นับตั้งแต่ ผู้เขียน ได้จับกล้องถ่ายภาพแล้วลองฝึกถ่ายภาพตามวิธีการต่าง ๆ ที่ได้เข้าร่วมอบรมมา และ เปิดศึกษาจากช่อง Youtube ต่าง ๆ แนวการถ่ายภาพที่ผู้เขียนชอบอีกแนวก็คือ การถ่ายภาพธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ ให้ออกมาในมุมมองของภาพแนวศิลป์ แนว Art เป็นอีกจินตนาการหนึ่งที่อยากถ่ายทอดเก็บไว้ในภาพ ส่วนหนึ่ง เพราะง่ายในการหา Location เพราะมีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหใกล้ที่พัก ป่าธรรมชาติ ข้างทาง มีให้เราได้หาภาพศิลปะได้หมด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหยุดมองมันสักครู่ เพื่อดูและหาความหมายของมันหรือไม่เท่านั้นเอง วันนี้ ผู้เขียนไม่มีโปรแกรมไปทริบที่ไหน ก็เลยสะพายกล้องออกไปหาส่องภาพหลังหอ เพื่อไปหามุมถ่ายภาพ กิ่งไม้ ใบไม้ มาฝากเพื่อน ๆ กัน โดยหลังหอจะมีทั้งต้นกล้วย ต้นมะม่วง ต้นมะละกอ ต้นยาง แม้กระทั่งต้นมะอึกก็มี เป็นต้น อุปกรณ์กล้องถ่ายภาพที่ผู้เขียนใช้ในการถ่ายรูปมาประกอบบทความ คือ กล้อง DSLR Canon 600D และเลนส์ Kit 18-55 mm. ติดกล้อง เป็นเลนส์พื้นฐานของกล้องตัวนี้ เดี๋ยวผู้เขียนจะพาไปชมภาพที่ได้นะครับ ว่าเป็นยังไงเริ่มที่ภาพใบตองกล้วย ผู้เขียนเห็นสีของใบตองกล้วยที่แตกต่างกัน ที่มีความต่างกัน บวกกับการขาดของใบตองกล้วยพอดี ทำให้ดูมีมิติของภาพ เส้นสายลายบนใบตอง สี และแสงเงา ดูแล้วลงตัวพอดี ลองหามุมแบบนี้ดูนะครับใกล้ ๆ ต้นกล้วยมีต้นบุกเล็ก ๆ อยู่ต้นหนึ่ง ตรงยอดใบ ผู้เขียนสังเกตเห็นเจ้าหอยทากตัวหนึ่งกำลังเกาะอยู่ เดาว่ามันน่าจะกัดกินใบบุกนี้เป็นอาหารแน่ ๆ เพราะหลายใบแหว่ง ๆ วิ่น ๆ อยู่ เลยจัดการใช้กล้องเสยขึ้นบน ทำให้ได้ภาพลักษณะมุมแปลก ๆ สวย ๆ แบบนี้หลังหอพักจะเป็นป่าต้นยางริมป่าจะมีหลากหลายต้นไม้ปลูกหรืองอกอยู่ นี่ก็อีกต้นหนึ่ง คือ โซน หรือ ทูน แล้วแต่พื้นที่ในการเรียกชื่อ มันก็คือ ต้นบอนชนิดหนึ่ง แต่สามารถกินได้ ผู้เขียนเห็นลักษณะการซ้อนของใบและลายเส้นสีขาวบนใบน่าสนใจดีก็จัดมุมถ่ายภาพซะเลยแม้แต่ใบมะม่วง ที่อยู่ตรงชายคาหลังคาหอพัก เมื่อมองขึ้นไป ผู้เขียนเห็นสีเขียวของใบมะม่วงตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า รวมถึงลักษณะของใบที่ชี้ไปในทิศทางต่าง ๆ กับแสงแดดที่ส่องทะลุลงมาที่ใบของมะม่วงดูแล้วสวยดีทีเดียวครับ ไม่ยากเลยในการหามุมถ่ายภาพแนวนี้ เพียงแต่ต้องสังเกตและจัดมุมภาพให้ดี ๆ ก็ใช้ได้แล้วครับอีกภาพสำหรับการถ่ายภาพ ในวันที่ท้องฟ้าสดใส มีเมฆสีขาว การหาแบบฉากหน้าที่เป็นใบไม้ ต้นไม้ กิ่งไม้ มาเข้าฉาก ทำให้เราได้ภาพที่มีโทนสีตัดกัน สีเขียวกับสีฟ้า กับปุยเมฆสีขา ความโดดเด่นของใบไม้ จะเด่นทันที สิ่งที่ควรระวัง