บริเวณหน้าเกาะตอนน้ำลด สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน ในอีพีนี้เราจะเล่าถึงวิถีชีวิตของคนบนเกาะที่แสนเรียบง่ายใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติของท้องทะเล ไม่มีบ้านหลังใหญ่โต ไม่มีรถขับ แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ยังต้องเดินหาแต่ทุกคนก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ชาวบ้านบนเกาะบูโหลนมีประมาณ 300 คน 90 หลังราคาเรือน บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นขนำ ทำด้วยไม้ หลังคาสังกะสี ผนังสังกะสี บางหลังผนังไม้ไผ่สาน ส่วนบางหลังที่พอมีฐานะหน่อยก็จะทำด้วยปูนเหมือนบ้านทั่วไปในเมือง ที่นี่ใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟของส่วนรวมโดยจะเก็บค่าไฟแต่ละครัวเรือนเพื่อซื้อน้ำมันมาใช้ในการปั่นไฟต่อไป ส่วนน้ำใช้จะปล่อยมากจากแทงค์บรรจุน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่บนเขาซึ่งได้กักเก็บไว้ในช่วงหน้าฝนปล่อยลงมาให้ใช้ตามครัวเรือน แต่ในช่วงหน้าแล้งชาวบ้านจะมาใช้น้ำบ่อของส่วนรวมซึ่งมีอยู่แห่งเดียวบนเกาะ บริเวณบ่อน้ำที่มีอยู่แห่งเดียวบนเกาะ อาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่ผู้ชายจะออกทะเลหาปลา ตกหมึก มาขาย ในช่วงไฮซีซั่นก็จะมีขับเรือโดยสารบ้าง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านดูแลลูก ๆ แต่ในช่วงเวลาน้ำลดแม่บ้านบางคนก็จะเก็บหอยแถวชายหาดมาทำกับข้าวในครัวเรือน ชาวบ้านบนเกาะมีภาษาเป็นของตัวเองแต่ก็ สามารถถพูดภาษากลางและภาษาใต้ได้ บนเกาะมีร้านค้าเล็ก ๆ 3-4 ร้านขายขนมและของใช้จำเป็นในครัวเรือน เช่น สบู่ยาสีฟัน ผงซักฟอก ของใช้ในครัวเป็นต้น ชาวบ้านกลับมาจากหาหอย ถ้าหากพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า โซฟานิ่ม ๆ แอร์ รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนในเมือง แต่สำหรับบนเกาะแห่งนี้แล้วพวกเขาแทบจะไม่มีอะไรเลยแต่ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข ร้อนก็ออกมานอนใต้ต้นไม้ หิวก็ไปออกทะเลหาปลา ตอนเย็นแดดร่ม ๆ วัยรุ่นชายก็จะรวมตัวกันเล่นฟุตบอล วัยรุ่นหญิงก็นั่งจับกลุ่มพูดคุยกันริมทะเล เด็กเล็ก ก็เล่นทรายบนชายหาดกันอย่างสนุกสนาน คือความเคยชินที่กลายเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นภาพที่เราได้เห็นตลอด 4 คืน 5 วัน ของการมาเยือนบนเกาะแห่งนี้ บทความและภาพถ่าย : แว่นสุนทรีย์