ย้อนกลับไปในสมัยเรียน ม.ต้น ในวิชาภูมิศาสตร์ คุณครูมักจะถามว่า จังหวัดอะไรเอ่ย ที่มีฝนตกมากที่สุดในประเทศไทย คำตอบคือ จังหวัดระนอง โดยมีฝนตกเฉลี่ย 8 เดือน/ปี ส่วนทีเหลือคือฤดูร้อน ฉะนั้นจึงเป็นทื่มาของ เมืองฝนแปดแดดสี่นั่นเอง และสิ่งที่ทำให้ประทับใจเมื่อได้มาเยือนเมืองแห่งนี้นั่นคือ บ่อน้ำพุร้อน ที่สามารถลงไปนอนแช่ได้ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวสด ทำให้การมาเยือนเมืองนี้ ถือเป็นการพักผ่อนที่เป็นการพักผ่อนจริงๆ บ่อน้ำร้อนแห่งนี้มีชื่อเรียกขานกันว่า บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งเป็นที่นิมยมชมชอบของคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ที่ไม่พลาดที่จะมาเยี่ยนชม หรือใช้บริการกันอย่างไม่ขาดสาย สำหรับใครที่พักในโรงแรมที่ได้รับสัมปทาน ก็สามารถมาใช้บริการได้ฟรี ในบ่อน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิที่พอเหมาะแก่การแช่น้ำร้อน ประมาณ 38 - 42 องศาเซลเซียส และผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นกัน โดยมีค่าใช้บริการท่านละ 40 บาท โดยบ่อน้ำร้อนที่นี่มีความพิเศษที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะค่าของแร่ธาตุที่มากับน้ำร้อนนั้นจะมีสรรพคุณช่วยให้เลือกหมุนเวียนได้ดีเพราะได้รับการกระตุ้นจากน้ำร้อน ช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยล้าของร่างกายได้ และชาวเมืองระนองยังเชื่อว่าสามารถรักษาโรคบางโรคได้ด้วยค่ะ สำหรับสิ่งที่ห้ามพลาดอีกอย่างหนึ่งของเมืองฝนแปดแดดสี่ อย่างจังหวัดระนองนั้น ก็คืออาหารค่ะ วันนี้เลยจะขอแนะนำอาหารที่ไปที่ไหนก็หารับประทานง่ายแต่ใช่ว่าจะอร่อยทุกที่ แต่ที่นี่อร่อยจริง นั่นคือ ราดหน้า ของร้านกนกซุปเปอร์ราดหน้า ซึ่งเป็นร้านที่เก่าแก่และอยู่คู่เมืองระนองมาหลายสิบ และเป็นที่นิยมของคนที่นี่มาก เมนูที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ ราดหน้าหมู เพราะที่นี่เขาหมักหมูด้วยสูตรของทางร้านทำให้รสชาดหมูออกมาอร่อย นุ่มมากค่ะ และทางร้านยังมีเมนูหลากหลายให้เลือกสรรค่ะ ถ้ามาเยือนเมืองระนองอย่าลืมแวะไปแช่น้ำที่บ่อน้าร้อน และกลับเข้ามาหาของอร่อยๆ ในย่านชุมชนทานกันก่อนกลับเข้านอนนะคะ ภาพโดย ผู้เขียน