สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาชวนทุกท่านไปรู้จักจังหวัดเล็กๆ แห่งหนึ่งในภาคใต้ นั่นก็คือจังหวัดสตูลซึ่งคำว่าสตูลนั่นมาจากภาษามลายูคือคำว่า สโตย แปลว่าต้นกระท้อน หลายคนอาจคุ้นชื่อที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลแค่ เกาะหลีเป๊ะ แต่วันนี้ผมจะพาทุกท่านมารู้จักสถานที่ในจังหวัดสตูลที่น้อยคนจะรู้จัก พร้อมแล้วตามผมมาครับ... ที่แรกผมเลือกไปตอนเย็นเพื่อจะชมพระอาทิตย์ตก นั่นก็คือท่าเทียบเรือตำมะลัง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองสตูล ซึ่งที่นี้จะมีเรือไปเกาะลังกาวีประเทศมาเลเซียทุกวัน แต่ผมเลือกมาชมพระอาทิตย์ตกที่หอคอยชมวิวตำมะลัง ซึ่งภาพที่มองออกยังท้องทะเลอันดามันและเราจะสามารถเห็นประเทศมาเลเซีย จากจุดนี้ได้อีกด้วย โดยข้างๆหอคอยจะมีศาลของกรมหลวงชุมพรฯให้เราได้กราบไหว้ ลมทะเลเย็นๆ แดดไม่ร้อน มองดูพระอาทิตย์ตก เป็นอะไรที่ทำให้เราผ่อนคลายอย่างแท้จริงครับ หอชมวิวตำมะลัง เกาะด้านหน้าคือประเทศมาเลเซีย ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน พระอาทิตย์ตก ณ ท่าเทียบเรือตำมะลัง ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน เช้าวันต่อมาผมขับรถเล่นมายังบริเวณถ้ำเขาจีน ซึ่งก็ตั้งอยู่กลางตัวเมืองสตูล โดยที่นี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม(คนสตูลส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีชาวพุทธส่วนน้อย)โดยลักษณะที่นี้เป็นภูเขาหินปูน มีต้นไม้ร่มรื่นและมีลิงเยอะมาก(ระวังลิงด้วยนะครับบางตัวแอบดุ) ภายในถ้ำเขาจีนเราสามารถไปชมซากหอยยุคแคมเบรียน อายุ 550 ล้านปี ได้ครับอยู่ใกล้ๆพระนอน ผมเดินเล่นสักพักในถ้ำเขาจีนก็เดินทางต่อ ถ้ำเขาจีน ตอนเช้าอากาศดีมาก ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน โดยสถานีต่อไปของเราก็คือบ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอควนกาหลง ไม่ไกลมากจากตัวเมือง โดยบรรยากาศรอบๆตัวบ่อน้ำพุเป็นสวนผลไม้ และสวนยางพาราของชาวบ้าน สภาพบ่อน้ำพุร้อนเหมือนเพิ่งถูกสร้างมาไม่นานไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ภายในบ่อน้ำพุร้อนจะแบ่งเป็นบ่อใหญ่ที่ห้ามเล่นและบ่อเล็กให้เราสามารถแช่ตัวและเท้าได้ครับ ผมใช้เวลาแช่เท้าอยู่ประมาณ 15 นาที รู้สึกได้เลยว่าเท้าเบามากซึ่งการแช่น้ำร้อนช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ผมออกเดินทางจากบ่อน้ำร้อนมายังที่ต่อไปใกล้ๆกันนั้นก็คือน้ำตกโตนปาหนันซึ่งน้ำตกที่นี้น้ำจะไหลค่อนข้างแรง เราสามารถเล่นน้ำได้โซนน้ำตกชั้นล่างๆเพราะด้านบนน้ำตกจะมีการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กครับ และพื้นที่รอบๆน้ำตกก็เป็นป่าดงดิบอุดมสมบูรณ์มากๆครับ ซึ่งหากใครไม่สะดวกเล่นน้ำแนะนำว่ามาถ่ายรูปอย่างเดียวผมรับรองว่ารูปของคุณ ต้องออกมาแนววินเทจแน่นอนครับ บ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน น้ำตกโตนปาหนัน ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน บ่ายๆแก่หลังจากปลี่ยนเสื้อผ้าที่น้ำตกผมเดินทางมายัง ถ้ำภูผาเพชร ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอมะนัง เป็นถ้ำที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยคนค้นพบทางเข้าถ้ำคนแรกคือพระธุดงค์ชื่อ หลวงตาแผลง ได้นั่งสมาธิเห็นคนโบราณมาหาและชี้จุดทางเข้าถ้ำซึ่งปัจจุบันทางเข้าถ้ำก็ยังเป็นทางเดิมมีขนาดเล็กเท่าเดิม ทั้งนี้เพื่อเป็นการไม่รบกวนระบบนิเวศภายในถ้ำ โดยทางเข้าถ้ำจะต้องขึ้นเขาครับและคนที่ตัวใหญ่ น้ำหนักเยอะอาจจะลอดเข้าถ้ำไม่ได้ครับและเมื่อเราเข้าไปในถ้ำก็ต้องตะลึงถึงความใหญ่ของถ้ำที่มีขนาด 50 ไร่ มีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่เหมือนเราหลุดไปอีกโลก มีห้องต่างๆภายในถ้ำกว่า 20 ห้อง ซึ่งตลอดทางเดินจะเป็นสะพานไม้และมีโคมไฟส่องสว่างตลอดทาง โดยในยุคการค้นพบถ้ำนี้แรกๆมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน อายุกว่า 3,000 ปีและพบภาชนะดินเผาอีกด้วยซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้ำแห่งนี้ มีคนยุคโบราณอาศัยอยู่ในอดีต ทั้งหมดที่ผมเล่ามาจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากคุณไม่มาสัมผัสด้วยตนเอง หากมีเวลาว่างก็อย่ามั่วคิดมากครับ ลองมาเปิดใจกับจังหวัดเล็กๆแต่น่ารักแห่งนี้ดูสักครั้ง...สวัสดีครับ ช่องเล็กๆด้านหลังเจ้าหน้าที่คือทางเข้าถ้ำครับ ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน บรรยากาศภายในถ้ำภูผาเพชร ภาพถ่ายโดย : ผู้เขียน