ถ้ามีคนถามผมว่าไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วจะไปดำน้ำกับปลา ดูประการัง ก็ต้อง เกาะทะลุ ที่นี่เป็นที่ 1 อยู่แล้วครับ ซึ่งเกาะทะลุ เป็นเกาะเล็กๆ สามเกาะที่อยู่ใกล้เคียงกัน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาก เกาะทะลุเป็นเกาะขนาดเล็ก ที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง ของอำเภอบางสะพานไม่ไกลนัก สามารถนั้งเรือมาที่เกาะทะลุ โดยใช่เวลาอยู่ประมาณ 30 นาที แถมยังเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม มีต้นมะพร้าวขึ้นเป็นทิวสวยงาม บวกกับหาดทรายสีขาวสะอาดตา ที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่สามารถเดินเล่นชิวๆ บนชายหาดได้ มีที่ให้ถ่ายรูป เซลฟี กับความสวยงามธรรมชาติ ทั้งนี้น้ำทะเลยังใสมาก ใสแบบเป็นสีฟ้าครามเลย จนสามารถมองเห็นปลาแหกว่ายอยู่ตามแนวประการัง กิจกรรมที่เป็นนิยมกันมากที่สุดของการมาเที่ยวเกาะลุ ก็คือการที่ได้ดำน้ำดูประการัง ร่วมไปกับฝูงปลาที่ไปตามแล้วประการังที่สวยงาม ถ้าใครโชคดีอาจได้เจอกับพี่ใหญ่แห่งเกาะทะลุออกว่ายหาอาหารกินก็ได้นะครับ พี่ใหญ่ในที่นี้ก็คือฉลามวาฬนั้นเอง เป็นที่การันตีว่าเกาะทะลุนั้นอุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงกิจกรรมในตอนกลางวันเท่านั้นนะครับ ในตอนยามค่ำคืนยังสามารถนั่งเรือไปตกปลาหมึก ซึ่งมาเรือของชาวประมงให้เช่ามาตกปลาหมึก ที่หลายคนไม่เคยตกมาก่อน แต่ผมขอเตือนไว้อย่างนะครับ อย่าใส่ผ้าสีขาวไป เพราะเดียวจะมันเปลียนกลายเป็นสีดำ จากหมึกที่ถูกพ้นออกมาแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน บนเกาะยังมีอ่าวสำคัญอยู่หลายแห่งให้เดินชมธรรมชาติ เช่น อ่าวมุก มีบรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใสๆสีฟ้าคราม ทรายขาว ในขณะที่อ่าวไทรใหญ่นั้นเหมาะกับการดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัก เพราะจุดนี้มีประการังอยู่มาก และสุดท้ายอ่าวเทียน เป็นอ่าวที่เหมาะสำหรับชมธรรมชาติ ถ่ายภาพ หรือเดินเล่นเที่ยวแบบชิวๆ เนื่องจากบริเวณอ่าวนี้มีต้นเทียนขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากทำให้เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูป ถ่ายเซลฟี่ เอาไปโพสลงโซเซียลอวดเพื่อนๆ ถ้าใครต้องต้องการที่จะพักบนเกาะก็สามารถมาพักได้ เพราะมีรีสอร์ทเปิดให้บริการ แต่ก็มีแค่แห่งเดียวจึงไม่สามารถเลือกได้ แต่รับประกันได้เลยว่าถึงแม้มีแห่งเดียวแต่ก็สะอาดและสวยงามคู่กับธรรมชาติองเกาะทะลุมากเลยครับ ทางรีสอร์ทยังบริการไว้หลายอย่าง ทั้งเรือคายัก ที่สามารถพายเที่ยวชมบริเวณเกาะ โต๊ะเก้าอี้สำหรับน้ำพักผ่อนที่ริมชายหาด บนเกาะยังมีโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลและแนวประการัง โดยบนเกาะยังเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ขึ้นมาว่าไข่ทุกปี โดยมีโครงการนี้มาหลายปีแล้ว ยังสามารถเข้าไปรับชม ภายในโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลได้ด้วย ซึ่งเป็นที่อนุบาลของเหล่าลูกเต่ากระ และยังสามารถไปให้อาหารน้องเต่าตัวน้อย ร่วมถึงทำความสะอาดน้องเต่าที่อยู่ในโครงการได้ด้วยนะเออ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญต้องเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เพราะเป็นช่วงที่เต่าจะขึ้นมาว่างไข่ที่เกาะ ยังสามารถเป็นจิตอาสาฯมาช่วยทำความสะอาดบ่อของน้องเต่าแล้วยังสามารถไปปลูกประการังได้ด้วย เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปลาและเป็นบ้านให้กับน้องเต่า ที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมต่อไปอีกนะครับ ขอบคุณภาพจาก : www.facebook.com/Talutrips/