หลังจากที่ทางการท่านมีคำสั่งยกเลิกการกักตัวช่วงโควิดแล้ว ไปไหนดี เชื่อว่าคำถามนี้ต้องเกิดขึ้นในหัวของใครหลายคน อีกทั้งในขณะนี้สถานการณ์กำลังคลี่คลาย มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น หลายท่านก็เริ่มวางแผนหาที่ชอบ...ที่ชอบ ไปเพื่อออกไปปลดปล่อยความเป็นอิสระของตนเอง I believe I can fly!!! สำหรับท่านใดที่ยังคิดไม่ตกว่าจะไปที่ชอบ...ที่ชอบ ที่ไหนดี วันนี้เราขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองหลวง จะไปเช้าเย็นกลับ หรือจะไปค้างสักคืนสองคืนก็แล้วแต่ตามอัธยาศัย ที่แห่งนั้นก็คือ ถ้ำพระยานคร ครับ ถ้ำพระยานครแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเข้าสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางใต้ประมาณ 250 กิโลเมตร สำหรับการเดินทาง 1. การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับนักพาหลงอย่างเรา เปิด google map แล้วกำหนดปลายทางที่ อุทยานแห่งชาติเข้าสามร้อยยอด เลยครับง่ายสุด รับรองไปถึง แต่มีข้อควรระวังคือ การพาเข้ารกเข้าพงของเนวิเกเตอร์ของเรา เนื่องจากระบบจะประมวลผลเส้นทางที่สั้นที่สุด ดังนั้นท่านอาจจะพบกับสิ่งไม่คาดฝัน ดังนั้นหากถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ จอดรถแล้วประเมินสถานการณ์ครับว่าจะไปดีหรือไม่ หรือจะยอมอ้อมสักหน่อยจะปลอดภัยกว่า โดยส่วนตัวในบางครั้งก็ชอบทะเลาะกับผู้นำทางดิจิตอลครับ พาไปไหนก็ไม่รู้น่ากลัวสุดๆ 2. การเดินทางโดยรถประจำทาง : สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยรถประจำทาง ส่วนตัวก็ไม่ค่อยสันทัดกรณีเท่าใดนัก ถ้ายังไงลองไปเดินๆ แถวสถานีขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) ดูครับ เห็นว่ามีรถมาถึง ถ้าเกิดข้อสงสัยประการใดในเส้นทางก็สอบถามประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม หรือ ลองเข้าไปส่องที่เว็บของ lazybus ก็ดูสะดวกดีนะครับ และเห็นว่าไปถึงท่ารถต้องเหมารถเข้าไปที่อุทยานสามร้อยยอดอีกต่อหนึ่งด้วยนะครับ 3. การเดินทางโดยรถไฟ : สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ ก็ไม่ค่อยสันทัดกรณีเช่นกัน แต่มีผู้เชี่ยวชาญทางการเดินทางโดยรถไฟท่านหนึ่งแนะนำให้ไปลงที่สถานีหัวหินแล้วเหมารถเข้าไปที่สามร้อยยอดจะสะดวกกว่านะครับ จริงเท็จประการใดก็ไปจัดการกับผู้แนะนำทางนั้นก็แล้วกัน การเดินทางรถไฟจะสมบุกสมบันหน่อยๆ และใช้เวลาหลายชั่วโมง ดังนั้น หนังสือที่ชอบต้องมี เกมที่ชอบอย่าได้ขาด ของกินเล่นต้องเหลือเฟือ 4. การเดินทางโดยรถเพื่อนไป : ให้เพื่อนมารับที่บ้าน พอขึ้นรถไปก็แกล้งหลับยาว แล้วก็ตีมึนๆ ตื่นมากินฟรีแถมไม่ช่วยค่าน้ำมัน แล้วเพื่อนจะรักเรามากยิ่งขึ้นครับ หะ...เรือมาแว้วว เส้นทางถนนจะพาเรามาถึงจุดสุดท้ายคือ หาดเจ้าพระยาบางปู จากตรงนี้จะมีทางให้เราเลือก คือ 1. เดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือ เรียกง่ายๆ ว่าเดินผ่าเขาเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เดินฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือ 2. เหมาเรือนั่งอ้อมเขา สะดวกกว่า แต่ก็แพงกว่า ส่วนค่าเรือต้องลองตกลงกับนายหน้าตัวแทนดูครับว่าประมาณกี่บาท ตอนที่ไปรู้สึกจะโดนเหมาจ่ายไปประมาณ 600 เพราะไปกันน้อยคน แล้วที่สำคัญไปสายด้วย เดี๋ยวไม่ทันแสงแดดส่องลงมาที่พระที่นั่ง เรือก็เรือ!!! อ่าว...