ถ้ำภูผาเพชร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบในการปีนเขา ลอดถ้ำ ชมบรรยากาศแห่งความลึกลับภายในถ้ำ เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โด่งดังในจังหวัดสตูล หลายคนคงจะนึกถึง "ถ้ำภูผาเพชร" เพราะถ้ำแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมาตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับบริษัททัวร์ และนักเรียนที่ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมเกี่ยวการทัศนศึกษา อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติอีกด้วยค่ะ ประวัติความเป็นมาของถ้ำภูผาเพชร คือ ถ้ำแห่งนี้ค้นพบโดยพระธุดงค์นามว่า "หลวงตาแผลง" นักโบราณคดีได้สันนิษฐานว่า ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนในสมัยก่อน ประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว เนื่องจากว่าได้มีการค้นพบหลักฐานต่าง ๆ เช่น กระดูกของมนุษย์ยุคโบราณ ภาชนะดินเผาต่าง ๆ เป็นต้น จุดเด่นของถ้ำภูผาเพชร คือ ภายในถ้ำจะมีลักษณะหินงอกและหินย้อย ที่มีแสงประกายระยิบระยับ คล้ายกับเพชร ในส่วนของหินงอกต่าง ๆ จะมีชื่อเรียกตามลักษณะของหิน เช่น ดอกเห็ด ซุ้มประตู เศียรพระ ดอกบัวคว่ำ เป็นต้น ภาพถ่ายโดยผู้เขียน... ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ได้ไปเที่ยวถ้ำภูผาเพชร ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นการเดินทางที่ผจญภัยที่สุดในชีวิต มีความรู้สึกเหนื่อยมากในระหว่างการเดินทางจากทางเข้าปากถ้ำไปจนถึงทางออกอีกฝั่งหนึ่งของปากถ้ำ จากคำเตือนของพ่อค้าที่ขายของบริเวณหน้าปากถ้ำ กล่าวว่า "อย่าลืมซื้อน้ำเปล่าและไฟฉาย เผื่อเข้าไปในถ้ำด้วยนะหนู เพราะภายในถ้ำจะมืดมาก อีกทั้งยังมีระยะทางไกลถึง 500 เมตร กว่าที่จะเดินทางถึงปากถ้ำอีกฝั่งหนึ่ง" จากนั้นผู้เขียนก็เตรียมน้ำเปล่า ไฟฉาย และยาดม พร้อมตะลุยเข้าสู่ถ้ำภูผาเพชร ภายในถ้ำนั้น จะมีสะพานไม้ทอดยาวไปจนถึงทางออกของปากถ้ำ มีหลอดไฟอำนวยความสะดวก บนสะพานไม้เป็นระยะ ๆ แต่ก็ไม่พอสำหรับความมืดมิดภายในถ้ำ ถึงจะมีหลอดไฟ แต่ไฟฉายก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว ภายในถ้ำนั้นจะประกอบไปด้วย 20 ห้อง ซึ่งห้องที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด คือ ห้องภูผาเพชร ห้องปะการัง ห้องพญานาค ห้องม่านเพชร และห้องแสงมรกต ระหว่างการเดินทางจะมีเจ้าที่บรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของถ้ำภูผาเพชร บรรยายเกี่ยวกับลักษณะของห้องต่าง ๆ ที่มีอยู่ในถ้ำ เช่น "เหตุผลที่ตั้งชื่อห้องปะการัง เพราะว่า ห้องนี้มีลักษณะของหินย้อย คล้ายกับปะการัง" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน... ความประทับใจที่ผู้เขียนได้มาสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ คือ อย่างแรกเลย ประทับใจในตัวพ่อค้าคนหนึ่งที่ขายอาหารอยู่หน้าบริเวณถ้ำ เพราะพ่อค้าคนนี้เป็นคนเตือนให้ผู้เขียนพาไฟฉายและน้ำเปล่าเข้าไปในถ้ำ นึกสภาพตัวเองถ้าลืมพกพาของจำเป็น ทั้ง 2 อย่างนี้ อาจเอาชีวิตไม่รอดออกจากถ้ำก็เป็นไปได้ อีกทั้งยังประทับใจที่ภาคใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามขนาดนี้ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและรักษาความสะอาดในบริเวณถ้ำได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ถ้ำแห่งนี้ทุกคนควรรักษาให้เป็นเป็นสมบัติของชาติตลอดไป ที่ตั้ง : ต.ปาร์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 15.30 น. ราคาเข้าชม : ชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ราคาเข้าชมครั้งละ 30 บาท