ภาพยนตร์เรื่อง "Top Gun: Meverick" เป็นภาพยนตร์ที่ผมพลาดโอกาสเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ แต่ต้องขอขอบคุณ TrueID ที่นำภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาฉาย (ราคา 99 บาท หรือใช้ 329 True Point เท่านั้น) เพราะถ้าหากใครที่เคยดูภาคแรกของ "Top Gun" คงจะรู้ดีถึงความสนุกของหนังเรื่องนี้ และภาคต่อในครั้งนี้กลับมาสนุกสมกับการรอค่อยถึง 3 ศตวรรษอย่างแน่นอนข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์https://youtu.be/l1v7wce2Lhcชื่อเรื่อง: ท็อปกัน: มาเวอริค (Top Gun: Maverick)ผู้กำกับ: โจเซฟ โคซินสกี้ (Joseph Kosinski)นักแสดงนำ: ทอม ครูซ (Tom Cruise) , ไมลส์ เทลเลอร์ (Miles Teller) , เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี (Jennifer Connelly)เข้าฉายเมื่อ: 25 พฤษภาคม 2565ช่องทางสำหรับการรับชม: True ID เท่านั้น!ความรู้สึกก่อนดูหลังจากได้ดูตัวอย่างผมมีความรู้สึกแรกเกิดขึ้นมาเลยคือ "กลัว" ไม่ใช่เพราะเนื้อหาของหนัง แต่เป็นเรื่องของความสนุกที่กลัวว่าจะเทียบชั้นตำนานอย่างภาคแรกไม่ได้ แต่ด้วยชื่อชั้นของผู้กำกับที่เคยสร้างภาพยนตร์ร่วมกับ ป๋าทอม ครูซ (Tom Cruise) จากเรื่อง "Oblivion" มาก่อนจึงทำให้พอจะไว้ใจได้ระดับหนึ่งกับภาคใหม่นี้รีวิวเนื้อเรื่อง:ต้องขอบอกก่อนว่าคนที่ไม่เคยดูภาคแรกสามารถดูภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้เข้าใจได้หายห่วง การดำเนินเรื่องเป็นแบบเรียบง่าย เปิดด้วยการปูพื้นฐานตัวละครอย่างคร่าว ๆ ให้กับคนที่พลาดดูภาคแรกเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละคร และได้ตื่นเต้นกับฉากเครื่องบิน ในช่วงต้นเรื่องถือว่าเป็นการผูกปมเนื้อเรื่องแบบง่าย ๆ แต่ใหญ่และส่งผลกระทบอย่างมาก เพราะตัวละครเอก มาเวอริค (Maverick) จะต้องต่อสู้กับตัวเองและความผิดที่เคยทำในอดีตค่อยซ้ำเติมชีวิตของเขาอยู่ตลอด เนื้อเรื่องในช่วงนี้มีความราบเรียบ ไม่มีอะไรหน้าตื่นเต้นแต่หลังจากที่หนังผ่านช่วง 30 นาที ความสนุกและความน่าติดตามก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงกลางเรื่องนี้ ความสนุกเริ่มติดลมบนเพราะเราได้เห็นความสามารถและปมปัญหาขัดแย้งต่าง ๆ ของหลาย ๆ ตัวละครหลักในเรื่อง ฉากสวย ๆ โมเมนต์เท่ ๆ มีให้ดูไม่มีเบื่อเลย และในช่วงกลางเรื่องนี้ผมชอบการกระทำของ มาเวอริค (Maverick) ที่แสดงให้เห็นว่า "ไม่ได้มีแต่พูด อย่าคิดเยอะ...ทำเลย!!" และส่วนที่ผมไม่ชอบคือการกระทำบางอย่างของตัวละครที่ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกไม่เข้าใจว่า "มันจำเป็นต้องเป็นถึงขนาดนั้นเลยหรอ?"หลังจากที่ปมปัญหาทุกอย่างที่ได้ปูมาตั้งแต่ต้นเริ่มคลี่คลายลง ความสนุกที่สุดจะอยู่ที่ท้ายเรื่อง เป็นเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม ลุ้น และสนุกที่สุดสำหรับคอหนังแอคชั่นอย่างผม เพราะท้ายเรื่องนี้ผู้กำกับคิวบู้ถือว่าจัดคิวบู้กลางเวหาได้สวยงามมาก ลุ้นและค่อยเอาใช่ช่วยกับภารกิจของตัวละครให้สำเร็จ มีการหักมุมท้ายเรื่องเล็กน้อยให้คนดูตกใจ แต่ถึงยังไงเราก็พอเดาได้อย่างแน่นอนว่าหนังมันต้องมาในเวย์นี้ตัวละคร:ทุกตัวละครในเรื่องดีแต่ไม่ที่สุด เพราะผมยังไม่ค่อยรู้สึกถึงความมีมิติของตัวละคร ยกเว้น มาเวอริค (Maverick) ที่ป๋าทอม ครูซ (Tom Cruise) เล่นได้ ป๋าสามารถถึงบทจริง ๆ อาจจะเป็นเพราะเป็นบทเดิมที่เคยเล่นก่อนที่ป๋าจะมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ จึงทำให้ป๋าเติมที่กับบทนักแสดงนำเรื่องนี้อย่างมาก แต่สำหรับตัวละครอื่น ๆ เหมือนเป็นตัวละครมิติเดียวที่ก็พอดูได้แต่อาจจะมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบซะอย่างนั้น