ไม่ใช่ลำเรา รอต่อไป พอเดินทางข้ามเขามาที่หาดแหลมศาลา ตรงนี้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติ สำหรับคนไทย เด็ก 20 บาท, ผู้ใหญ่ 40 บาท ส่วนกำนัน หรือปลัด จะเสียเท่าไหร่ลองถามเจ้าหน้าที่ดูนะครับ สำหรับชาวต่างชาติ เด็ก 100 บาท, ผู้ใหญ่ 200 บาท สายแว้นแห่งท้องทะเล หลังจากนี้คือการเดิน เดิน แล้วก็เดิน ระยะทางจากหาดแหลมศาลาไปถึงถ้ำพระยานคร มีระยะทางประมาณ 450 เมตร เห็นตัวเลขครั้งแรกบอกเลยครับ ชิลล์...ชิลล์ แต่พอผ่านระยะทางประมาณ 100 เมตรแรกที่เป็นการเดินไปตามทางเรียบไป หลังจากนี้สิครับของจริง สำหรับคนที่ออกกำลังกายโดยการเล่นแกล้งตายมาตลอดหลายปี จนน้ำหนักขึ้นเอา...ขึ้นเอา แทบจะถอดใจ แต่ในเมื่อมาถึงแล้วก็ต้องไปให้ถึง อุปกรณ์ถ่ายภาพนี่ก็จัดเต็ม ทั้งเลนส์ ทั้งขาตั้งกล้อง ทางเดินส่วนใหญ่จะเป็นทางชันแบบบันไดหินต้องระมัดระวัง ค่อยๆ เดินไป ทางหนึ่งก็ต้องระวังไม่ให้กล้องกระแทกกับหิน ทางหนึ่งก็ระวังไม่ให้ตัวเองตกเขา จึงมีความทุลักทุเลในบางช่วง เดินๆ ไปสักพัก เพื่อนเริ่มหายไปทีละคนสองคน รู้สึกตัวอีกทีก็เดินอยู่คนเดียวแล้ว การเดินป่าเดินเขาในขณะนั้นให้ความรู้สึกเหมือนรพินทร์ ไพรวัลย์ ก็มิปาน แต่ภาวนาอย่าให้เจอสัตว์อะไรแปลกๆ ก็เป็นพอ กลัวหนีไม่ทันโชคดีที่ข้างทางยังพอมีที่ทางให้พักเหนื่อยชมวิว และเป็นทางเดินราบบ้าง ถือโอกาสพักเหนื่อยไปในตัว หลังจากเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดเราก็บรรลุถึงทางเข้าถ้ำ ทางเข้าถ้ำนี่ค่อยๆ ทอดยาวลงสู่เบื้องล่าง ก่อนจะไปถึงโถงใหญ่ที่เป็น ซิกเนเจอร์ของที่นี่ ค่อนข้างมืดหน่อยๆ แถมเส้นทางก็ขรุขระ มีแอบลื่นบ้างในบางโอกาส เวลาเดินจึงต้องระมัดระวังอย่างสูง และแล้วก็บรรลุถึงขุมทรัพย์เพชรพระอุมา...ไม่ช่าย!!! และแล้วก็บรรลุถึงโถงใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ตอนที่ไปถึงแสงแดดกำลังส่องลงมาที่พระที่นั่งพอดี ไม่มีเวลาพักเหนื่อยครับ จัดแจงเลือกมุม ตั้งขาตั้งกล่อง แล้วก็รัวชัตเตอร์อยู่สักพักใหญ่ จนแสงแดดค่อยๆ หมดไป ถึงค่อยหาจุดนั่งพัก นั่งพักเหนื่อยและชื่นชมความงามของพระที่นั่งที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใต้ปล่องของปากถ้ำ ความเย็นชื้นภายในถ้ำช่วยให้เหงื่อแห้งเร็วขึ้น หลังจากนั้นจึงใช้เวลาสักพักใหญ่เดินชมบริเวณรอบๆ ถ้ำ ก่อนที่จะเดินทางกลับ สำหรับผู้ที่ต้องการชมความงามของแสงพระอาทิตย์ส่องลงมาตรงพระที่นั่ง ควรไปถึงที่โถงใหญ่ ช่วงเวลาประมาณ 11 โมง ถึงเที่ยง นะครับ ส่วนเวลาเปิดปิดก็ ทุกวัน เวลา 9.00 - 17.00 น. เห็นว่าช่วงเวลาเหมาะแก่การชมคือฤดูหนาว ว่าแต่…ประเทศเรามีฤดูหนาวด้วยรึ!!! ระหว่างรอเรือกลับบ้าน *ปัจฉิมลิขิต : นอกจากถ้ำพระยานคร ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกหลายที่นะครับ ถ้ายังไงก่อนไปก็ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซด์ของทางอุทยานแห่งชาติได้ ภาพประกอบโดย : Shenzhen inDY