้ก็จะครึกครื้นหน่อย คนจะค่อนข้างแออัดหน่อยเพราะเด็ก รวมถึงคนนอกมักจะให้ความสนใจในส่วนนี้มาก ต้องระวังกระเป๋า เงิน ของมีค่าสักหน่อยนะ ในส่วนที่สองจะเป็นส่วนที่เป็นโซนของกินโดยเฉพาะเลย ซึ่งในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนย่อยนั่นคือ ส่วนของของอาหารพื้นบ้าน จะมีกลุ่มศิลปาชีพ หรือร้านค้าจากที่ต่าง ๆ มาเรียงราวขายของซึ่งบางอย่างเป็นอาหารที่ดูแปลกหูแปลกตาไปไม่เบาเลย ส่วนของนักศึกษา ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถมีพื้นที่ในการหารายได้ ก็จะมีทั้งชมรม คณะ สาขา หรือเป็นนักศึกษาเองโดยไม่ขึ้นกับองค์กร มาเปิดบูธขายของ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีของกินมากมาย และหลากหลายให้เลือกลิ้มลองกัน ใครชอบอะไรแนวไหนมีทั้งของหวาน ของคาว ของกินเล่น รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ และในส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่อยากบรรยายยาวหน่อยเพราะในส่วนนี้เป็นส่วนที่ผู้เขียนชื่นชอบมากเป็นพิเศษ นั้นคือ.... ส่วนที่เป็นงานศิลปะ งานศิลปะที่ว่านี้ก็จะมีตั้งแต่ศิลปะภาพวาด ถักรอย แกะสลัก งานปั้น งานสาน ส่วนนี้จะถูจัดแสดงอยู่ในสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รวมถึงงานแสดงบนเวทีด้วยที่เวทีถูกจัดขึ้นอยู่ข้าง ๆ ตึกของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา หรือที่ถูกเรียกสั้น ๆ ว่า หอศิลป์ ฉันสามารถเดินได้ทั้งคืนอยู่ภายในนี้ และสามารถมาเดินได้คนเดียวแม้ไม่มีคนมาเป็นเพื่อน การที่ฉันได้ก้าวเดินพ้นประตูของหอศิลป์เหมือนกับว่าฉันได้พุ่งตัวไปอีกโลกหนึ่ง โลกที่ฉันรู้สึกสงบ สบายใจ และมีความสุขมาก ๆ ฉันปรับการเดินของตัวเองให้ช้าลง ฉันใส่ใจกับรายละเอียดมากขึ้น คอย ๆ ดู ค่อย ๆ มอง ค่อย ๆ ถาม ทุก ๆ รายละเอียดถูกบันทึกลงในหน่วยความจำย่อยที่เรียกว่าหน่วยความทรงจำ ภายในอาคารผู้คนไม่ค่อยเยอะถ้าเทียบกับด้านนอก ฉันที่เป็นคนไม่ค่อยชอบคนเยอะก็ยิ่งหลงใหลในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่า ๆ ตัว ฉันเดินวนจนครบรอบแลเวก็เดินวนรอบอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งในส่วนที่นี้จะมีเวลาจำกัดนะคะ เขาจะปิดตอนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ฉันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในนี้ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสพศิลป์ให้ได้มากที่สุด ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัดเนื่องจากฉันมาถึงงานค่อนข้างค่ำมากแล้วทำให้เวลาในการเดินเล่นเสพงานศิลป์มีไม่ได้เยอะมาก แต่ไม่เป็นไรเพราะงานเขาจัดขึ้นประมาณ 10 วัน ฉันสามารถที่จะมาคืนอื่น ๆ ได้อีก เดินไปได้สักพักเจ้าหน้าที่ก็เริ่มประกาศให้ผู้ที่กำลังชมงานได้เตรียมตัวและทยอยกันเดินออกจากตัวอาคาร ฉันซึ่งกำลังเดินอยูงานศิลปะอยู่ที่ชั้นสองก็ค่อย ๆ เดินช้า ๆ ให้ผู้คนเริ่มเบาบางลงจึงค่อย ๆเดินลงมาสู่ชั้นล่างแล้วก็เดินออกไปจากตัวอาคารพลางยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ ๆ มาดูแลผู้เข้าชมตลอดงาน ขอบคุณนะคะ งานนี้จะเริ่มเปิดราว 5 โมงเย็น แต่แนะนำในมาช่วงค่ำสัก 6 โมงครึ่ง เนื่องจากปัตตานีค่อนข้างร้อนเอาเรื่องเลย การมาตอนฟ้ามืดแล้วย่อมเป็นทางออกที่ดีไม่เลวเลยนะ แต่ที่สำคัญที่จอดรถยนต์หายากมาก คุณอาจจะต้องอ้อมไปจอดไกลแล้วค่อยเดินมาเข้างาน แนะนำในมากับรถมอเตอร์ไซค์จะดีกว่าเพราะที่จอดจะเยอะกว่าแถมที่จอกอยู่ใกล้งานมากกว่า แต่ถ้าไม่สะดวกก็มากับมอเตอร์ไซค์ก็มากับรถยนต์ได้แต่ต้องเผื่อใจสักหน่อยว่าคุณอาจจะต้องวนหาที่จอดอยู่พักใหญ่ ๆ และที่สำคัญหากเกิดคุณรู้สึกหิวขึ้นมาระหว่างเดินเล่นอยู่ในงานทั้งส่วนแรก และส่วนที่ 2 จะมีของกินให้คุณเลือกซื้อได้ แต่ถ้าจะกินเป็นข้าว เป็นก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน (เมนูแนะนำของงาน) หรืออาหารที่เป็นอาหารหลักแนะนำให้ไปกินในส่วนที่ 2 ของงานจะดีกว่าเพราะราคาจะเบากว่าเยอะมาก คือโดยหลักแล้วอาหารในส่วนที่ 2 จะราคาน่ารักกว่า เผื่อไว้ถ้าหิวอย่าเพิ่งรีบสั่งให้ลองถามราคาเสียก่อน ไม่อยากให้เป็นมื้ออาหารที่รู้สึกไม่ดี แวะเวียนมาได้นะคะ เครดิต : ภาพทั้งหมดผู้เขียนเป็นคนถ่ายเองจากสถานที่จริง