ในศตวรรษที่ 21 นี้ โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ (Globalization) อย่างเต็มตัว นับตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดการล่มสลายของจักรวรรดิและเจ้ามหาอำนาจเดิม สู่การก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจใหม่ที่ยิ่งใหญ่ 2 ขั้ว เกิดสงครามตัวแทนที่รุนแรงทั้งเอเชียตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเหนือ จนเมื่อสงครามเย็นสิ้นสุดลง หลายประเทศได้รับความบอบช้ำจากสงคราม กลยุทธ์และยุทธศาสตร์ของแต่ละรัฐกลับเปลี่ยนแปลงไป แสวงหาเส้นทางที่เน้นสันติวิธีมากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีทางการทูต (Diplomacy) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation) รวมไปถึงองค์การระหว่างประเทศ (International Organization) เพื่อรักษาความมั่นคงด้านต่าง ๆ ที่สำคัญคือ ต้องรักษาไว้ซึ่งอำนาจ (Power) อิทธิพล (Influence) และถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน (Balance of Powers)อย่างไรก็ตามการจะรักษาไว้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลของตนเอง จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อไม่ต้องเกิดสงครามและการสูญเสีย แต่ละรัฐจึงใช้สิ่งที่เรียกว่า "อำนาจละมุน หรือ Soft Power" (ซึ่งถูกให้คำนิยามโดย Joseph Nye นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน) ในการถ่ายทอดความเป็นตัวตนของประเทศตนเองผ่านสื่อ การศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อควบคุมความคิดคล้ายกับเป็นการโฆษณาตามหลักการตลาด โดยประเทศที่ได้รับและซึมซับ Soft Power นั้นไป จะเกิดความชื่นชอบ คล้ายกับตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐที่เผยแพร่อย่างช้า ๆ ไปโดยปริยายทีนี้เรามาดูว่า Soft Power ที่แต่ละประเทศนั้นมีอะไรกันบ้าง โดย Feel Good Studio ได้ทำการรวบรวม 10 สุดยอด Soft Power มาฝากทุกคนกัน หากพร้อมกันแล้วเราไปดูกันเลย..!!!1) อุตสาหกรรมภาพยนตร์ : สหรัฐอเมริกาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่า วงการภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Hollywood นั้น สามารถตีตลาดได้ทั่วโลกจริง ๆ ทุกคนในที่นี้คงไม่มีใครไม่เคยดูหนังฮอลิวูดอย่างแน่นอน อย่างน้อยในชีวิตนี้ต้องมีอย่างต่ำ 2-3 เรื่องแหละ ซึ่งการผลิตภาพยนตร์ส่งออกไปยังทั่วโลกของสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะแนวไหนก็ได้รับความนิยมไปเสียหมด และส่วนใหญ่หากเป็นหนังแอคชั่นก็มักจะมีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้รู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลยว่าอเมริกาคือฝั่งพระเอก แสดงถึงความเป็นมหาอำนาจอยู่ตลอด เมื่อเราดู เราเกิดความชื่นชอบ แน่นอนว่าภาพยนตร์ฮอลิวูดมีอิทธิพลกับเราแล้ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างอำนาจของรัฐ อิทธิพล และอำนาจต่อรองในทางการเมืองของอเมริกาผ่าน Soft Power ที่เรียกว่า สื่อภาพยนตร์ นั่นเองหนังฮอลิวูดนี่อยู่คู่กับชีวิตผมเลยก็ว่าได้ มีมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย สู่รุ่นพ่อรุ่นแม่ และยังฮิตสุดๆ ในยุคของผม ถ้านึกถึงหนังผมก็จะนึกถึงหนังฮอลิวูดเป็นอันดับแรก ซึ่งแต่ละค่ายไม่ว่าจะ Universal Studio, 20th Century Fox, Warner Bros., Sony Pictures เป็นต้น ที่แข่งขันกันผลิตหนังดีมีคุณภาพ สนุกน่าติดตามให้เราได้รับชมกันตลอด และทำรายได้ถล่มทลายอย่างไม่ขาดสาย