ป่าตอง ต้องลองไป : บันทึกการเดินทางของนางฟ้า ถามคนเฒ่าเก่าแก่ ชื่อ "โกกุ่ย" ว่าทำไมต้องเรียกว่า "ป่าตอง" ท่านตอบว่า "เดาๆ เอาว่า เมื่อสมัยก่อนคงปลูกกล้วยเยอะ ใบตองน่าจะแยะ" เล่ากันขำๆ แต่ก็น่าจะจริง ... เรื่องเล่า ป่าตอง เมื่อสมัยก่อน ในครอบครัวเศรษฐีนายหัวชาวภูเก็ตดั้งเดิม ใครเป็นลูกรักของพ่อแม่ พ่อแม่จะยกที่ดินแถบในเมืองให้ จะได้ไม่ต้องลำบาก ทำมาค้าขายง่าย ไม่เสี่ยงอันตรายจากการเดินทาง ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากคลื่นลมทะเล ส่วนใครเป็นลูกชัง พวกลูกห่างเหินไม่สนใจพ่อแม่ พ่อแม่ก็จะยกที่ดินแถวริมทะเลให้ โดยเฉพาะที่ทางแถวป่าตอง ซึ่งติดทะเลคลื่นลมแรงไปไหนมาไหนยากลำบากเพราะมีเขาสูงกั้นไว้ในทุกทาง แต่ในยุคปัจจุบันลูกชังทั้งหลายที่ครอบครองที่ดินที่ป่าตองกลายเป็นเศรษฐีเป็นนายหัวกันทั้งนั้นเพราะป่าตองกลายเป็นดินแดนสวรรค์ของการท่องเที่ยว ภูเก็ตมีสนามบินนานาชาติ รถยนต์รถบัส เรือยอร์ช เรือเดินสมุทร มีเดินทางไปถึงป่าตองสะดวกสบาย ป่าตองจึงเป็นที่ชื่นชอบของนักเดินทางทั้งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ และแบบท่องราตรี Night life ป่าตองกลายเป็นเมืองเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตและของประเทศไทย มีบันทึกอย่างเป็นทางการว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2502 แถวๆ วัดสุวรรณคีรีวงก์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ 9 ท่านเสด็จไปเยี่ยมเยียนสอบถามสารทุกข์สุขดิบของประชาชน และได้เดินเท้าพร้อมๆชาวบ้านไปพักผ่อนยังน้ำตกวังขี้อ้อน ในสมัยนั้นการเดินทางไปป่าตองแสนลำบาก ต้องขับรถไปตามไหล่เขาสูงชันและคดเคี้ยว พระองค์ขับรถจี๊ปเข้าไปด้วยพระองค์เอง ยังความปราบปลื้มใจให้ชาวป่าตองเป็นล้นพ้นจนทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวชอบไปเล่นน้ำ เดินชายหาด เล่นเจ๊ตสกี เล่นพาราชู้ต รวมทั้งเล่นกระดานโต้คลื่น ที่ป่าตอง พวกเขามั่นใจว่าที่ป่าตอง มีความปลอดภัยทางน้ำสูง และไว้วางใจในเรื่องระบบไลฟ์การ์ด Lifeguard ของป่าตอง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ชายหาดป่าตองมีการปักธงเตือนว่าลมแรงคลื่นสูงไม่ควรลงเล่นน้ำด้วยธงสีแดง มีโครงการตาสัปปะรด ช่วยกันสอดส่องดูแลซึ่งกันและกัน โดยติดกล้อง CCTV ทั่วหาดป่าตอง รวมทั้งสถานบันเทิงและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วป่าตอง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวมากับนักท่องเที่ยว ในข้อดีก็จะมีข้อเสียอยู่บ้างเล็กน้อย เสียอย่างเดียวการเดินทางไปป่าตอง ยังต้องขับรถข้ามเขาไป ทั้ง 3 ทาง ไม่ว่าจะขับไปจากในตัวเมืองภูเก็ต จากกะรน และ จากกมลา เคยมีความพยายามจากชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในหลายยุคหลายสมัยในการผลักดันให้มีอุโมงค์ข้ามเขาป่าตอง โดยไม่ต้องขับรถข้ามเขาขึ้นไป เพื่อลดอันตรายจากอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งความพยายามเหล่านั้นยังไม่บรรลุเป้าหมาย หลายต่อหลายครั้งที่เป็นข่าวใหญ่ มีคนจำนวนไม่น้อยเคยประสบอุบัติเหตุจากการเดินทางไปท่องเที่ยวป่าตอง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มักเกิดจากคนขับเหล่านั้นไม่ชินทาง คนขับไม่ชำนาญการขับรถขึ้นเขาสูง ถนนมีสภาพโค้งและลาดชันมาก บางช่วงลื่น รวมทั้งสภาพรถเก่าที่ขับขึ้นไปโดยไม่มีตรวจสภาพ โดยเฉพาะรถบัสหมดสภาพที่รับนักท่องเที่ยวจำนวนมากๆ และมาจากพื้นที่นอกเกาะภูเก็ต เมื่อมีอุบัติเหตุบ่อย จึงส่งผลกระทบทำลายภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต ทำให้คนทั่วโลกมองว่าภูเก็ตไม่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภูเก็ตในระยะยาว