จังหวัด "ภูเก็ต" เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย และเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ในทะเลอันดามัน ทั้งเกาะล้อมรอบด้วยมหาสมุทรอินเดีย การเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตมีหลายวิธีเช่น ทางเรือ, ทางรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา โดยข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน เเละจังหวัดภูเก็ตยังมีสนามบินที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย คือ ท่าอากาศยานภูเก็ต ( Phuket International Airport ) นักท่องเที่ยวส่วนมากทั้งนักท่องเที่ยวไทยเเละนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็เดินทางโดยเครื่องบิน มายังสนามบินแห่งนี้ วันนี้ฉันจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต 3 วัน 2 คืน กับครอบครัวเเละเพื่อนๆของคุณพ่อ จำนวน 7 คน พวกเราอาศัยอยู่ในจังหวัด เชียงราย ในการเดินทางครั้งนี้พวกเราเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบิน บินตรงจาก เชียงราย - ภูเก็ต ของสายการบิน AirAsia ค่ะ ในการเดินทาง ครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อถึงที่หมายค่ะ พวกเราเดินทางออกจากเชียงรายประมาณ 10 โมง เเละมาถึงภูเก็ตประมาณเที่ยง จากนั้นเพื่อนของคุณพ่อที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตก็มารับพวกเราไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน "เเพครูวิทย์" ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินภูเก็ตไปยังร้านเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ เเพครูวิทย์ เป็นร้านอาหาร ซีฟู้ดที่อยู่บนแพลอยน้ำ เป็นร้านอาหารทะเลสดๆจากกระชัง ในบริเวณเดียวกันนี้ก็จะมีร้านทำนองเดียวกันติดกันหลายๆร้านทั้งในฟากของเกาะภูเก็ตและเกาะมะพร้าว ในการเดินทางไปต้องนั่งเรือหางยาว สนุกมากๆเลยล่ะค่ะ บรรยากาศก็ดี อาหารอร่อยมากๆ ยิ่งพวกเราเป็นคนเหนือพอได้มากินอาหารทะเลสดๆเเบบนี้เเล้ว อร่อยเเละชื่นใจมากเลยค่ะ พวกเรามารับประทานกันตอนกลางวัน อากาศจึงค่อนข้างร้อน เเต่คิดว่าถ้าได้มากินตอนค่ำๆ อากาศคงดีเเน่นอนเลยค่ะ ในตอนช่วงเย็นพวกเราเดินทางไปยัง "แหลมพรหมเทพ" ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ตห่างจากหาดราไวย์ประมาณ 2 กิโลเมตร และเป็นจุดที่ใช้อ้างอิงเวลาพระอาทิตย์ตกดินของประเทศไทยอีกด้วย ในบริเวณนั้นก็จะมีขอบปูนเป็นทางยาวให้นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน มีวิวสวยๆเเละมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ฉันเเนะนำว่าให้ไปก่อนพระอาทิตย์ตกดินอย่างน้อย 1 ชั่วโมงค่ะ เพราะรถติดมาก เเละหาที่จอดรถค่อนข้างยากด้วยค่ะ เเต่พอได้เห็นวิวสวยๆเเบบนี้เเล้ว ประทับใจมากค่ะ เพราะพวกเราเป็นคนเหนือก็เห็นเเต่วิวภูเขาสีเขียวๆ พอมาเห็นน้ำทะเลอันกล้างขวางขนาดนี้เเล้ว สวยงามมากเลยค่ะ ไม่เคยลืมเลยจริงๆ จากนั้นพวกเราก็เดินทางไปรับประทานอาหารเย็นกันค่ะ ทุกมื้อที่พวกเรากินก็จะเป็นซีฟู้ดหมดเลย มาภาคใต้ทั้งที อาหารทะเลสดๆนี่ถูกปากถูกใจกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ พอรับประทานเสร็จพวกเราก็เดินทางไปที่ ภูเก็ตไซม่อนคาบาเร่ต์โชว์ ( Phuket Simon Cabaret Show ) เป็นคาบาเร่ต์ สาวประเภทสองในป่าตอง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาะภูเก็ต ได้สัมผัสกับประสบการณ์แห่งความประทับใจในโชว์ที่มีความงดงามตระการตาเลยล่ะค่ะ เต็มไปด้วยเครื่องแต่งกาย ฉาก แสง สี เสียง ที่ได้กลิ่นไอของความเป็นนานาชาติ ถูกใจทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยเเละชาวต่างชาติ เป็นสถานที่แสดงความบันเทิงที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะคะ ชื่นชมสาวประเภทสองจริงๆมีความสามารถรอบด้านมากเลยค่ะ ในวันที่ 2 ของการท่องเที่ยว พวกเราเดินทางไปยังอ่าวพังงา โดยนั่งเรือขนาดใหญ่ประมาณใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ใครที่ชอบเมาเรือหรือเมารถ ควรที่จะพกยาแก้เมาไปด้วยนะคะ เพราะดิฉันเมาเรือมากเลยค่ะ เเต่ก็ยังพอไหว จากนั้นทางทัวร์ก็ให้นักท่องเที่ยวนั่งเเคนู ลอดถ้ำ เป็นอะไรที่ หวาดเสียวมากๆเลยล่ะค่ะ เพราะเราต้องนอนราบตอนที่เรือผ่านช่องเเคบภายในถ้ำ ทั้งสนุกและตื่นเต้น อ่าวพังงาที่พวกเราไปเที่ยว เป็นสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่างเรื่อง James Bond 007 (The Man with the golden gun) เป็นเรื่องปฐมฤกษ์ที่ทำให้อ่าวพังงากลายเป็น World Class Destination ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจากทั่วโลกต้องไปเยือน ภูมิใจในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยจริงๆเลยค่ะ โดยเฉพาะทะเลไทยสวยงามไม่เเพ้ชาติใดในโลก หลังจากชมวิวกันเสร็จเรียบร้อยก็มาพักรับประทานอาหารเที่ยงกันค่ะ อาหารรสชาติอร่อยมากส่วนตัวชอบกุ้งชุบแป้งทอดมากๆ จากนั้นทางทัวร์ก็จอดเเวะพักให้นักท่องเที่ยวได้ภายเรือเเคนูกันเองไปยังเกาะ เป็นการพายเรือเเคนูครั้งเเรกของดิฉันเลยค่ะ ตื่นเต้นเเละสนุกมากๆ ในวันสุดท้าย พวกเราได้ไปดำน้ำดูปะการังที่อ่าวมาหยาค่ะ เป็นการดำน้ำดูปะการังครั้งที่ 2 ของชีวิต ฉันชอบมากๆเลยค่ะ ปะการังเป็นอะไรที่สวยงามมาก พอเราได้เห็นธรรมชาติที่งดงามขนาดนี้มันทำให้รู้สึกว่าต้องกลับมาเยี่ยมชมอีก มีทั้งฝูงปลา หอยเเม่น เเละปะการัง เป็นอะไรที่อุดมสมบูรณ์มากๆอยากให้ทุกคนได้อนุรักษ์เเละรักษามันไว้ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้ดูกัน เเละน่าภูมิใจมากที่ประเทศไทยมีทะเลที่สวยงามขนาดนี้ ภาพถ่ายทั้งหมดโดย : ผู้เขียน