แต่โดยรวมถึงแม้ตัวละครเด่น ๆ จะมีไม่เยอะ แต่เนื้อเรื่องของหนังกลับสนุก และชวนติดตามไปจนตลอดทั้งเรื่องงานโปรดักชั่น:ผมได้ทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำโดยให้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยน้อยที่สุด ถึงขั้นต้องทำกล้องแบบใหม่เพื่อเก็บบรรยากาศในห้องนักบินเพื่อเก็บ ทุกท่าทาง ทุกอิริยาบถ บวกกับการถ่ายทำแบบใหม่ ที่นักแสดงทุกคนจะต้องกำกับการแสดงของตัวเองเมื่อถึงเวลาเข้าฉากกลางเวหา ทั้งมุมกล้องและทุกอย่าง ต้องถ่ายเสร็จแล้วลงมาดูภาพถ่ายบนพื้นดินจากนั้นก็กลับขึ้นไปถ่ายใหม่ ผมเข้าใจว่ามันฟังเป็นเรื่องที่บ้าแต่พวกเขาทำมันไปแล้ว ถ้าจะขอเหตุผลว่าทำไม? ก็เพราะผู้กำกับอยากได้สีหน้า ความรู้สึกถึงแรงจี ของนักแสดงแบบสด ๆ ผลที่ได้คือความสมจริง ของทุกฉากในเรื่อง ส่วนเรื่องของคิวบู้ถือว่าหนังเรื่องนี้เอาอยู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นฉากดวลปืนหรือฉากต่อยเตะสักเท่าไหร่ แต่ฉากการสู้รบกลางเวหาถือว่าที่สุดในปีนี้เลย ฉายสวยมาก เป็นมุมที่เราไม่ค่อยได้เห็น แปลกตาและรู้สึกสดใหม่ทุกครั้งที่เครื่องบิน Take offเพลงประกอบ:เมื่อภาพยนตร์เริ่มตั้งแต่วินาทีแรก คนที่เคยดูภาคแรกจะตื่นเต้นและขนลุกกับเพลงประกอบเปิดเรื่องมาก เพราะมันคือเพลงเดียวกันกับ Top Gun ภาคแรก สำหรับคนที่ชอบเพลงเก่า ๆ หรือใครที่เกิดยุค 80s ภาพยนตร์สามารถชุบชีวิตเพลงเหล่านั้นให้มีชีวิตชีวามากขึ้น แต่เมื่อความตั้งใจของผู้กำกับต้องการให้ทันสมัยกับยุคปัจจุบัน เพลงที่ผมจะแนะนำจะมีด้วยกัน 2 เพลง ที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือ1. Great Balls of Fire - Miles Tellerเป็นฉากในร้านเหล้าตอนต้นเรื่อง เป็นฉากที่มีหลากหลายอารมณ์ทั้งสนุก คิดถึง รู้สึกผิด สับสน เป็นฉากที่แสดงความสัมพันธ์และเบื้องหลังของตัวละครได้ดีและขยี้ปมได้ถูกจุดhttps://youtu.be/pVcMsjyKlaM2. I Ain't Worried - One Republicเป็นช่วงที่ตัวละครและเนื้อเรื่องต่าง ๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง เพลงจะถูกเล่นในฉากริมชายหาด เป็นฉากที่ตัวละครจะมารวมตัวและเล่นกีฬาด้วยกัน บวกกับเนื้อหาของเพลงที่เข้ากันกับอารมณ์ในฉากนั้นมาก ๆ https://youtu.be/mNEUkkoUoIAสำหรับภาพยนตร์เรื่อง "Top Gun : Meverick" ใครที่พลาด ไม่ได้เข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ตอนนี้ในแอปพลิเคชั่น TrueID สามารถหามาเสพความสนุกได้ในราคา 99 บาท หรือ ใช้ 329 True Point ส่วนตัวชอบภาคใหม่มากกว่าภาคแรก ผมขอให้ 9/10 หักเพราะเนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนหรือหักมุมเป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ เรื่อยๆ เหมือนจะพยายามเน้นเรื่องโรแมนติกแต่ไปไม่สุด แต่ถ้าเรื่องของความน่าติดตามของเนื้อเรื่องและชวนลุ้นเอาใจช่วยตัวละครอันนี้ผมให้เต็มเลย จุดบอดยังมีอีกจุดคือตัวหนังไม่ได้ลงลึกเรื่องของเหตุผลว่าทำไมท้ายที่สุด มาเวอริค (Meverick) ถึงต้องเลือกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด แต่มันจะเป็นเรื่องอะไรเพื่อน ๆ สามารถหาคำตอบได้ในภาพยนตร์ตัวเต็มได้ที่ TrueID ครับเครดิตรูปภาพภาพปกบทความ1 โดย Facebook page TrueID ภาพปกบทความ2 โดย Twitter Top GunTwitter Top Gun : รูปที่1 , รูปที่2 , รูปที่3 , รูปที่4 , รูปที่5 , รูปที่6 , รูปที่7 , รูปที่8 , รูปที่9 , รูปที่10 , รูปที่11 , รูปที่12 , รูปที่13 , รูปที่14 เครดิตวีดีโอวีดีโอ1 โดย YouTube: TrueIDวีดีโอ2 โดย YouTube: Paramount Pictures วีดีโอ3 โดย YouTube: OneRepublic อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี