ถ้าพูดถึง 'เกาะช้าง' หลายคนคงนึกถึงเกาะที่โด่งดังที่จังหวัดตราดแน่เลย จะมีกี่คนที่นึกถึงเกาะเล็ก ๆ เงียบสงบ ที่ทอดตัวข้างเกาะพยาม อีกเกาะที่เป็นที่รู้จักมากกว่าของจังหวัดระนอง ฉันเองก็เหมือนคนอื่น ๆ ที่เกาะช้างนี้ออกจะนอกสายตา ทีแรกฉันก็ตั้งใจจะไปเกาะพยามนั่นแหละ แต่พอหาข้อมูลที่พักไป ๆ มา ๆ รูปบรรยากาศของ Sunset bungalow ในเน็ตก็ตกฉันเอาจนได้ ฉันเปลี่ยนใจในนาทีนั้นแล้วกดจองบังกะโลหน้าหาดหลังหนึ่งทันที แล้วตั้งหน้าตั้งตารอวันเดินทางมาถึงอย่างใจจดจ่อ เมื่อมาถึงที่หมาย สิ่งที่ได้เห็นมันเกินคาดฝันไปมาก อันที่จริงฉันไม่ใช่แฟนคลับของทะเลเท่าไหร่ แต่บางเวลาก็อยากให้เสียงคลื่นขับกล่อม ตื่นมาก็เห็นหาดทรายกว้างอยู่ตรงหน้าทันที แต่ข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจให้ฉันได้แค่ที่พักที่อยู่ห่างจากชายหาดออกไป แต่ทว่าบังกะโลที่นี่ทำให้ฉันเติมเต็มความอยากของตัวเองด้วยงบเพียงคืนละ 750 บาท ด้วยงบแค่นี้กับช่วงเวลาโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าพีคซีซั่น ฉันจึงรู้สึกเหมือนได้เป็นเจ้าของหาดทั้งหาด เสียงคลื่นสาดเข้าฝั่งทั้งวันทั้งคืน วิวพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดใจ และดาวทั้งฟ้าในตอนกลางคืน เกาะช้างจะมีไฟใช้แค่ตอน 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มเท่านั้น เพราะอย่างนั้นถ้าไม่ได้ชาร์ตแบตเตอรี่ไว้ให้เต็มหรือไม่มีแบตสำรอง ก็อาจจะออนไลน์ไม่ได้ตลอดวัน แต่ฉันว่านะ มาเกาะเงียบสงบแบบนี้ทั้งที ละสายตาออกจากจอบ้างก็ได้ ถ้าใครอยากจะมาทำดิจิทัลดีท็อกซ์ หรืออยากหนีหน้าผู้คนไม่อยากติดต่อใคร ที่นี่เป็นที่ที่เหมาะ และยิ่งถ้าคุณใช้ดีแทค ทรูมูฟ คุณจะทำสำเร็จ (ฮา) วัน ๆ ของฉันที่นี่ไม่มีะไรมาก เช้ามากับกาแฟสักแก้ว อาหารเช้าเบา ๆ อย่างขนมปัง ไข่ดาว และมูสลี่สักหน่อย ขอบอกว่าขนมปังและโยเกิร์ตของที่นี่ทำสดทุกวัน อร่อยมากเชียวล่ะ หรืออยากกินข้าว ข้าวต้ม ก็สั่งได้เลย หลังอาหารเช้า อากาศยังไม่ร้อนก็ได้เวลาเดินเล่นไปตามชายหาดสักหน่อย เจ้าของบังกะโลบอกว่าเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอวัด แต่อย่าเข้าไปดีกว่าเพราะหมาดุ เดินจากวัดไปอักหน่อยจะเจอสะพานซึ่งฉันเดินไปไม่ถึง ระหว่างทางจะเจอบังกะโลเจ้าอื่น ๆ ที่เงียบเชียบไม่ต่างกัน จนรู้สึกเหมือนทั้งเกาะเป็นของฉันคนเดียว ด้วยความที่เกาะช้างไม่ได้เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก ธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์เช่าอะไรก็ยังไม่มีให้เห็นเต็มตัว (แต่ถามเอากับพี่วินที่ท่าเรือเอาได้) การเดินทางในเกาะ เลยยังไม่สะดวกมาก ที่พักต่าง ๆ จึงมักจะมีร้านอาหารของตัวเอง หรือถ้าขยันหน่อย เดินไปตามหน้าหาดก็จะได้เจอร้านอาหาร บาร์ และร้านชำบ้าง เช่นเดียวกับกิจกรรม ที่นี่ก็ไม่มีกิจกรรมมากนัก ถ้าจำไม่ผิดที่บังกะโลจะมีทริปขี่จักรยาน