นางฟ้าเอง ก็เคยมีอุบัติเหตุแต่ไม่เคยเข็ดหลาบที่จะไปป่าตอง ครั้งนั้นจากการขับรถยนต์ขึ้นเขาป่าตอง เมื่อเดือนเมษายนปี 2542 ทั้งๆที่มีความชำนาญในการขับรถขึ้นลงเขาลูกนั้นนับร้อยครั้ง อุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดจากความไม่ชำนาญของคนขับรถบัสคู่กรณีและสภาพรถบัสที่ไม่พร้อมในการขึ้นเขาป่าตอง ทำให้เพลาหลุดรถบัสตกเขาลงมา โครมลงที่รถยนต์ที่นางฟ้ากำลังขับขึ้นไป บอกได้เลยว่า เละ ทั้งคนทั้งรถ แต่ในความโชคร้ายในครั้งนั้น ก็ยังมีความโชคดีที่รอดชีวิต มีลมหายใจได้อยู่ต่อจนมาถึงทุกวันนี้ และแน่นอนยังชื่นชอบที่จะไปเล่นน้ำ นั่งเล่นชายหาด หาของอร่อยๆ ดินเนอร์ชมพระอาทิตย์ตกที่ป่าตองกับเพื่อนๆ เสมอๆ ช่วงปี พ.ศ.2561 มีความพยายามจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ชาวบ้าน ประชาชนผู้สัญจรเดินทางข้ามเขาไปป่าตองให้มากขึ้น โดยออกมาตรการที่เข้มแข็งให้รถบัสที่รับส่งนักท่องเที่ยวตรวจสภาพรถให้พร้อมก่อนผ่านขึ้นลงเขาป่าตอง และ มีมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นในการจำกัดระยะเวลาการขับรถขึ้นลงเขาป่าตองของรถบัส โดยมีเวลาห้ามรถทัวร์ รถบัส ขึ้นเขาป่าตอง ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่สุด และน่าดีใจที่มาตรการเหล่านี้ส่งผลดีในการช่วยลดอุบัติเหตุที่เขาป่าตองได้ในระดับที่น่าพอใจมาก ระยะเวลา 20 ปี ช่วงปี พศ.2542 ถึง พศ.2562 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวมากขึ้น พอสรุปได้ว่านักท่องเที่ยวไม่เคยสนใจว่าป่าตองจะเดินทางไปยากแค่ไหน ไม่สนใจว่าป่าตองจะมีอุโมงค์หรือไม่ ไม่ว่าจะเดินทางไปยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็ยังอยากไปเที่ยวที่ป่าตอง ตามสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คนทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาภูเก็ต มาแล้วก็มาอีก เพราะความสวยงามที่ร่ำลือกันปากต่อปาก นักท่องเที่ยวทั่วโลกจึงยกให้ป่าตอง เป็น Paradise ยกให้เป็น สวรรค์ของนักท่องเที่ยว เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมา นักท่องเที่ยวบางคนเล่าว่าเพื่อนๆบางคนของพวกเขา เก็บเงินทั้งชีวิตเพื่อจะการเดินทางมาท่องเที่ยว ป่าตอง สักครั้ง ต้นปี มกราคม 2563 ถึง 1 กรกฎาคม 2564 หนึ่งปีหกเดือนเต็ม ที่โควิดมาเยือนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวจะหยุดชะงักทั่วโลก ส่งผลด้านลบต่อสังคม เศรษฐกิจ การงาน และการเงิน รวมไปถึงสุขภาพของผู้คน แต่สิ่งดีๆ ก็ยังมี นั่นคือ ธรรมชาติที่ป่าตองฟื้นตัวดีขึ้น หาดทรายสวยขึ้น น้ำทะเลใสสะอาดขึ้น สัตว์ทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารของโลกเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขยะลดลง อากาศดีขึ้น น้ำจืดที่จะนำไปผลิตน้ำประปาบนเกาะภูเก็ตมีเพียงพอ สภาพแวดล้อมดีขึ้น แม้วันนี้ ปี พ.ศ. 2564 ป่าตอง ยังไม่มีอุโมงค์ แต่ความสะอาดสวยงามของทะเล ชายหาด ท้องฟ้า ธรรมชาติ ตลอดจนรสชาติของอาหารทะเลสดๆ และความน่ารักของผู้คนที่ป่าตอง ยังคงเป็นสิ่งสวยงามคู่ภูเก็ต เปรียบเป็นดั่ง “นางงามแห่งท้องทะเลอันดามัน” ที่ ยั่วยวน ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศบนโลกให้ไปชมความงามของป่าตองแดนสวรรค์เสมอมา และวันนี้ ป่าตอง ภูเก็ตก็พร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง แล้วคุณล่ะ อยากไปเที่ยวป่าตองสักครั้งในชีวิตไหม? ภาพทุกภาพ โดยนางฟ้า ผู้เขียน 🏕 หาที่เที่ยวใหม่ๆไว้จัดทริปวันหยุดหน้ากับคอมมูนิตี้ เที่ยวไปให้สุด ได้เล้ย 🚐✨ วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !