การร่วมสืบสานวัฒนธรรมของศาสนาอิสลาม อย่างหนึ่งที่ยังคงคุณค่าให้ชวนค้นหา และดำรงอยู่แก่คนรุ่นหลังให้สืบทอดอยู่อย่างง่ายงาม ซึ่งที่จะกล่าวนี้คือ กิจกรรมการกวนอาซูรอ หรือเรียกอีกอย่างว่า การกวนกระยาสารทของอิสลามิกชน ซึ่งในแถบถิ่นปลายด้ามขวานยังคงมีให้เห็นกันอยู่ ยิ่งเฉพาะในแถบย่านชุมชนชนบทของพื้นที่ชาวชุมชนวังเก่าจะบังติกอ ร่วมสืบสานการกวนอาซูรอย่ำรุ่งของกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางกลุ่มแม่บ้านและสมาชิก “ชุมชนวังเก่า” ที่อยู่ในต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี ได้มีการร่วมมือประสานกิจกรรมการกวนอาซูรอขึ้น ณ บริเวณริมลำน้ำปัตตานี ที่เป็นสายน้ำไหลเลาะผ่าผ่านใจกลางเมือง ตรงบริเวณด้านหลังกำแพงวังเก่าจะบังติกอ โดยการนำของ “นายธรรมนูญ อารีอับดุลซอมะ” ซึ่งเป็นข้าราชการครูและเป็นประธานชุมชนผู้เป็นต้นคิดและต้นเรื่องของการร่วมสืบสานกิจกรรมนี้ให้ทางชุมชนได้ร่วมสืบสานกันต่อไปนายธรรมนูญ อารีอับดุลซอมะ ประธานชุมชนวังเก่าจะบังติกอเรามาทำความรู้จักกับการกวนอาซูรอว่า มีที่มาอย่างไรการกวนอาซูรอ เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยของท่านนบีนุฮ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดานบีของศาสนาอิสลามในอดีต ที่เกิดภาวการณ์เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้บรรดาชาวบ้านชาวเมืองเกิดความเดือดร้อนให้เรื่องของอาหารการกิน ท่านนบีนุฮ์ จึงได้ให้ชาวบ้านได้นำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืชที่มีของแต่ละคนมารวมกัน แล้วกวนในกระทะใบใหญ่ ทั้งนี้เพื่อจะให้อาหารไม่ได้รับความเสียหาย และเสมือนเป็นการถนอมอาหารอีประเภทหนึ่ง หลังจากกวนเสร็จก็ได้มีการแบ่งปัน แจกจ่ายกันให้ได้กินกันทั่วหน้า นี่คือเป็นต้นธารของความคิดที่เกิดการ “กวนอาซูรอ” เมื่อครั้งอดีตโน้นตามประวัติศาสตร์ของเรื่องราววัฒนธรรมการกวนอาซูรอของอิสลามิกชน และนอจากนี้การกวนอาซูรอ ยังเกิดขึ้นอีกครั้งสมัยยุคของศาสดามูฮำหมัด (ซล.) ช่วงที่ท่านได้นำกองกำลังทหารกลับจาสนามรบ แต่ขาดเสบียงอาหาร จึงได้ใช้วิธีการการกวนอาซูรอให้กับกองกำลังทหารของท่าน กระทั่งต่อมาการกวนอาซูรอ ก็มีการร่วมสืบสานผ่านมายุคสู่ยุคจนถึงปัจจุบัน เนื้ออาซูรอที่ผ่านการกวนใจกระทะ ร่วม ๕-๖ ชั่วโมงอาซูรอ จะมี 2 ประเภท คืออาซูรอที่มีรสหวาน และอาซูรอที่เป็นของคาวผู้เขียนมีโอกาสร่วมกิจกรรมการกวนอาซูรอของชุมชนวังเก่า ซึ่งประธานชุมชนวังเก่า “นายธรรมนูญ อารีอับดุลซอมะ” ยังได้บอกไว้ว่า ทางชุมชนมีความปรารถนาที่จะร่วมอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีลักษณะนี้ให้คงอยู่ เพื่อคนรุ่นหลังต่อไป ที่จะให้รู้สึก ตระหนักและหวงแหนสิ่งที่ถือเป็นมรดกเหล่านี้ เพราะนับวันที่โลกเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี โลกสื่อสารไร้พรมแดน โลกแห่งสื่อสารดิจิตอล อาจทำให้เยาวชนรุ่นหลังๆ ไม่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเก่าๆ เพราะฉะนั้นทางชุมชนจึงอยากเห็นความงดงามเหล่านี้ยังคงอยู่ตลอดไป. ผู้เขียน ได้รับเชิญให้ร่วมกิจกรรมการกวนอาซูรอ เพื่อร่วมรักษามรดกทางวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของพื้นถิ่นให้คงค่า เพื่อส่งต่อมนต์ขลังมรดกด้านนี้ ยังชนรุ่นหลังให้ได้สืบสานต่อกันต่อไป