ที่สำคัญคือในโรงหนังบ้านเราที่คู่กับหนังไทยก็จะมีหนังของอเมริกานี่แหละที่มีจำนวนโรงหนังและรอบฉายมากที่สุด สำหรับผมแล้วหนังของอเมริกามันให้ความรู้สึกอินจนสามารถดึงเราเข้าไปอยู่ในนั้น และทำให้เราเชื่อได้อย่างสนิทใจคล้ายกับมันคือเรื่องจริงเลยที่มา : ฮอลลีวูดในฐานะเจ้าโลก2) วัฒนธรรม K-Pop : เกาหลีใต้ต้องบอกเลยว่า K-Pop นี่ป๊อบของจริง เพราะโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากฟื้นฟูประเทศจากสงครามเกาหลี ประเทศเกาหลีใต้ก็มุ่งเน้นพัฒนาประเทศจนกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียในระดับใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและจีน หนึ่งในนั้นคือการผลักดันวัฒนธรรมของเกาหลีสู่สายตาคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นละคร ซีรีส์ การท่องเที่ยว อาหาร รวมไปถึงอุตสาหกรรมเพลง ดาราและศิลปินให้เป็นที่รู้จัก เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะนอกจากจะได้ขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจแล้ว ยังสามารถส่งออกวัฒนธรรมสู่คนทั่วโลกให้ชื่นชอบ ติดตาม รวมถึงทำตามอีกด้วย ถือว่าผู้นำประเทศมองเกมขาดและเลือกใช้กลยุทธ์ได้อย่างดีทีเดียว จนตอนนี้อิทธิพลของ K-Pop ได้พุ่งทยานสูงขึ้นเรื่อย ๆวัฒนธรรมเกาหลีใต้เรียกได้ว่าอยู่คู่คนไทยมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นสื่อหนัง ซีรีส์ ละครต่างๆ ที่ทำเอาติดงอมแงม เพลงและศิลปินที่ฮิตซะเหลือเกิน ยิ่งตอนนี้กระแสเกิร์ลกรุ๊ปบอยแบนด์ดังไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Blackpink, BTS, GOT7, NCT บลาๆ สำหรับตัวผมที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับศิลปินเกาหลี แต่ก็ยังได้ยินเสียงสือเสียงเล่าอ้างจากคนรอบตัวอยู่เสมอที่มา : กลยุทธ์ K-POP สร้างชาติเกาหลี ครองโลกด้วยวงการบันเทิง3) กีฬาฟุตบอล : อังกฤษไหนใครชอบดูพรีเมียร์ลีกยกมือขึ้น แน่นอนแหละหากพูดถึงฟุตบอลก็ต้องที่อังกฤษนี่แหละ เพราะนอกจากจะเป็นประเทศต้นกำเนิดแล้ว อังกฤษยังมีสโมสรฟุตบอลดัง ๆ หลายแห่งทั่วประเทศ ซึ่งขวัญใจชาวไทยส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นแมนยู-ลิเวอร์พูล รวมไปถึงตอนแข่งฟุตบอลโลกนับสถิติดูแล้วคนเชียร์ทีมอังกฤษเยอะมาก แม้จะไม่ได้มาซึ่งแชมป์แต่เราก็ยังจะคงเชียร์ต่อไป (ฮืออ..เรื่องมันเศร้า)ต้องบอกเลยว่าความนิยมในกีฬาฟุตบอลของคนอังกฤษนั้นถือว่าป๊อบมาก ๆ แล้วยังมีถ่ายทอดสดไปทั่วโลกอีกด้วย นี่แหละครับคือจุดขายอย่างเป็นรูปธรรมของประเทศอังกฤษในฐานะ Soft Power ที่มีอิทธิพลต่อคนทั่วโลกถ้าพูดถึงฟุตบอลสิ่งแรกที่ผมนึกถึงก็คือ พรีเมียร์ลีกที่จะต้องอดหลับอดนอนหรือตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมาดูกันเลยทีเดียว ที่สำคัญคือภาพสวย เสียงชัด ได้อรรถรสเป็นที่สุด (ทาง True เขามีแพ็กเกจดูพรีเมียร์ลีกด้วยน้า) ผมไปไหนมาไหนก็จะได้ยินคนพูดถึงคู่บิ๊กแมทช์วันแดงเดือด หรือไม่ก็คุยขิงกันไปมา ข่มกันเรื่องผลแพ้ชนะบ้าง ราวกับว่าทีมเหล่านั้นอยู่ในสายเลือดหยามได้แต่ยอมไม่ได้ที่มา : เรื่องเล็กๆ ที่ทำให้พรีเมียร์ลีกเป็น The Greatest Show on Earth4) สื่อการ์ตูน : ญี่ปุ่นหากพูดถึงประเทศที่ส่งออกการ์ตูนและสามารถตีตลาดได้ทั่วโลกต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ ไม่ว่าจะทั้งฉบับหนังสือการ์ตูน (มังงะ) หรือรูปแบบอนิเมชั่น (อนิเมะ) ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุก น่าติดตาม เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังมีสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะออกจำหน่ายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ์ด โมเดล ฟิกเกอร์ต่าง ๆ ในรูปแบบทั้งของเล่น ของใช้ และของสะสม และด้วยการตลาดที่ยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นนี่แหละที่ทำเอาผู้ใหญ่หลายคนทั่วโลกยังคงสนุกและชื่นชอบอยู่กับ Soft Power อันนี้จนเลิกไม่ได้จริง ๆ ถือว่าขั้นเทพจริง ๆ ครับญี่ปุ่นเนี่ยสำหรับผมที่โตมากับการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น โดราเอมอน, ดราก้อนบอล, วันพีซ, ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน, ชินจัง, นารูโตะ, มากส์ไรเดอร์ต่างๆ หรือขบวนการเรนเจอร์ต่างๆ ฯลฯ รู้สึกว่ามันคือกลิ่นอายที่เราคุ้นเคย ทำเอาบ้าซื้อของเล่นพร้อมแปลงร่างเล่นกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ดูเอลการ์ดยูกิ ชนลูกข่างเบย์เบลด สารพัดการละเล่น ที่สำคัญคือ ร้านหนังสือการ์ตูนหน้าโรงเรียนจะเป็นร้านที่คนแน่นที่สุด รองจากร้านเกมเสมอที่มา : อุตสาหกรรมการ์ตูนญี่ปุ่นใหญ่ขนาดไหน ?5) อุตสาหกรรมรถยนต์ : เยอรมนีนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องเบียร์แล้ว เยอรมนียังขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์อีกด้วย โดยเยอรมนีเป็นประเทศที่พัฒนาอันดับต้นๆ ของโลก และมีความเจริญด้านอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เรียกง่ายๆ ว่าเป็นคู่แข่งกับมหาอำนาจอย่างอังกฤษในสมัยนั้นเลย เมื่อเราพูดถึงรถยนต์เนี่ยก็คงจะต้องนึกถึงรถยนต์หรูๆ สวยๆ ดูแพง แน่นอนครับว่ามาถูกที่แล้ว เพราะเยอรมนีคือเจ้าของบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz, Volkswagen, Audi, Porsche, BMW, Opel, Smart เป็นต้น แค่พูดชื่อทุกคนก็อ๋อแล้วจริงมั้ยครับ ด้วยความที่เป็นแบรนด์ชื่อดังและได้รับความนิยมขนาดนี้ จะไม่เป็น Soft Power ของเยอรมนีได้อย่างไรกัน แน่นอนว่ามีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ของคนทั่วโลกแน่นอนต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่สายนิยมรถยนต์เท่าไหร่ รถส่วนมากที่ใช้ก็คือรถญี่ปุ่น แต่หากเวลาได้ยินคนรอบข้างพูดถึงรถหรู รถแพง ก็คงหนีไม่พ้นรถยนต์จากเยอรมนี อย่างเบนซ์, บีเอ็ม, พอร์ช ยิ่งใครมีใช้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้คนที่มีเนี่ยเนื้อหอมไปโดยปริยายเลยที่มา : ทำไม เยอรมนี จึงเป็นประเทศแห่ง รถยนต์?6) แฟชั่นสินค้าแบรนด์เนม : ฝรั่งเศส“พี่ไม่มีหลุยส์วิตตอง มีแต่หนี้ก้อนโต...” แน่นอนอยู่แล้วครับหากพูดถึงวงการแฟชั่นก็ต้องสินค้าแบรนด์เนมจากฝรั่งเศสนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Chanel, Hermès, Dior, Yves Saint Laurent, Givenchy, Celine เป็นต้น ซึ่งเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ สาวๆ สายแฟชั่นทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ งดงาม ดึงดูดให้ชวนหลงใหลเหมือนกับต้องมนต์ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงไปจนถึงสูงมาก หากใครได้ครอบครองสินค้าแบรนด์ดังเหล่านี้หละก็ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอด Soft Power ที่สายแฟชั่นทั่วโลกต่างพลาดไม่ได้จริงๆผมมักเห็นและได้ยินเกี่ยวกับของแบรนด์เนมอยู่เสมอ แค่ออกไปเดินห้างก็สัมผัสได้ถึงอิทธิพลของแฟชั่นจากฝรั่งเศสแล้ว กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า แว่นกันแดด ส่วนใหญ่มาจากแบรนด์ดังฝรั่งเศสทั้งนั้น เป็นของใช้ยอดนิยมที่สายแฟชั่นไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งที่มา : แฟชั่นฝรั่งเศส7) ศิลปวัฒนธรรม : อิตาลีประเทศอิตาลีคือเจ้าแห่งศิลปวัฒนธรรมจริงๆ ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโรมันที่โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ยุคเรเนซองส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ที่โดเด่นในศิลปะทุกแขนง และคงความงดงามเหล่านั้นไว้มาจนถึงปัจจุบัน สามารถชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมในกรุงโรม มหานครศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันรุ่งเรือง อย่างสนามโคลอสเซียมและมหาวิหารต่าง ๆ ประติมากรรมสุดคลาสสิกอย่างรูปปั้น เช่น รูปปั้นเดวิด เป็นต้น จิตรกรรมที่โด่งดังอย่าง The Last Supper, ปีกัสโซ่, โมนาลิซ่า เป็นต้น เรียกได้ว่าศิลปวัฒนธรรมคือจุดแข็งของประเทศอิตาลี และถือเป็น Soft Power เพราะเมื่อพูดถึงศิลปะ ใครๆ ก็ต้องนึกถึงอิตาลีเป็นอันดับแรกผมเป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะสมัยอาณาจักรโรมัน ดังนั้นหนีไม่พ้นเรื่องศิลปะอย่างแน่นอน สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น สง่างดงาม และมีเอกลักษณ์หาที่ใดเทียบได้ รวมถึงประติมากรรมและจิตรกรรมจากยุคเรเนซองส์ที่อิตาลีนั้นขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ทำเอาผมชื่นชอบและหลงใหลศิลปะของประเทศนี้เป็นที่สุดที่มา : อิตาลี นครแห่งศิลปะ8) ทรัพยากรน้ำมัน : กลุ่มประเทศตะวันออกกลางทรัพยากรที่สำคัญที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในยุคปัจจุบันคงหนีไม่พ้นน้ำมัน ซึ่งผู้ถือครองแหล่งทรัพยากรน้ำมันของโลกนั้นอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางได้มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอย่าง OPEC ซึ่งเป็นการรวมตัวกันประเทศเจ้าของแหล่งทรัพยากรน้ำมันรายใหญ่ของโลกเป็นประชาคม เพื่อการส่งออกน้ำมันสู่ทุกประเทศทั่วโลก และด้วยการมีทรัพยากรน้ำมันอย่างมหาศาลทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้มีอำนาจต่อรองกับชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน และสหภาพยุโรป ทั้งในเรื่องของความมั่นคงและเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีแน่นอนว่าพลังงานเชื้อเพลิงที่สำคัญในปัจจุบันนี้คือ น้ำมัน ยานพาหนะส่วนใหญ่ยังมีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ผมเองก็คือคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ยานพาหนะที่ต้องอาศัยน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ดังนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราจำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรน้ำมันจากประเทศเหล่านี้ที่มา : ทำไมโอเปกถึงยังสำคัญและอาจดึงอำนาจในการคานน้ำมันโลกกลับมาได้9) วัฒนธรรมอาหาร : จีนวัฒนธรรมด้านอาหารของหลายๆ ประเทศได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักไปอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น fast food จากชาติตะวันตก อาหารสุดหรูจากฝรั่งเศส อาหารยอดนิยมอย่างอาหารอิตาเลี่ยน อาหารสุดพิเศษจากท้องทะเลอย่างอาหารญี่ปุ่น แต่ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอาหารจีน ทั้งสตรีทฟู้ดอย่างบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ ไปจนถึงอาหารเหลาอย่างเป็ดปักกิ่ง หมูหัน ที่ทำเอาคนทั่วโลกน้ำลายไหลและต้องอิ่มสุขใจทุกครั้งเมื่อได้ลิ้มรสชาติอันแสนอร่อยของอาหารจีนในภัตตาคาร เพราะด้วยการอพยพไปยังดินแดนต่างๆ ของคนจีนในอดีต ทำให้เกิดเป็นชุมชนคนจีนในชาติต่างๆ และได้แน่นอนว่าต้องมีการเปิดร้านอาหารจีน ซึ่งชาวต่างชาติก็ได้ลิ้มลองอาหารจากแดนมังกร และซึมซับวัฒนธรรมมาโดยไม่รู้ตัว ถือเป็น Soft Power ที่สุดยอดอีกหนึ่งอย่างของโลกเลยทีเดียว“บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสไม่งอก ขนมจีบกุ้งโรยกระเทียมเจียว” เมนูอาหารที่หลายๆ คนโปรดปราน รวมถึงผมด้วย ถือว่าอาหารจีนแทรกอยู่ทุกอนูของมื้ออาหารที่เรากินประจำเลย แม้แต่เวลามีงานเลี้ยง เรายังคุ้นเคยกับโต๊ะจีนด้วยซ้ำ จะไม่เรียกว่า soft power ก็คงไม่ได้แล้วแหละที่มา : 10 อาหารจีนขึ้นชื่อ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ10) การศึกษา : กลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกาประเทศชาติจะพัฒนาได้ดีต้องเริ่มที่การศึกษา กระแสการศึกษายังต่างประเทศจึงเกิดขึ้น โดยประเทศที่คนทั่วโลกนิยมเดินทางไปศึกษาต่อ ได้แก่ ประเทศมหาอำนาจและประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วอย่างกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา การันตีด้วยหลักสูตรที่มีคุณภาพ คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เกณฑ์การรับเข้าศึกษาและการจบการศึกษาที่เข้มงวดสุดๆ แต่แลกมาด้วยดีกรีและเครดิตที่ดีต่อหน้าที่การงาน โดยสถาบันที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม เช่น University of Oxford, University of Cambridge สหราชอาณาจักร Harvard University, Yale University สหรัฐอเมริกา เป็นต้น นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยการศึกษานั้นมีผลต่อความคิดของคนโดยตรงจึงทำให้นักศึกษาที่ศึกษาในประเทศต่างๆ ดังกล่าวได้รับแนวคิดแบบประเทศนั้นๆ ทั้งด้านการเมืองและวิถีชีวิต ถือเป็น Soft Power ที่มีอิทธิพลต่อบุคคลมากที่สุดแน่นอนเลยว่าความคิดของคนส่วนใหญ่รวมถึงผม เมื่อพูดถึงเรียนต่อไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม ประเทศยอดฮิตสุดๆ คงหนีไม่พ้นอังกฤษ อเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส ซึ่งรับรองเลยว่าหากจบมาจากประเทศเหล่านี้การันตีได้งานและตำแหน่งดีๆ แน่นอนที่มา : 10 อันดับประเทศยอดฮิต ที่นักเรียนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไปเรียนต่อเป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 10 สุดยอด Soft Power จากทั่วทุกมุมโลก ที่ผมนำมาฝากทุกคนในวันนี้ ไม่แปลกใจเลยไม่ใช่มั้ยครับที่ประเทศเหล่านี้จะสามารถรักษาความเป็นมหาอำนาจของโลกได้ เพราะประเทศเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงความเจริญ เทคโนโลยี เศรษฐกิจที่ดี หรือการทหารเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสุดยอด Soft Power ที่เรายากจะปฏิเสธอยู่ในมืออีกด้วย แหม่...ช่างสุดยอดอะไรเช่นนี้ติดตามผลงานจาก Feel Good Studio และ World Wide Wonder EP.3 ได้เร็วๆ นี้นะครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน..สวัสดีครับ..‼️แนะนำให้อ่าน >>>>>> World Wide Wonder EP.1: 10 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับทวีปแอฟริกาเครดิตภาพปก : (1) Getty Images Proเครดิตภาพประกอบ : (1) George Dolgikh / (2) Getty Images Pro / (3) f9photos / (4) Getty Images Pro / (5) pixabay / (6) Pexels / (7) Getty Images Pro / (8) pixabay / (9) Getty Images / (10) romanbabakin / (11) Getty Images Proอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !