การใช้ชีวิตในแบบ New-Normal ในจังหวัดภูเก็ตของเราหลังจากที่ต้องใช้ชีวิตแบบ Social Distancing อยู่ห่าง ๆ กันบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้ทางจังหวัดภูเก็ตมีนโยบายผ่อนปรนให้ร้านอาหารบางประเภทกลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว โดยที่ลูกค้าสามารถนั่งทานอาหารในร้านได้ เช่น ร้านขายอาหารตามสั่งทั่วไป, ร้านกาแฟ, ร้านขายเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์, ร้านเบเกอร์รี่, ร้านขายไอศกรีม, ทั้งนี้ต้องเป็นร้านที่มีขนาดไม่เกินสองคูหา, ไม่ใช่ร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า (สถานบริการต่าง ๆ เช่น ผับ, บาร์ ยังคงปิดอยู่) ทุกร้านที่จะเปิดให้บริการต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น ต้องมีระบบการระบายอากาศที่ดีพอ, จัดโต๊ะอาหารให้ห่างกัน 1-2 เมตร, จำกัดจำนวนคนที่ใช้บริการแต่ละโต๊ะ, ต้องงดเว้นบริการที่ลูกค้าต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น อุปกรณ์คีบจับอาหาร (ไม่รวมบุฟเฟ่ต์ ซึ่งยังคงห้ามไม่ให้มีการขาย), ต้องทำความสะอาดโต๊ะอาหารทันทีหลังการใช้บริการของลูกค้าแต่ละคน, ยังไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหาร ทางร้านค้าแต่ละแห่งต้องปรับตัวให้เข้ากับ new-normal ในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังต้องคงไว้ซึ่งคุณภาพของอาหารและการบริการ โดยต้องให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเชื่อมั่นในความสะอาดมีการคัดกรองที่ได้มาตรฐาน เช่น ก่อนที่ลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการในร้านมีการตรวจวัดอุณหภูมิ, มีเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการตามจุดต่าง ๆ หรือมีกระดาษเช็ดมือที่ผสมแอลกอฮอล์ไว้บริการแทนที่กระดาษทิชชู่แบบเดิม, จัดเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับลูกค้าเช่น มีด, ส้อม, ช้อน, และกระดาษทิชชู่แพ็คไว้เป็นชุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางของร้านทุกหนึ่งหรือสองชั่วโมง, อาจต้องใช้พนักงานเพิ่มมากขึ้นในการดูแลลูกค้าเพื่อให้บริการแบบเป็นส่วนตัวมากที่สุด, ไม่รับลูกค้ามากเกินไปในช่วงเวลาเดียวกัน หรือต้องให้มีการสำรองที่นั่งล่วงหน้า, บางร้านอาจใช้ฉากกั้นบนโต๊ะอาหารสำหรับคนที่มาใช้บริการด้วยกัน รวมทั้งต้องหาวิธีการที่จะให้บริการลูกค้าในแบบที่ลดการสัมผัสให้มากที่สุด ตั้งแต่การนำเสนอรายการอาหาร, การสั่งอาหาร, การเสิร์ฟอาหาร, การชำระเงิน (เช่นจ่ายค่าอาหารแบบพร้อพเพย์ แทนการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต) ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดหรือหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค หลาย ๆ คนอยากออกจากบ้านเพื่อสังสรรค์ หรือไปทานอาหารนอกบ้านบ้าง หลังจากที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว บางคนเริ่มที่รีแล็กซ์ตัวเองแล้ว คือไม่เคร่งครัดเหมือนเดิม จะเห็นได้ว่าบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้าน หรือในที่สาธารณะหรืออาจจะใส่บ้างไม่ใส่บ้าง ซึ่งอันตรายมากเพราะโควิด-19 ยังไม่หายไปไหน เพียงแต่เราสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นในเวลานี้เราสามารถออกไปทานอาหารนอกบ้านได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณะสุข คือต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ, กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ใช้ช้อนกลาง (ส่วนตัว), ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร จากคนอื่น, เลือกใช้บริการร้านที่ดูแล้วสะอาด, ร้านที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐเพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคโควิด-19 ในปัจจุบันมีร้านอาหารหลายแห่งออกโปรโมชั่นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ร้าน เช่นให้ส่วนลด 20% ตลอดเดือนพฤษภาคม, หรือมีของแถมหากทานอาหารครบจำนวนที่กำหนด เป็นต้น บางครั้งส่วนลดอย่างเดียวก็ไม่สามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการได้ หากทางร้านไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังไม่อยากออกไปใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ โดยส่วนตัวแล้วเราเลือกร้านที่สะอาด มีการคัดกรองได้มาตราฐาน ดูโปร่ง โล่ง นั่งสบายไม่แออัด โดยตั้งใจไว้ว่าจะออกไปทานอาหารนอกบ้านไม่เกินอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง หากทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การผ่อนคลายในระยะที่ 2 และระยะต่อไป ซึ่งจะทำให้เราอยู่กับโควิด-19 แบบ new-normal ได้ @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน