ปีนัง ถือเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้าที่ผู้เขียนจะได้ไปเยือน ก็ได้อ่านรีวิวจากหลายๆคน บ้างก็จากคนใกล้ตัว บ้างก็จากเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต จากรีวิวมากมายนั้นล้วนมีแต่ความประทับใจในเมืองนี่ จึงคิดว่าตัวเองคงต้องไปพิสูจน์แล้วละ ผู้เขียนเดินทางจากบ้านไปยังปาดังเบซาร์ด้วยรถไฟ ซึ่งรถไฟของไทยสามารถเข้าจอดเทียบกับสถานีรถไฟความเร็วสูงของทางมาเลเซีย ทำให้สะดวกมากๆ เมื่อถึงสถานีก็เดินลงไปซื้อตั๋วรถไฟโดยบอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่าไป Butterworth (เป็นสถานีสุดท้าย) เมื่อไปถึงให้เข้าไปในตึกข้างๆซึ่งเป็นตึกใหม่ ภายในมีร้านค้ามากมาย ที่สำคัญเป็นจุดเชื่อมกับท่าเรือเฟอร์รี่ที่ต้องใช้ข้ามไปยังเกาะปินัง ค่าบริการทั้งขาเข้า-ออกเพียงแค่ 1.2 ริงกิตเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึงตัวเมือง เมื่อถึงที่หมายท้องใส้ก็เริ่มส่งเสียงทำให้ต้องแวะชิมอาหารที่นั้นสักหน่อย ผู้เขียนโดยสารโดยใช้แกร็บเป็นหลัก สะดวกมากๆ เพียงหาข้อมูลสถานที่ที่ต้องการไปให้พร้อม ก่อนไปผู้เขียนได้จองที่พักผ่านทางเว็บไซต์ Traveloka โดยกำหนดสถานที่บริเวณโดยรอบ Masjid Kapitan Keling เหตุผลที่เลือกย่านนี้ เพราะเป็นย่านที่มีความหลากหลาย มีทั้งชุมชนคนจีน อินเดีย และคนมลายู ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากๆ รวมถึงบรรยากาศคึกคักแต่ไม่ถึงกับวุ่นวาย ผู้คนเป็นมิตร ถือว่าปลอดภัยมากๆ หลังจากเข้าเช็คอินที่พักเรียบร้อยแล้ว ช่วงเย็นผู้เขียนและคณะก็เริ่มออกไปเที่ยว โดยที่แรกที่ไปคือ Penang Hill คิดว่าผู้อ่านน่าจะคุ้นชื่ออยู่บ้าง จากที่ได้อ่านรีวิวต่างก็แนะนำให้ไปในช่วงเย็นเพื่อที่จะได้เห็นวิวของเมืองปีนังทั้งช่วงที่ฟ้ายังสว่างและช่วงพระอาทิตย์ตก เพราะช่วงเวลานี้ไม่ต้องรอคิวขึ้นกระเช้านาน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย เมื่อถึงข้างบนบอกได้คำเดียวว่าบรรยากาศดีมาก ผู้คนมีไม่มากนักทำให้ถ่ายรูปได้สะดวก จุดถ่ายรูปโดยรอบก็มีอยู่หลายจุด ทั้งแบบที่เสียเงินและเเบบที่ไม่ต้องเสียเงิน รับรองได้ว่าใครที่ชอบสายนี้ได้ถ่ายจนอิ่มใจแน่ อากาศในช่วงเย็นอาจจะร้อนนิดหน่อยแต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะมีร้านบิงซู ร้านผลไม้อยู่หลายร้านให้เลือกกินดับร้อนได้ เมื่อใกล้ค่ำก็มาชมวิวที่จุดชมวิว แนะนำให้ปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับวิว เพราะทุกนาทีเราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง อย่างการที่ตึกรามบ้านช่องเริ่มมีการเปิดไฟทีละจุด ทีละจุด เพื่อบ่งบอกว่าใกล้จะหมดวันแล้ว แล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะได้กลับไปพัก เพื่อตื่นมาพบกับวันใหม่อย่างสดใส “มาดูกันว่าผู้เขียนจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหนในปินังอีก เจอกันตอนหน้าค่ะ”