เมืองสามอ่าวเป็นฉายาของประจวบคีรีขันธ์ ที่อ่าวติดกันถึง 3 อ่าว คือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาว ในความรู้สึกของผมเป็นเมืองที่เงียบสงบมาก ๆ การเดินทางของผมเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม อาจจะเป็นเพราะนอกฤดูท่องเที่ยว แต่ทริปนี้เป็นทริปที่ปุ๊บปั๊บไป จากการที่ตกลงกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนปี 3 จนเรียนจบพึ่งจะได้ไป จึงเป็นทริปที่ตัดสินใจปุ๊บปั๊บ เริ่มแรกคือหาที่พักแล้วค้นไปเจอ ว่ามีที่พักใน กองบิน 5 อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่พักสวัสดิการ ทอ.อ่าวมะนาว ก็เลยตัดสินใจโทรจองห้องพัก และโชคดีที่มีห้องว่างพอดี พอถึงวันเดินทางก็นั่งรถจากพิษณุโลกไปลงที่หมอชิตตอนเช้ามืด และต่อรถตู้ที่หมอชิตไปประจวบคีรีขันธ์ในราคา 244 บาท โดยรถตู้สามารถไปส่งเราได้ถึงที่เลยวันแรกเราไปพักที่ De Hostel เจ้าของน่ารักมาก แนะนำสถานที่เที่ยวครบเลย สำหรับที่พักจะอยู่ในซอยหลังโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ข้างล่างที่พักจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ซึ่งเราสามารถเดินไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์แถว ๆ ริมอ่าวประจวบ ค่าเช่าวันละ 200 บาท พอช่วงเย็นก็ออกไปถ่ายรูปเล่นกันบรรยากาศริมทะเลดีมากๆเลย แล้วก็ไปทานข้าวซึ่งจะบอกว่าอาหารทะเลถูกและสดมากก พอช่วงเย็นก็ออกไปถ่ายรูปเล่นกันบรรยากาศริมทะเลดีมากๆเลย แล้วก็ไปทานข้าวซึ่งจะบอกว่าอาหารทะเลถูกและสดมากก วันที่ 2 เราเช็คเอ้าท์จากที่พักเพื่อจะเข้าไปพักที่ฟ้าชมคลื่น วันนี้บรรยากาศคือลมแรงมาก หลังห้องจะมองเห็นทะเลทุกห้องเลย สามารถนั่งชิวๆมองทะเลจากหลังห้องได้เลย เราพากันเดินออกมาถ่ายรูปริมอ่าวมะนาว ก่อนที่น้ำจะค่อยๆขึ้น วิวดีมากก คนไม่ค่อยเยอะเพราะไม่ใช่ช่วงฤดูเที่ยว พอค่ำๆฝนก็เริ่มลงเม็ด อากาศริมทะเลน่าเดินเล่นมากๆ เช้าวันที่ 3 เราตื่นมารับประทานอาหารเช้าทางที่พักจัดไว้ให้ ห้องรับประทานอาหารก็อยู่ริมทะเลเลยครับ พอทานเสร็จก็เช็คเอ้าท์ ออกจากที่พักเพื่อเดินทางกลับ โดนเราเอารถมาคืน ทางร้านที่เช่ารถเขาก็จะมีรถซาเล้งไว้คอยส่งลูกค้าที่ท่ารถตู้ โดยคิดค่าบริการคนละ 50 บาท คือที่นี่จะไม่มีวินมอเตอร์ไซต์ครับ เราต่อรถตู้กลับกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครับ สำหรับผมชอบวิวบริเวณอ่าวมะนาวดูเงียบสงบ กว้างไกล อากาศดีมาก ๆ ครับ สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็อยู่คนละประมาณ 3,000 บาท ถือว่าคุ้มครับสำหรับการเดินทางครั้งนี้ อยากให้ทุกคนไปลองสัมผัสอากาศริมทะเลแบบนี้ และถ้ามีโอกาสผมก็จะกลับไปอีกครับ