แต่อาจจะจัดในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่านี้ สายที่ชอบปาร์ตี้ ชอบกิจกรรมหนัก ๆ อาจจะเบื่อก็ได้ แต่สำหรับสายชิลล์อย่างฉัน ยังไงก็ได้ มีอาหารและที่พัก กับกาแฟสดให้กินก็พอใจแล้ว อ้อ หนังสือสักเล่มด้วย มุมโปรดของฉันคือเปลญวนตรงระเบียงหน้าบังกะโล ที่ฉันจะได้เอนตัวนอนอ่านหนังสือโดยมีเสียงคลื่นเป็นซาวน์ประกอบ ช่วงเช้าถึงสาย ๆ อากาศยังไม่ร้อนมาก เรียกได้ว่า แค่ส่วนประกอบสองอย่างนี้ ก็เพลินจนลืมเวลาไปเลย รู้ตัวอีกที แดดบ่ายก็ไล่แล้ว ถึงกลางวันจะไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ก็มีที่หลบร้อนที่เย็นมาก ๆ นั่นคือห้องสมุดน้อย ๆ ที่อยู่ตรงร้านอาหาร เย็นโดยไม่ต้องใช้พัดลมเลย เป็นจุดที่ลมพัดเข้ามาดีมาก มีโต๊ะเตี้ยๆ หมอนอิง ให้นั่งนอนอ่านหนังสือ หนังสือบนชั้นส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ มีภาษาอื่นมาบ้างประปราย ใครพลาดไม่ได้ติดหนังสือมาก็ไปส่องที่ชั้นนี้ได้ แต่ไม่มีหนังสือภาษาไทยนะ ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือที่มีกองดองที่ยังไม่ได้อ่านสักที่ และอยากหาที่อ่านหนังสือชิลล์ ๆ เก๋ ๆ ฉันขอแนะนำที่นี่เลย เพราะไม่ว่าเอามากี่เล่มก็อ่านจบแน่นอน แล้วเวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง เวลาที่ฉันจะได้นั่งชมดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า ที่ฉันเห็นภาพในเน็ตแล้วถึงกับเปลี่ยนใจมาที่นี่ ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ผ้าใบ สายตาจับจ้อง มองผืนฟ้าและผืนน้ำเบื้องหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปทีละน้อย กับลูกไข่แดงที่ค่อย ๆ ลาแสง คล้อยต่ำจนตกแผ่นน้ำไปในที่สุด สิ่งที่ฉันรักอีกอย่างหนึ่งก็คือผืนฟ้าหลังจากพระอาทิตย์ตกไปแล้ว มันเหมือนกับผ้าใบขนาดใหญ่ที่ใครบางคนกำลังระบายสี เป็นภาพที่ฉันมองได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้เบื่อ แม้ในชีวิตนี้ฉันจะได้นั่งมองพระอาทิตย์มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ที่นี่ฉันได้ดื่มด่ำแสงสุดท้ายของวันอย่างเต็มอิ่ม โดยไม่มีอะไรมาบดบัง และไม่มีใคร (ฮา) ถ้าจะให้แนะนำสถานที่ดูพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุด ฉันจะแนะนำที่นี่แน่นอน highly recommended ไปเลย ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายชิลล์ที่ชอบความเงียบสงบ ไม่กลัวเหงา ไม่กลัวเบื่อ ไม่กลัวผี และปลื้มปริ่มกับการได้รู้สึกว่าหาดทั้งหาดเป็นของฉันคนเดียว หรือคนที่อยากพักผ่อน อยากอยู่เฉย ๆ ถ้าได้ลองมาใช้เวลาที่เกาะนี้แล้วอาจจะหลงรักที่นี่เหมือนฉันก็ได้ แต่เกาะช้างไม่ได้เปิดทั้งปีนะ จะเปิดประมาณ ตุลาคม - มีนาคม เวลาที่แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากไปเจอผู้คนเยอะ ๆ ก็ช่วงปลายตุลาคมเลย ส่วนช่วงอื่น ๆ อาจต้องสอบถามกับบังกะโลดู