เงยหน้านาน ๆ หน้ามืดได้นะครับผู้เขียนเดินอ้อมไปที่ ริมรั้วของหอพัก ก็เจอกับดอกตำลึงสีขาว ภาพนี้ที่ผู้เขียนยกกล้องถ่ายเพราะเห็นดอกสีขาวของตำลึงกับฉากหลังที่เป็นสังกะสีสีทึบอีกข้างเป็นผนังปูนสีขาวอยู่ทำให้ ดอกตำลึงโดดเด่นขึ้นมาทันที บางครั้งเราลองหยุดมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ให้มองทะลุไปถึงข้างหลัง เราอาจจะได้เฟรมภาพ ๆ หนึ่งที่ลงตัวและมีความหมายไม่น้อยทีเดียวแถมด้วยภาพที่ดูให้ความหมายอึกภาพนั่นคือ เถาของตำลึงเกาะเกี่ยวอยู่กับลวดหนามเพื่อพยุงดอกและใบไว้ มันคือความพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต เราอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าแต่ละสิ่งจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม พยายามเลือกมุมที่ให้เห็นแขนของเถามาเกาะเกี่ยวลวดหนาม เพื่อให้เห็นพลังแห่งแขนยึดนี้ว่ามีค่าเพียงใดยังไม่หมดนะครับ ยังมีพริกต้นเล็ก ๆ น่าจะเกิดเอง อยู่ต้นหนึ่ง ผู้เขียนเห็นถึงความน่ารักของเม็ดพริกเม็ดนี้ คือ เม็ดเขาเล็กนิดเดียวแต่สุกแล้ว สีแดงของเม็ดตัดกับสีเขียวของใบและฉากหลัง ทำให้ได้ภาพสวยไปอีกแบบ ปรับมุมกล้อง ปรับองค์ประกอบภาพ ปรับโฟกัส ได้แล้ว ก็กดซัตเตอร์เลยสิครับ งานนี้ ได้ภาพสวย น่ารักมาอีกภาพกำลังว่าจะกลับเข้าไปข้างในหอแล้วเพราะร้อนมาก ๆ สายตาก็แว๊บไปเห็นลูกมะอึก ที่กำลังสุก สีออกเหลืองส้ม มีขนเต็มลูก อยู่ที่กิ่ง 1 ลูก เอาใบไม้แห้งสีน้ำตาลเป็นเป็นฉากข้าง ๆ ภาพ เพื่อให้ภาพมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เห็นแล้วนึกถึงน้ำพริกมะอึกเลยทีเดียว แต่แบบนี้คงทำเองไม่เป็น ขอแค่ถ่ายภาพสวย ๆ สักภาพ แล้วปล่อยให้เค้าหล่น แพร่เผ่าพันธุ์ของเขาต่อไปดีกว่า เห็นไหมครับ ว่า การถ่ายภาพนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่เราหามุม หาแบบ หาเรื่องราว ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถถ่ายภาพออกมาให้เป็นศิลป์ได้ เมื่อเวลาผ่านไป เราสมารถย้อนกลับมาดูได้ ดูทีไรก็เพลิน เพราะว่า เมื่อผ่านไปอีกสักระยะ แบบที่เราถ่ายไว้นี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไป การเก็บบันทึกช่วงหนึ่งเอาไว้ จะเป็นความรู้สึกภูมิใจ เวลาเรากลับไปยืนนะจุดนั้น มุมนั้น อีกครั้ง ฉะนั้น ผู้เขียนจึงชอบที่จะถ่ายภาพไปเรื่อยเวลาไปไหน มาไหน สถาพแวดล้อมรอบตัว เล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็มีความหมายได้เหมือนกัน มาฝึกถ่ายรูปกันนะครับ ไม่ต้องไปไกล ิหน้าบ้าน หลังบ้าน ป่าริมทางแถวบ้าน ล้วนแล้วแต่มีมุมดี ๆ ให้เราได้เลือกถ่ายได้เสมอ ภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน